๑๘๐ ขอบคุณฟ้า......


     ศึกษาอาการอยู่นานด้วยความอดทน รอจนกว่าจะปิดเทอมเพื่อที่จะไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เมื่อยังทำงานได้เป็นปกติในช่วงกลางวัน ก็ยังไม่หวั่นใจอะไรมากนัก

          ภาคเรียนที่ ๑ ผ่านไปอย่างสะบักสะบอม ไม่ใช่เพราะงานการที่หนักหนาสาหัส และไม่ใช่เพราะสอนหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา แต่เพราะสุขภาพที่ไม่เหมือนเดิม

          เกิดขึ้นในช่วงเกือบ ๑ เดือนที่ผ่านมานี่เอง สร้างความแปลกใจบ้างเป็นธรรมดา พยายามที่จะไม่ตรวจ ATK เพราะมั่นใจในตนเองว่าไม่เคยไปในที่ที่มีผู้คนแออัด

          ตลาดนัดแทบจะไม่รู้จัก ชีวิตเวียนว่ายอยู่กับนักเรียน ที่โรงเรียนกับบ้านเท่านั้นเองและก็ใส่แมสตลอดเวลา จนเคยชินเสียแล้ว

          คราวนี้พอมาดูอาการพื้นฐานแบบว่า ไม่เจ็บคอ ไม่มีไอ ไม่มีไข้ตัวร้อนแต่อย่างใด ทำงานได้เป็นปกติ ไม่มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่ปวดหัวและไม่ท้องเสียเลยแม่แต่น้อย

          แต่ที่แปลกมากก็คือ ก่อนจะนอนจะมีน้ำมูกใสๆไหลย้อยออกมา บางครั้งก็ข้นจนยืดเหนียว และจะเป็นอีกครั้งตอนเช้า ก่อนจะไปโรงเรียน

          ที่ไม่ธรรมดาก็คือการจามแบบรัวๆ จนแสบจมูก จามต่อเนื่องอยู่หลายวัน ในตอนดึกๆถ้าเริ่มอึดอัดคัดจมูก และจามออกมาครั้งแรก นั่นหมายถึงการนอนจะทรมานและหลับยากมาก

          ศึกษาอาการอยู่นานด้วยความอดทน รอจนกว่าจะปิดเทอมเพื่อที่จะไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เมื่อยังทำงานได้เป็นปกติในช่วงกลางวัน ก็ยังไม่หวั่นใจอะไรมากนัก

          บางคืน..มีอาการหายใจไม่ออก จามจนน้ำตาไหล สายตาพร่ามัว แต่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ดื่มน้ำ ดมยาและห่มผ้า สักครู่ก็หลับได้ ถ้าหลับไม่ได้ก็นั่งดูทีวีไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ง่วงไปเอง

          สมมุติฐานของโรค หลายคนลงความเห็นว่า เป็นภูมิแพ้ ไปซื้อยาแก้แพ้มากินก็หาย แต่ไม่เคยเชื่อ อยากไปหาหมอเพื่อตรวจให้แน่ใจ ไม่เคยอยากกินยาของร้านขายยาเลยแม้แต่น้อย

          คิดอีกที หรือว่าอยู่ใกล้ชิดนักเรียนจนเกินไป การสอนหนังสือเด็ก ป.๑ – ๒ นานๆ จึงทำให้เป็นเช่นนี้ หรือภายในบ้านไม่สะอาด มีฝุ่นละอองมาก ทำให้ร่างกายอ่อนแอถึงเพียงนี้                    ความงุนงงสงสัยเกิดขึ้นบ้างเล็กน้อย เมื่อคิดว่าเหล้ายาและเบียร์ก็ไม่ได้ดื่มมานานแล้ว การออกกำลังกาย ก็ทำได้อย่างต่อเนื่อง อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน แล้วทำไมต้องมีน้ำมูกและจามบ่อยๆ

          เมื่อไม่ได้กินยาพาราเซตามอลหรือยาแก้ปวดใดๆ ไม่ได้กินยาลดน้ำมูกหรือยาแก้แพ้ทั้งหลายทั้งปวง ก็ทำให้คิดถึงตัวยาหลังบ้านที่ชื่อ “ฟ้าทะลายโจร”

          โชคดีที่กินยาง่าย และไม่เคยปฏิเสธยาพื้นบ้านแบบนี้ จึงจัดเต็มทั้งเช้ากลางวันเย็นและก่อนนอน กินอย่างมาราธอนต่อเนื่องมาแล้ว ๗ วัน

          โดยใช้ฟ้าทะลายโจร ๓ – ๕ ใบ ใส่ในกระติกน้ำร้อน รสชาติจึงขมได้ที่ เวลาดื่มก็ต้องรอให้อุ่นเล็กน้อย บางทีก็รอไม่ไหว ต้องเติมน้ำเย็นเข้าไปบ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ยังขมลิ้นขมคอมากมาย

          เกือบ ๑ สัปดาห์แล้ว ที่นอนหลับได้ โดยที่ไม่มีการจามและไม่มีน้ำมูก ตื่นเช้ามารู้สึกว่าโล่งจมูก แต่บางวันก็มีจามบ้างเล็กน้อย อาการค่อยๆเป็นปกติ ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

          ขอบคุณฟ้าทะลายโจรที่อยู่ในดงหญ้าหลังบ้าน จะไม่ยอมถากถางให้เสียหาย ขอให้แพร่กระจายเป็นคลังยาพื้นบ้านที่มหัศจรรย์ต่อไป

          แต่ก็ไม่ได้วางใจเสียทีเดียว เพราะอายุก็มากแล้ว ในท่ามกลางอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย จะภูมิแพ้หรืออะไรก็ตาม ในยามนี้คิดถึงโรงพยาบาลเหลือเกิน 

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๗  ตุลาคม  ๒๕๖๕

หมายเลขบันทึก: 708423เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2022 20:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม 2022 20:24 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท