GotoKnow

การสอนแบบฮัฟรูทา (Havruta learning) เทคนิคความฉลาดของชาวยิว

อนุรักษ์ ลาวิลาศ
เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2565 19:03 น. ()

การสอนแบบฮัฟรูทา (Havruta learning) เทคนิคความฉลาดของชาวยิว

Posted On กุมภาพันธ์ 24, 2021 By Dr.Huang
Posted In Critical Thinking, การคิดวิพากษ์, ปรัชญาสำหรับเด็กTagged Critical Thinking, Havruta, การคิดเชิงวิพากษ์, ฮัฟรูทา

หลายคนคงเคยสงสัยว่าทำไมคนยิวถึงฉลาด? จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีชาวยิวได้รับรางวัลโนเบลถึงร้อยละ 22 ของประชากรโลก แม้ประชากรชาวยิวมีเพียงร้อยละ 0.25 เท่านั้น สิ่งที่สะท้อนข้อเท็จจริงนี้ได้ดีคือ ระบบการศึกษาของชาวยิวที่เรียกว่า “ฮัฟรูทา (Havruta)” ซึ่งเน้นการจับคู่พูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดตั้งแต่เด็ก โดยไม่ยึดติดกับคะแนนสอบ และไม่คำนึงถึงอายุ ชั้นเรียน และเพศ นอกจากนี้ Havruta ยังเป็นวิธีที่ใช้ในการศึกษาคัมภีร์ทาลมุด (Talmud) ซึ่งเปรียบเหมือนเสาหลักทางปัญญาของชาวยิวอีกด้วย

การเรียนรู้แบบ Havruta เริ่มต้นในยุค Tannaim ช่วงปี 10-200 C.E. ณ ดินแดนของประเทศอิสราเอล โดยครูสอนศาสนายูดาย หรือที่เรียกว่า Rabbis ในสมัยนั้นมักจะให้นักเรียนจับคู่เรียนด้วยกัน จึงเป็นที่มาของ Havruta หมายถึงความเป็นเพื่อน (friendship) และเป็นระบบการศึกษาที่เติมเต็มสังคมในสมัยนั้น ซึ่งครูจะไม่สนับสนุนให้นักเรียนนั่งเรียนคนเดียว สังเกตได้จากเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ Rabbis ชื่อ R. Yosi b. R. Hanina กล่าวว่า “นักปราชญ์ที่นั่งเรียนคนดียวจะกลายเป็นคนโง่” โดยนักเรียนจะได้ศึกษาแบบ Havruta ทั้งช่วงเช้า กลางวัน และเย็น โดยเฉลี่ย 10 ชั่วโมงต่อวัน และครูผู้สอนมักจะให้นักเรียนสลับคู่กันจนครบทั้งห้องประมาณ 20 คนในช่วงปีการศึกษา หากหลังจากนักเรียนจับคู่เรียนแล้วยังไม่เข้าใจเนื้อหา ก็สามารถถามครูผู้สอนได้

การเรียนแบบ Havruta เหมาะกับการศึกษาคัมภีร์ทาลมุด เนื่องจากในคัมภีร์มีเนื้อหาหลายส่วนของหลักการศาสนายูดายที่ยังเป็นที่โต้แย้งกัน ทำให้ต้องมีการวิพากษ์และคิดวิเคราะห์ รวมทั้งกิจกรรมโต้วาทีระหว่างผู้เรียน เพื่อนำเสนอเหตุผลและประเด็นที่เหนือกว่าอีกฝ่าย ดังนั้นวิธีการ Havruta จะช่วยให้ผู้เรียนมีบทบาทในการอธิบายความคิดของตนเอง และใช้ทักษะในการโน้มน้าว ตั้งคำถาม โต้แย้ง รวมถึงการร่วมมือกันอย่างมีวิจารณญาณเพื่อนำไปสู่ข้อสรุปใหม่ โดยแรกเริ่ม การเรียนแบบ Havruta ใช้สอนเฉพาะนักเรียนชายเท่านั้น แต่ในปัจจุบันเป็นที่นิยมในนักเรียนหญิงที่ศึกษาคัมภีร์ทาลมุดด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา Havruta ยังมีการพัฒนาการเรียนการสอนในรูปแบบอื่น ทั้งทางโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ต เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ในส่วนวิธีการเรียนรู้แบบ Havruta สามารถแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การค้นหาหัวข้อที่สนใจ (examine) ตั้งคำถาม (Question) โต้วาที (Debate) และสะท้อนความคิด (Reflect) โดยนักเรียนในห้องจะจับคู่กันเรียนในประเด็นที่น่าสนใจ พร้อมผลัดกันตั้งคำถามและตอบ นำไปสู่การแลกเปลี่ยนความคิดเชิงวิพากษ์กับคู่เรียน ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยในประเด็นดังกล่าวเพราะอะไร และจบด้วยการสะท้อนความคิดของตนเองและเพื่อนเพื่อสรุปบทเรียนที่ได้รับ โดยคู่เรียนสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) คู่เรียนที่เก่งกว่า ซึ่งมีบทบาทคล้ายครู จะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการสอนเพื่อน และเทคนิคการเรียนของตนให้ดีขึ้น 2) คู่เรียนที่อ่อนกว่า ซึ่งจะได้รับประโยชน์เกี่ยวกับการพัฒนาการเรียนรู้ และการหาข้อมูล และ 3) คู่เรียนที่มีความรู้พอกัน มีข้อดีที่ไม่สามารถอ้างได้ว่าใครเก่งกว่า ทำให้ต้องพยายามหาเหตุผลมาสนับสนุนความคิดของตนเอง ช่วยฝึกนักเรียนให้คิดวิเคราะห์และยอมรับคำวิจารณ์ได้ดีขึ้น ซึ่งนักเรียนทุกคนควรได้คู่กับทุกประเภท เพื่อฝึกฝนทักษะที่แตกต่างกันตลอดปีการศึกษา

ในปัจจุบัน การเรียนรู้แบบ Havruta มีกิจกรรมที่เรียกว่า Project Zug ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนชุมชนการเรียนรู้ (learning community) ของชาวยิว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ชาวยิวได้เจอเพื่อนใหม่ ได้แรงบันดาลใจ และได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นที่น่าสนใจในสังคม เช่น ปรัชญาของยิว การส่งเสริมความสงบสุขในโลก การใช้เทคโนโลยีในช่วงวิกฤตโควิด เป็นต้น โดยในปัจจุบันมีทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ โดยมีผู้ดำเนินรายการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กิจกรรมผ่านไปอย่างราบรื่น ส่วนมากจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที- 1 ชั่วโมงในการถกประเด็น และไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับสมาชิก แต่สามารถบริจาคเพื่อสนับสนุนกิจกรรมได้

โดยสรุป การเรียนรู้แบบ Havruta ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมระบบการศึกษาของชาวยิวจึงมีคุณภาพ การเรียนรู้ในโลกยุคใหม่ต้องยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (student-centered) โดยครูเป็นผู้ให้คำแนะนำและทำหน้าที่เหมือนโค้ชมากกว่าผู้สอน ซึ่งจะทำให้นักเรียนได้ฝึกคิดวิเคราะห์และฝึกทักษะอีกหลายอย่างจากการแลกเปลี่ยนกับคู่เรียนอย่างเต็มที่ นับว่า Havruta เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่ทันสมัยและมาก่อนกาลจริง ๆ

 

แหล่งที่มา

https://en.wikipedia.org/wiki/Chavrusa#Havruta_magazine

สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ

ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย