GotoKnow

วิเคราะห์ โครงการ HOP

RAVISARA KOONTAWEE
เขียนเมื่อ 16 ตุลาคม 2565 12:08 น. ()
แก้ไขเมื่อ 16 ตุลาคม 2565 12:11 น. ()

💫 โครงการ HOP 💫 

- จุดกำเนิด / ที่มา  ข้อมูลที่น่าสนใจ ที่จะปูเข้าเรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ; Wind up 
: ปัจจุบันนี้ มีเด็กพิเศษหลายกลุ่มมากที่ขาดโอกาสในการศึกษา เพียงเพราะพวกเขามีขอบเขต หรือ ขีดจำกัดที่ว่า เป็นเด็กพิเศษ หรือ เป็นเด็กที่ไม่เหมือนคนอื่น ทำให้พวกเขามักไม่ได้เข้ารับการศึกษา ด้วยเหตุผลนี้ ทางกลุ่มเราจึงเล็งเห็นว่า จะจัดทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับเด็กพิเศษ  โดยโรคหนึ่งที่มีความสำคัญและพบได้ในไทย คือ เด็กที่เป็นโรคพิการทางสมอง (Cerebral Palsy ; CP) เพราะเป็นโรคที่ค่อนข้างยังไม่มีงานวิจัยหรือหน่วยงานใด ให้ความสนใจ หรือ เข้ารับการช่วยเหลือทางด้านการศึกษาของเด็กสมองพิการมากเท่าไหร่ แต่เนื่องจากเด็กสมองพิการมีความรุนแรงหลายระดับ กลุ่มเราจึงมุ่งไปยัง กลุ่มที่ เป็นพิการไม่รุนแรง เพราะเราเชื่อว่า เด็กกลุ่มนี้ จะสามารถทำการศึกษาได้ กลุ่มเราจึงทำการหาทางเลือกทางการศึกษาที่เหมาะสมกับเด็ก CP กลุ่มนี้ นั่นก็คือ Homeschool ซึ่ง Homeschool  ก็มีหลายแบบเช่นกัน เราเลยจัดทำโครงการ การให้ความรู้เกี่ยวกับ Homeschool แก่ผู้ปกครองของเด็ก CP ขั้นพิการไม่รุนแรง ในช่วงเด็กปฐมวัย - ประถมศึกษาตอนต้น เพื่อเป็นทางเลือกทางการศึกษาให้แก่ผู้ปกครอง เพราะผู้ปกครองถือเป็นบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดเด็ก CP มากที่สุด และสามารถเลือกแนวทางการศึกษาที่เหมาะสมกับบุตรหลานตนเองที่เป็นเด็ก CP ได้ 

- เล่าเรื่องเปิดตัวร้าย บอกความท้าทายอันใหญ่หลวง ; Hurdle
: เพราะ คำว่า "เด็กพิเศษ" ทำให้ใครหลายๆคนมักตั้งขอบเขต หรือ ตั้งขีดจำกัดไว้แล้ว ว่าพวกเขาจะทำไม่ได้ หรือ ทำไม่เหมือนคนอื่น แม้แต่ผู้ดูแล หรือ ผู้ปกครองที่ดูแล เด็ก CP เอง ก็คิดว่าบุตรหลานตนเอง ที่เป็น  CP จะทำสิ่งต่างๆไม่ได้ ทำให้ผู้ปกครองมักจะยิ่งเป็นห่วงบุตรหลาน จนบางครั้ง การห่วงมากเกินไปตรงนี้ จะเป็นการปิดกั้น ศักยภาพ และพัฒนาการด้านต่างๆของเด็ก โดยเฉพาะ Education ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เขาประกอบอาชีพได้ในอนาคต ดังนั้นโครงการของเรา จึงเน้นตั้งเป้าช่วยแนะนำและเลือกแนวทางการศึกษา ให้แก่เด็ก CP เพื่อให้เด็ก CP ขั้นพิการไม่รุนแรง ในช่วงปฐมวัย จนถึง ประถมศึกษาตอนต้น ได้รับการศึกษา แบบที่ควรจะได้รับ และเหมาะสม กับศักยภาพและพัฒนาการของเขา  

- เล่าเรื่องพระเอก / ไอเดียในการแก้ปัญหา ; Vision 
: Homeschool  เป็นทางเลือกทางการศึกษาทางหนึ่ง ที่เลือกใช้บ้านเป็นฐานการเรียนรู้แทนการไปเรียนที่โรงเรียนแบบปกติ โดยมักมีผู้ปกครองเป็นครูผู้สอนเอง หรืออาจจะจ้างครูมาสอน โดยอิงจากความสนใจของเด็กเป็นหลัก ซึ่งเป็นการศึกษาที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ และ เหมาะสมกับเด็กพิเศษ ซึ่ง  Homeschool มี 4  ประเภทหลักๆ ได้แก่ 
Home School แบบที่ ผู้ปกครองวางหลักสูตรการสอนเอง 
• Home School แบบที่ ผู้ปกครองให้เด็กไปเรียนในศูนย์การเรียน 
• Home School แบบที่ ผู้ปกครองให้เด็กเรียนตามหลักสูตรของ Online School ของต่างประเทศ 
• Home School ในรูปแบบของการเรียนทางไกล (Distance Learning) 
    ซึ่งเด็ก CP เป็นเด็กที่มีความผิดปกติทางระบบประสาท ทำให้การเคลื่อนไหวร่างกาย รวมถึงการทรงตัวผิดปกติ ดังนั้นเมื่อเด็ก CP มีปัญหาและมีความบกพร่องทางด้านพัฒนาการ และการเคลื่อนไหว ทำให้ทักษะการเรียนรู้ของเด็ก CP มักจะไม่ปกติเหมือนเด็กทั่วไปในวัยเดียวกัน ถ้าหากไปเรียนในโรงเรียนทั่วไป อาจจะเป็นปมด้อย ดังนั้น การเรียน Homeschool จึงเป็นอีก 1 ทางเลือกที่เหมาะกับเด็ก CP เพราะ การเรียน Homeschool ในเด็ก CP นั้น จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ซึ่งรู้จักลูกดีที่สุดได้ดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิด และสามารถวางแผนการเรียนให้ลูกสามารถพัฒนาไปได้ตามศักยภาพของตัวเอง รวมไปถึง เด็กสามารถเรียนไปตามศักยภาพของตนเองได้ และหลีกเลี่ยงปัญหาการถูกล้อเลียน 
   พวกเราจึงจัดทำ โครงการ การให้ความรู้เกี่ยวกับ Homeschool แก่ผู้ปกครอง ที่มีบุตรหลานเป็นเด็ก CP ขั้นพิการไม่รุนแรง ในช่วงปฐมวัย - ประถมศึกษาตอนต้น โดยมีวัตถุประสงค์ 
• เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับ Home school สำหรับเด็กCP แก่ผู้ปกครอง เด็กCP ช่วงปฐมวัย-ประถมศึกษาตอนต้น ประเภทพิการไม่รุนแรง 
• เพื่อประเมินพัฒนาการ และศักยภาพของเด็กสมองพิการด้าน Education เพื่อเป็นข้อมูลการเลือกรูปแบบการศึกษาที่เหมาะสมกับตัวเด็ก และดูแลบุตรได้อย่างเหมาะสม
• เพื่อให้ผู้ปกครองได้มีทางเลือกรูปแบบการศึกษาของบุตรที่มีความพิการทางสมอง (CP) ที่เด็กสามารถจบการศึกษา และหาอาชีพทำในอนาคตได้
ซึ่งทางสมาชิก ได้คิดแผนการดำเนินงานไว้ ดังนี้ 
- จัดการอบรมปีละ 4 ครั้ง
- ให้ความรู้ และเสนอทางเลือก Home school ที่เหมาะกับเด็กสมองพิการ และโอกาสในอาชีพในอนาคต
- ให้ความรู้ และประเมินความสามารถ และพัฒนาการของเด็ก เพื่อให้ผู้ปกครองรู้ถึงศักยภาพของลูก
- มี OT คอยให้คำแนะนำผู้ปกครองและช่วยประเมินอย่างต่อเนื่อง ผ่านทางเพจของโครงการใน Facebook 
- มีการประเมินจากผู้ปกครองหลังการอบรม เพื่อนำไปปรับปรุงโครงการในปีต่อไป ในทุกปี 
ที่มาข้อมูล 
- ประเภท Homeschool : https://www.longtunmom.com/what-is-home-school/
- ข้อดีของ Homeschool กับเด็ก  CP : https://happymom.in.th/th/tips 

