โครงการกีฬาเพื่อสังคม เกิดขึ้นจากนโนบายเชิงรุกขององค์การนิสิต ปีการศึกษา 2564 ที่ว่าด้วยการช่วยเหลือชุมชนที่ประสบสาธารณภัย ซึ่งองค์การนิสิต ได้ร่วมมือกับกลุ่มงานกิจกรรมนิสิตในการเสาะแสวงหาองค์กรนิสิต หรือแม้แต่กลุ่มอิสระที่มีจิตอาสาในการที่จะช่วยเหลือสังคม โดยจัดสรรงบประมาณให้โครงการละ 10,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขหลักคือ การนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้เพื่อการช่วยเหลือสังคม
ในช่วงปลายปี 2564 เป็นช่วงที่ชุมชนรอบมหาวิทยาลัยมหาสารคามประสบกับอุทกภัยอย่างหนักหน่วง เรียกได้ว่าท่วมหนักในรอบ 10 ปีก็ว่าได้ ซึ่งโรงเรียนบ้านมะกอก (มะกอกวิทยาสรรค์) เป็นอีกหนึ่งสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบอย่างแสนสาหัส
กล่าวคือ อาคารเรียน สนามกีฬา ลาน BBL สวนหย่อม หอพระพุทธรูปประจำโรงเรียน ถูกน้ำท่วมขังในราวสองเดือน พอน้ำลดก็อยู่ในสภาพที่ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้เท่าที่ควร
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มนิสิต “กีฬาเพื่อสังคม” จาก “คณะศึกษาศาสตร์” จึงได้จัดโครงการ “กีฬาเพื่อสังคม” ขึ้นในระหว่างวันที่ 29-30 มีนาคม 2565 โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ
- เพื่อส่งเสริมให้นิสิตได้เรียนรู้กระบวนการจัดกิจกรรมจิตอาสาเพื่อพัฒนาตนเองและสังคม
- เพื่อส่งเสริมให้นิสิตและอาจารย์ได้นำองค์ความรู้ในวิชาชีพ (Hard skills) ไปบริการต่อชุมชนที่ประสบภัยน้ำท่วม
- เพื่อส่งเสริมให้นิสิตได้พัฒนาทักษะทางสังคม (Soft skills) ผ่านการบูรณาการระหว่างกิจกรรมในหลักสูตรกับกิจกรรมนอกหลักสูตร
โครงการกีฬาเพื่อสังคม เกิดขึ้นจากนโนบายเชิงรุกขององค์การนิสิต ปีการศึกษา 2564 ที่ว่าด้วยการช่วยเหลือชุมชนที่ประสบสาธารณภัย ซึ่งองค์การนิสิต ได้ร่วมมือกับกลุ่มงานกิจกรรมนิสิตในการเสาะแสวงหาองค์กรนิสิต หรือแม้แต่กลุ่มอิสระที่มีจิตอาสาในการที่จะช่วยเหลือสังคม โดยจัดสรรงบประมาณให้โครงการละ 10,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขหลักคือ การนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้เพื่อการช่วยเหลือสังคม
และโครงการ “กีฬาเพื่อสังคม” ก็เป็น 1 ใน 5 โครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณให้ดำเนินการ-
ถัดจากนี้ไป คือส่วนหนึ่งของข้อมูลที่ผมมีโอกาสได้ลงพื้นที่เรียนรู้ร่วมกัน รวมถึงถอดบทเรียนเล็กๆ ร่วมกับอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ นิสิต และคณะครูในโรงเรียน
กรอบแนวคิดการจัดกิจกรรม
บูรณาการแนวคิดการเรียนรู้รายวิชา “ปัจจัยและสิ่งอำนวยความสะดวกทางการกีฬา” กับแนวคิดการจัดการเรียนรู้ เช่น
- การเรียนรู้คู่บริการ
- การเรียนรู้โดยใช้ผู้เรียนและชุมชนเป็นศูนย์กลาง
- การเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ
- การเรียนรู้เชิงรุก
- นโยบายการพัฒนานิสิต เช่น ปรัชญา (ผู้มีปัญญาพึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน) อัตลักษณ์นิสิต (นิสิตกับการช่วยเหลือสังคมและชุมชน) ค่านิยมนิสิต (MSU FOR ALL : นิสิตพึ่งได้)
รูปแบบและลักษณะการจัดกิจกรรม
- เรียนรู้บริบท / สภาพทั่วไป / ผลกระทบที่โรงเรียนและชุมชนได้รับจากโควิด-19 และน้ำท่วม
- ปรับปรุงลาน BBL(Brain-based Learning)
- ตีเส้นสนามกีฬา / ลานอเนกประสงค์
- มอบอุปกรณ์การศึกษา
- ปรับปรุงสวนหย่อม
- การปรับปรุงภูมิทัศน์ทั่วไปของโรงเรียน
ผลลัพธ์การเรียนรู้
- โรงเรียนและชุมชน
โรงเรียนได้รับการฟื้นฟูซ่อมแซมสาธารณะประโยชน์ เช่น ลาน BBLสวนหย่อม สนามกีฬาและได้รับสื่อการเรียนรู้เพิ่มเติม เช่น หนังสืออ่านนอกเวลา
2. นิสิตและมหาวิทยาลัย
- นิสิตได้เรียนรู้กระบวนการจัดกิจกรรมจิตอาสาเพื่อพัฒนาตนเองและสังคม เช่น การทำงานบนความต้องการอันแท้จริงของชุมชนกับนิสิต การติดต่อประสานงานระหว่างนิสิตกับอาจารย์ นิสิตกับนิสิตและนิสิตกับชุมชน การทำงานภายใต้แนวคิดการมีส่วนร่วม
- นิสิตและอาจารย์ได้นำองค์ความรู้ในวิชาชีพ (Hard skills) ไปบริการโรงเรียนที่ประสบภัยน้ำท่วมและโควิด-19 เช่น รายวิชา “ ปัจจัยและสิ่งอำนวยความสะดวกทางการกีฬา”
- นิสิตได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะทางสังคม (Soft skills) ผ่านการบูรณาการระหว่างกิจกรรมในหลักสูตรกับกิจกรรมนอกหลักสูตร เช่น ด้านภาวะผู้นำ ด้านความคิดสร้างสรรค์ วิธีคิดที่เปิดกว้างยืดหยุ่น การปรับตัว การมีมนุษย์สัมพันธ์ การทำงานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
- ได้เรียนรู้วิถีชีวิตและการงานของคณะครู นักเรียนและชาวบ้านที่ต้องปรับตัวในช่วงที่โรงเรียนและชุมชนถูกน้ำท่วมขังยาวนาน 2-3 เดือน
ปัญหาและอุปสรรค
- นักเรียนและชุมชน ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้เต็มที่ เพราะเป็นช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19
- การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องงดการจัดกิจกรรมอื่นๆ เช่น การเข้าเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชุมชนในหมู่บ้าน การให้ความรู้และการบริการเรื่องนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
- มีระยะเวลาในการเตรียมงานภาคสนามน้อย เนื่องจากเป็นช่วงต่อเนื่องจากการสอบปลายภาค
- งบประมาณมีจำกัด และจำนวนวันในการจัดกิจกรรมมีไม่มากนัก ( 2 วัน)
- สภาพดินฟ้าอากาศ เช่น แดดร้อนจัด สลับกับฝนตกปรอยๆ
ปัจจัยความสำเร็จ
- การให้คำปรึกษาและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงการลงพื้นที่ร่วมดำเนินงานของอาจารย์ที่ปรึกษาและเจ้าหน้าที่กลุ่มงานกิจกรรมนิสิต
- การให้ความร่วมมือของคณะครู เช่น การสะท้อนปัญหาและความต้องการที่แท้จริง การจัดเตรียมอุปกรณ์ทำงาน
- ความสามัคคี ความมุ่งมั่นตั้งใจของนิสิตที่เข้าร่วมโครงการ
- การมอบหมายภาระงานที่ชัดเจนและการรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
- การทำงานที่ยืดหยุ่นตามสถานการณ์จริง เช่น รูปแบบกิจกรรมกับงบประมาณ กิจกรรมกับสภาพภูมิอากาศที่มีทั้งฝนตกและแดดร้อน
- การทำงานบนฐานความรู้ในวิชาชีพทำให้เกิดความตื่นตัวและสามารถปรับใช้กับงานได้อย่างรวดเร็ว
ข้อเสนอแนะ/การดำเนินงานครั้งถัดไป
- จัดกิจกรรมในลักษณะค่ายอาสาพัฒนาเต็มรูปแบบ เป็นต้นว่า 3 วัน 2 คืน เพื่อให้นิสิตได้เรียนรู้วิถีชุมชนและทำงานร่วมกันได้อย่างลึกซึ้ง
- จัดหางบประมาณเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์กิจกรรมได้อย่างเต็มที่
- มีการปฐมนิเทศกิจกรรมอย่างเป็นรูปธรรมก่อนออกพื้นที่ ทั้งในเรื่องความรู้ในวิชาชีพและความรู้ในเรื่องการจัดกิจกรรมนอกหลักสูตร
- บูรณาการทีมทำงานในลักษณะ “สหทีม” ประกอบด้วยนิสิตที่หลากหลายชั้นปีและหลากหลายวิชาชีพมาทำงานร่วมกัน
- เพิ่มกิจกรรมอื่นๆ เช่น การออกกำลังกาย กิจกรรมกีฬาทั้งการแข่งขันและเชื่อมความสัมพันธ์ การถ่ายทอดความรู้ในด้านกีฬาและสุขภาพ
เรื่องและภาพ : พนัส ปรีวาสนา
เขียน : วันที่ 24 สิงหาคม 2565