"ผะเอกมาจ่นได้" นึกถึงท่อนฮุกเพลงเพลงหนึ่งของวงลาบานูน วงดนตรีสตริงที่มีชื่อเสียงของบ้านเรา เนื้อหาสาระของเพลงน่าจะหมายถึงความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจจากการที่บางเหตุการณ์ในชีวิตตนเอง จำต้องเล่นบทพระรอง
อันที่จริงการดำเนินชีวิตของแต่ละคน การจะเล่นเป็นตัวเอกหรือตัวรอง ไม่น่าจะสำคัญแตกต่างกัน ยิ่งถ้ามองในภาพรวมของสรรพสิ่งบนโลกนี้หรือทุกความสัมพันธ์ของทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตในระบบนิเวศ ที่ทำให้มนุษย์ดำรงอยู่
เพราะส่งผลสะเทือนถึงกันและกันหมด หากขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป จนบางคนกล่าวเปรียบเทียบไว้อย่างน่าสนใจ "การที่เราเด็ดดอกไม้บนโลกนั้น สามารถสร้างความสั่นสะเทือนหรือมีผลกระทบไปจนถึงดวงดาวบนท้องฟ้าได้"
มองง่าย ๆ อาทิ ข้าวคลุกกะปิ หากบอกว่าส่วนประกอบหลัก คือ หมูหวาน คงไม่มีใครปฏิเสธ แต่ถ้าขาดส่วนประกอบอื่นหรือเครื่องเคียงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกุนเชียง ไข่ทอด แตงกวา มะม่วงสับ หอมซอย พริกขี้หนู หรือ แม้แต่หอมผักชีโรยหน้า ก็คงไม่ใช่ข้าวคลุกกะปิ
ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งกำลังฮอทสุดขีด ด้วยบทบาทหน้าที่แล้ว ต้องจัดให้ท่านเป็นพระเอก เพราะเป็นบุคลากรหลัก เป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเมืองหลวงของบ้านเรา แต่สภาพที่ฝนตกหนักมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา
เห็นชัดเลยว่าหากขาดคนงาน อาทิ คนเก็บขยะ คนล้างท่อ คนลงงมเก็บถุงพลาสติกออกจากเครื่องสูบน้ำ ฯลฯ สภาพเมืองหลวงที่การจราจรวุ่นวายอยู่แล้ว แม้แต่สภาพของตัวผู้ว่าฯเอง โดยเฉพาะตามหน้าสื่อต่าง ๆ คงจะดูไม่จืด ขนาดว่าฮอท ๆ ก็ยังเห็นออกอาการ
ทุกองคาพยพ ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ยิ่งสิ่งมีชีวิต คน สัตว์ ที่มีจิตใจ มีอารมณ์ความรู้สึก การให้ความสำคัญ การให้เกียรติ ตามหน้าที่ที่ทุกคนมี ซึ่งสามารถจะส่งผลกระทบต่อทุก ๆ คน ในการอาศัยอยู่ร่วมกัน นับเป็นความสำคัญยิ่ง
ข้าวคลุกกะปิจะขาดความอร่อย ไม่รู้สึกเป็นข้าวคลุกกะปิ หากขาดส่วนประกอบหรือเครื่องเคียงต่าง ๆ จำคำหนึ่งของนักเขียนใหญ่ผู้ล่วงลับ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ท่านแสดงความคิดเห็นไว้ในหนังสืออะไรสักเล่ม ซึ่งจำไม่ได้แล้ว
“ไม่ว่าบ่าวหรือไพร่ หัวใจ๋ก็ห้อยอยู่ตี้เดียวกั๋น”
ไม่มีความเห็น