- บอกรายละเอียดเปรียบเทียบ ; Option 
: ทางสมาชิก ได้ทำการหาโครงการที่มีความใกล้เคียง กับ โครงการของเรา จนพบเจอ โครงการพัฒนาศักยภาพเด็กพิการ (กรุงเทพ) ทางสมาชิกจึงได้ทำการเปรียบเทียบกันถึง ข้อดี ข้อเสีย ของโครงการเขา และ โครงการเรา และพยายามดึงจุดเด่นของเราออกมา เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้มาโครงการ และเมื่อทำการเปรียบเทียบกัน จึงได้ข้อสรุปดังนี้ คือ โครงการของเรา มีสิ่งที่ให้ได้มากกว่า โครงการพัฒนาศักยภาพเด็กพิการ (กรุงเทพ) หลายด้าน ได้แก่
1.โครงการของเราให้ความรู้เรื่องเด็กสมองพิการ
2.โครงการของเราให้ความรู้เรื่องทางเลือกสถานศึกษา
3.โครงการของเราส่งเสริมการหาอาชีพให้แก่เด็กสมองพิการ
4.โครงการของเรามีนักกิจกรรมบำบัด ช่วยประเมินศักยภาพของเด็ก และมีการติดตามระยะยาว


ที่มาข้อมูล
โครงการพัฒนาศักยภาพเด็กพิการ (กรุงเทพ) 
: https://fcdthailand.org/project-type/project-05/ 

- จบให้ดี มีอนาคต มีหมัดฮุก มีของแถม  ; Closing
: โครงการนี้ เราจะสานต่อ โดยพัฒนาลงไปยังชุมชนมากขึ้น โดยเราจะเริ่มลงหากลุ่มเป้าหมายตามชุมชนเองเลย การที่เราทำเช่นนี้ เพื่อให้ กลุ่มเป้าหมาย เข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงเมื่อเราเข้าถึงตัวบ้านของผู้ป่วย มันจะช่วยทำให้เราประเมินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเราจะเห็นถึง ตัวบุคคลจริงๆ ทั้งตัวเด็กสมองพิการที่ป่วย หรือ ตัวของผู้ปกครอง , เห็นสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย และสภาพแวดล้อมรอบๆที่อยู่อาศัย , และเห็นถึงกิจกรรมการดำเนินชีวิตของเด็กที่ป่วย และ ของผู้ดูแล ซึ่งเป็น ไปตาม ทฤษฎี PEO ได้แก่ Person , Environment , Occupation แล้วเมื่อเราพบกลุ่มเป้าหมายและทำการประเมินผู้ที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายแล้ว เราจะเรียกเขามาอบรม เพื่อให้นำความรู้ตรงนี้ที่ได้จากการอบรม นำไปปรับใช้กับบุตรหลานที่ป่วยเป็นเด็ก CP ขั้นไม่รุนแรง ในช่วงปฐมวัย - ประถมศึกษาตอนต้น แล้วหลังจากอบรมเสร็จไปแล้วนั้น เดือนถัดมา เราจะกลับมาชุมชนนี้อีกครั้ง เพื่อทำการติดตามผล ว่ากลุ่มเป้าหมาย ได้นำความรู้หลังอบรมไปปรับใช้อย่างไรบ้าง แล้วดีขึ้นหรือไม่ อย่างไร เพราะ ท้ายที่สุดแล้ว เป้าหมายของเราคือ ต้องการให้ ผู้ป่วย มี Well - being นั่นเอง 

จัดทำโดย : นางสาว รวิสรา คูณทวี 6423011 (PTOT) 
 

สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ

ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย