พระราโชวาท สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไป ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากสถาบันการอาชีวศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒-๒๕๖๓


พระราโชวาท สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี   
เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไป ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา  
จากสถาบันการอาชีวศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒-๒๕๖๓ 
เมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๘.๕๔ น. 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ 
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี 

เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไป ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา 
จากสถาบันการอาชีวศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒-๒๕๖๓ 

ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ 
วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
 

โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาทความตอนหนึ่งว่า 

… ในการทำงานนั้น ต้องอาศัยความรู้ ๒ ส่วน ส่วนหนึ่ง คือ
ความรู้ตามสาขาวิชาที่เล่าเรียนมา 
อีกส่วนหนึ่งคือความรอบรู้ อันหมายถึงความรู้ที่กว้างขวางออกไปหลากหลายสาขา ทันการณ์และทันโลก 

ความรู้ ๒ ส่วนนี้ เมื่อใช้ประกอบกัน จะเพิ่มพูนความสามารถในการปฏิบัติงานของแต่ละคนได้อย่างมาก 
แต่หากใช้เพียงส่วนใดส่วนหนึ่ง งานที่ทำก็อาจบกพร่องเสียหาย ยากที่จะสำเร็จผลอย่างมีประสิทธิภาพได้ 

จึงขอให้บัณฑิตพยายามฝึกฝนพัฒนาตนเอง ให้เป็นผู้ถึงพร้อมทั้งด้วยความรู้และความรอบรู้ 
จะได้สามารถประกอบกิจการงานให้บรรลุผลเป็นประโยชน์แก่ตนแก่ส่วนรวมได้สืบไป …

ในภาคบ่าย พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการอาชีวศึกษา 
ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓

โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาทความตอนหนึ่งว่า 

… การที่บัณฑิตได้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษานั้น มีความสำคัญต่อประเทศชาติอย่างมาก 
เพราะจะมีทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้สูงเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก มาช่วยกันสร้างสรรค์ประโยชน์และความเจริญก้าวหน้าให้แก่บ้านเมือง 

บัณฑิตทุกคนจึงควรตระหนักถึงความสำคัญในข้อนี้ แล้วตั้งใจนำความรู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมา
ไปใช้ประกอบอาชีพการงานให้สำเร็จผลเป็นประโยชน์แก่ตนเองและส่วนรวม 

พร้อมทั้งหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และสร้างเสริมเพิ่มพูนประสบการณ์อยู่เสมอ 
เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และความก้าวหน้าของวิทยาการต่าง ๆ 

หากบัณฑิตประพฤติตนปฏิบัติงานให้ได้ดังนี้ แต่ละคนก็จะเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า 
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความสามารถ ที่จะนำพาตนเองและชาติบ้านเมืองไปสู่ความเจริญมั่นคงได้อย่างแท้จริง …

วันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๕ น. เป็นวันที่ ๒

พระราชทานพระราโชวาทความว่า 

… บัณฑิตทั้งหลายต่างก็สำเร็จการศึกษา สมกับที่ได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนมาโดยตลอดแล้ว 
ต่อไปก็ถึงวาระที่จะต้องออกไปทำงาน เพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ตนเองและส่วนรวม 

ในยุคนี้การสื่อสารด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิต 
และการประกอบกิจการงาน และกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาด้านต่าง ๆ 

ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การสาธารณสุข หรือการศึกษา เพราะทำให้ข้อมูลข่าวสารสามารถเผยแพร่ไปได้อย่างรวดเร็วในวงกว้าง ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวาง 

แต่หากนำไปใช้ในทางที่ผิด หรือข้อมูลข่าวสารที่เผยแพร่นั้นเป็นเท็จเป็นโทษ ก็จะก่อให้เกิดความเสียหาย และส่งผลกระทบรุนแรงกว้างขวางได้เช่นเดียวกัน 

บัณฑิตจึงต้องรู้เท่าทันใช้สติและปัญญาพิจารณาให้เห็นความถูก ความผิด ความควร ไม่ควร 
ประโยชน์และไม่ใช่ประโยชน์ 

แล้วใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้เกิดประโยชน์แท้ ทั้งแก่ตนเอง แก่งานที่ทำ และแก่ส่วนรวม 
ถ้าทำได้ แต่ละคนก็จะสามารถสร้างสรรค์ความเจริญมั่นคง ไม่เพียงแก่ตนเองเท่านั้น หากยังแผ่ขยายไปสู่สังคมและชาติบ้านเมืองอีกด้วย …


นำมาจาก เพจ เรารักกรมสมเด็จพระเทพรัตนฯ Our Beloved HRH Princess Maha Chakri Sirindhorn

พีระพงศ์ วาระเสน บ๊อบบี้       นำมาบันทึกใน Gotoknow สำหรับลูกหลานไทย 
 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท