ถ้ำและสนามบินเสรีไทย

“ถ้ำเสรีไทย”

 “ถ้ำเสรีไทย”

    ถ้ำแห่งนี้อยู่ในอุทยานแห่งชาติภูพาน โดยเป็นถ้ำที่เอาไว้เก็บสะสมอาวุธ ของขบวนการเสรีไทยเพื่อที่จะใช้ในการต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่น โดย นายเตียง ศิริขันธ์ หัวหน้าขบวนเสรีไทยจังหวัดสกลนคร เมื่อนักท่องเที่ยวได้มายังสถานที่แห่งนี้ท่านจะได้พบกับอนุสาวรีย์ของ นายเตียง ศิริขันธ์ ผู้เปรียบดั่งวีรบุรุษของชาสกกลนคร โดยบริเวณถ้ำเสรีไทยนั้น จะมีป่าไม้ที่ร่มรื่น และเป็นสถานที่ ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามมากอีกด้วย ซึ่งถือได้ว่าถ้ำเสรีไทยแห่งนี้ไม่ควรที่จะพลาดชมเลยทีเดียว

  *ลักษณะเด่น

  เป็นแหล่งธรรมชาติที่โดดเด่นบนเทือกเขาภูพาน

 *ประวัติ

  เป็นลักษณะถ้ำที่ลึกลงไปใต้ผิวดินมีข้อสังเกตคือ ถึงแม้ถ้ำจะมืดมาก แต่อากาศไม่อับชื้นเหมือนถ้ำทั่วไป แสดงให้เห็นว่า ภายในถ้ำต้องมีช่องระบายอากาศหลายช่องขบวนการเสรีไทยจึงใช้สถานที่นี้ในการบัญชาการ
ถ้ำเสรีไทยเป็นแหล่งสะสมอาวุธยุทธภัณฑ์ไปต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ของขบวนการเสรีไทย ซึ่งมี นายเตียง ศิริขันธ์ เป็นหัวหน้าขบวนการสายสกลนคร มีเส้นทางเดินเป็นวงรอบรวมระยะทาง 5 กิโลเมตร ผ่านป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ถ้ำเสรีไทย แล้วยังต่อไปชมพระอาทิตย์ตกและจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ทางช่วงสุดท้ายจะผ่านทุ่งกระเจียวที่จะออกดอกงามในช่วงเดือนสิงหาคม อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติไปทางทิศเหนือ 4.5 กิโลเมตร

"ตำนานสนามบินนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์" สนามบินลับของเสรีไทย

  -“สนามบินนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ ” เป็นสนามบินที่สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ราวปี 2485 เพื่อใช้เป็นสนามบินลับของหน่วยเสรีไทย ในการส่งกำลังบำรุง ต่างๆ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ฝึกกำลังพล ให้กับหน่วยเสรีไทยบนเทือกเขาภูพาน และจังหวัดข้างเคียง โดยใช้ผู้คนในพื้นที่ (ขณะนั้นยังเป็นเขต จังหวัดมหาสารคาม) มาช่วย โดยนายเตียง ศิริขันธ์"ขุนพลภูพาน" เสรีไทยที่มอบหมายให้ นายจำลอง ดาวเรือง หนึ่งใน "สี่เสืออีสาน" (ต่อมาคือ อดีต สส.มหาสารคาม หลายสมัย และอดีตรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์) 

   -เครื่องบินลำเลียงแบบ C-47 ของกองทัพอากาศอังกฤษ ได้บินลงส่งสัมภาระหลายครั้ง เป็นที่พอใจของนักบินมา เพราะพื้นสนามเป็นหินลูกรังอัดแน่น วันที่ 1 สิงหาคม 2488 ทหารญี่ปุ่นเดินทัพ ถึงม.หนองอีกอม ตำบลนาคู อำเภอกุฉินารายณ์ ได้จับตัว นายบา ลมพัด ผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวประกัน และถาม ว่าสนามบินนาคู อยู่ที่ไหน ผญ.บา ตอบว่า.. “บ่ฮูบ่เห็น บ่จั๊ก”...จากนั้นก็บังคับให้น าทางเดินไปสนามบินนาคู แต่เมื่อเดินมาถึงสนาม พบแต่ไร่พริก ไร่ฝ้าย พืชผักต่างๆ ซึ่งเสรีไทย+ชาวบ้านช่วยกันทำขึ้นปกปิด ทำให้ไม่ มีการเสียเลือดเนื้อ ญี่ปุ่นจึงพักค้างคืนที่วัดนาคูใต้ และยกทัพกลับสกลนคร วันที่ 3 สิงหาคม 2488 

   -ปัจจุบัน สนามบินแห่งนี้แม้จะไม่ได้มีการพัฒนาเชิงพานิชย์ แต่ถูกอนุรักษ์ไว้ในเชิงประวัติศาสตร์ ปัจจุบันอยู่ในความ ดูแลของกองทัพอากาศ สนามบินแห่งนี้อยู่ในเขตอำเภอนาคู ไม่ห่างจากหน่วยของกองทัพอากาศตรงนี้มาก นัก สนามบินเสรีไทย แห่งนี้ถูกก่อสร้างในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และจากนั้นเมื่อประมาณปี 2513-2519 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชด าเนินโดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อเยี่ยมพสก นิกรชาวอ าเภอนาคู ทรงมีรับสั่งให้ชลประทานท าการพัฒนาอ่างเก็บน้ าห้วยมะโน อ าเภอนาคู ทำให้ราษฎรมี น้ำใช้ในการอุปโภคและบริโภค ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ เส้นทางตรงอ่างเก็บน้ำนาคู ยังเป็นอีก จุดหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ใช้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินในพระราช กรณียกิจในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทราบว่า พระองค์ได้เสด็จในช่วงปี 2513-2519 ทั้งนี้สภาพ สนามบินยังมีร่องรอยจารึก ราษฎรหลายคนเคยร่วมรับเสด็จ และทำให้ผู้นำชุมชนได้เตรียมที่จะพัฒนาให้ พื้นที่บริเวณนี้เป็นอนุสรณ์สถานของคนรุ่นต่อไป 

     -และเมื่อครั้ง ปี พ.ศ.2505 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเยี่ยม ชาวบ้านนาคู (สนามบินเสรีไทย) อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ พระองค์ท่านเสด็จมาเยี่ยมบ้านนาคู 2 ครั้ง ครั้งที่ 2 ทรงปล่อยปลาที่อ่างเก็บน้ำห้วยมะโน ปลูกต้นคูณ 3 ต้น มีการจัดตั้งหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ แห่งแรก สร้างอ่างเก็บน้ำ สร้างโรงเรียน มีไฟฟ้าใช้เป็นแห่งแรกในภูมิภาคนี้ สำหรับการเสด็จในพื้นที่อำเภอนาคู ตรง สนามบินเสรีไทย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังได้นำโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและ โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่พัฒนาพื้นที่ให้ชาวอำเภอนาคู จนทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจาก แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง