ความเคลื่อนไหวทางการศึกษา ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักและต่อเนื่อง ครูส่วนใหญ่ของประเทศนี้แทบไม่มีเวลาสอนนักเรียน เวลาหมดไปกับการกรอกเอกสารและทำรายงานส่งเขตฯ
คือ เรื่องจริงยิ่งกว่าจริงเสียอีก เมื่อก่อนผมทนได้ เพราะมีเรี่ยวแรงทำเอง พออายุมากขึ้นและครูเพิ่มขึ้น จึงปล่อยครูให้ทำเองบ้าง ทุกวันนี้จึงรู้สึกสงสารครูอย่างจับใจ
ผมอยากลาออก..แต่ตัดสินใจไม่เด็ดขาดเสียที ทุกวันนี้..จึงอดทนและทนอยู่ด้วยความเบื่อหน่ายระบบการศึกษา เคยสอนทุกชั้น ตอนนี้คงเหลือไว้แค่ชั้น.๑ – ป.๓ โดยเน้นที่ภาษาไทยเพียงอย่างเดียว ที่เหลือเอาเวลาไปพัฒนาแหล่งเรียนรู้และอาคารสถานที่
วันนี้..คิดใหม่ทำใหม่ เพราะสัปดาห์ที่แล้ว มีโทรศัพท์มาจากลาสเวกัส รัฐเนวาด้าสหรัฐอเมริกา..พูดคุยกันไม่นาน แต่สร้างแรงบันดาลใจได้ไม่น้อยเลย
“พี่อยากให้เธอเข้าไปดูยูทูป โรงเรียนบ้านหนองแก ผอ.ชื่อเนาวรัตน์ ถาวร มีวิธีสอนภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่สุดยอดมาก พี่ชอบจังเลย....ถ้าเธอนำไปใช้น่าจะส่งผลดีต่อเด็ก”
“ทำไมผมต้องดูล่ะครับ ผมก็จบเอกภาษาไทย สอนหนังสือทุกวัน เด็กก็อ่านออกกันเกือบทุกคน โรงเรียนแต่ละโรง บริบทไม่เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องสอนเหมือนกันก็ได้ครับ...”
“อันนี้พี่เข้าใจ แต่ผอ.ท่านแก้ปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเหมือนของเธอ ทำให้โรงเรียนเล็กๆของท่านมีเด็กมากขึ้นกว่า ๒๐๐ คนแล้ว เพราะท่านใช้นวัตกรรมที่ท่านคิดค้นขึ้นมาเอง น่าสนใจมาก”
“แต่ผมหมดไฟแล้วครับ ทำงาน ๗ วัน/สัปดาห์ ขอใช้เวลาที่เหลืออยู่เพื่อเตรียมเกษียณ”
“ก่อนเกษียณนี่แหละดี ทำงานทิ้งทวน สร้างพื้นฐานให้เด็กอ่านคล่องเขียนคล่อง ได้บุญได้กุศลด้วย จะได้เป็นที่จดจำของเด็กและผู้ปกครองตลอดไป....และเธอก็จะรู้สึกภูมิใจในตนเอง”
เจอประโยคนี้เข้า ทำผมอึ้งไปชั่วขณะ อะไรกันนะที่ดลใจให้พี่เขา โทรหาผมเพื่อให้ผมไปต่อในการพัฒนาการเรียนการสอน โดยเฉพาะ”การอ่าน”ที่ผมให้ความสำคัญเป็นที่สุด
“เครื่องมือ สื่อและหนังสือเป็นนวัตกรรมการสอนของเขาที่คิดค้นขึ้นมา เขาลงทุนและคงจดลิขสิทธิ์ไว้ น่าจะไม่ให้กันง่ายๆหรอกนะครับ”
“พี่รู้แล้ว เธอเข้าไปดูวิธีสอนก่อน ถ้าพอใจและเห็นเหมือนพี่ ก็ติดต่อผอ.เขาได้เลย สอบถามหนังสือที่เขาใช้ รวมทั้งสื่อต่างๆ ชุดละเท่าไหร่ เดี๋ยวพี่เป็นคนจ่ายเงินเอง”
ผมเข้าไปดูในยูทูป แบบไม่กระตือรือร้นมากนัก แต่แล้วก็ต้องตกหลุมรัก ทั้งวิธีสอนและหนังสือเรียนที่เขาใช้ พิมพ์ตัวหนังสือได้น่าสนใจมาก แบบนี้คงไม่ได้แก้ปัญหาการอ่านอย่างเดียว แต่จะช่วยให้ครูมีสื่อการสอนที่ตรงกับปัญหาเด็กที่อ่านไม่ออก และแก้ไขการเรียนรู้ช้าของเด็กด้วย
ความคิดอย่างหนึ่งผุดขึ้นมา ผมต้องทำโครงการเร่งรัดพัฒนาคุณภาพการอ่านอย่างเป็นทางการเสียแล้ว โดยใช้สื่อหรือเครื่องมือ ที่จะอ้างอิงแบบตรงไปตรงมา ให้ชื่อว่า“หนองแกโมเดล”
ผมรีบติดต่อผอ.เนาวรัตน์ทันที ทำให้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับนวัตกรรมที่ท่านใช้พัฒนาการสอนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ที่สำคัญนักเรียนต้องมีหนังสือที่ท่านคิดค้น ทุกคน..
ทุกชั้น ตั้งแต่ป.๑ – ป.๖ จะต้องเรียนรู้จากหนังสือคำพื้นฐาน แต่พิเศษที่สุดก็ตรงที่ชั้นป.๑ ใช้หนังสือถึง ๖ เล่ม ประกอบด้วยสระ วรรณยุกต์ มาตราตัวสะกด และการอ่านเรื่องราวต่างๆ
ผมได้ข้อมูลวิธีสอนและสื่อนวัตกรรม ตลอดจนวิธีการจัดซื้อเป็นที่เรียบร้อย จึงรีบโทรกลับไปหาพี่ที่อเมริกาทันที มีความตื่นเต้นเล็กน้อยที่จะได้ทำโครงการ มีงบประมาณรองรับ
“พี่ครับ..ผมขอพัฒนาการอ่านในวิชาภาษาไทยก่อน ภาษาอังกฤษขอเอาไว้เทอมหน้า ราคานวัตกรรมในการจัดซื้อทุกเล่ม ทุกชั้นและทุกคน ใช้เงิน ๓๐,๐๐๐ บาทครับ”
“ได้เลย เดี๋ยวพี่โอนให้ ใช้แล้วผลเป็นไง บอกพี่ด้วยแล้วกัน พี่จะรอ...”
ขอบคุณนะครับ ที่ช่วยต่อเชื้อไฟให้ผมได้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง ในช่วงเวลา ๑๓ เดือนก่อนเกษียณ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้การสอนอ่านมีชีวิตชีวา สร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งให้กับเด็ก สร้างทางก้าวหน้าให้โรงเรียน ทดแทนบุญคุณผู้ปกครองและชุมชน ที่เกื้อหนุนชีวิตราชการมาโดยตลอด
วันนี้..สื่อหนังสือหรือนวัตกรรม “หนองแกโมเดล” ส่งถึงบ้านหนองผือครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อย เห็นแล้วรู้สึกหัวใจพองโต..น้ำตาจะไหลซะให้ได้ เหนื่อยแค่ไหนก็คงต้องสู้แล้ว
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๕