จะว่าไปแล้ว ค่ายอาสาแนะแนว ครั้งที่ 52 ก็ดำเนินเดินทางมาถึงวันสุดท้าย กิจกรรมสุดท้าย ผ่านเรื่องราวมากมายให้ชาวค่ายได้เรียนรู้ร่วมกัน ที่ปรึกษาชมรมอย่างผม ไปก็แค่ผิวเผิน เดิน ๆ ถาม ๆ ถ่ายรูปให้พอได้กลิ่นอายจากกิจกรรมมากมายที่น้อง ๆ ได้ดำเนินการ ปิดค่ายไปอย่างสวยงาม ถึงช่วงเก็บตกเรื่องราว 2 เรื่องที่ประทับใจ จากการปิดค่าย
เรื่องแรก หลังจัดกิจกรรมเสร็จสิ้น ส่งน้องนักเรียนกลับบ้าน พี่ ๆ ก็รวมกันนั่งเป็นวงกลม เป็นวงกลม เป็นวงกลม ที่ลานหอประชุม เพื่อ “สะท้อนผล” อันเป็นการถอดบทเรียนสำคัญของค่ายจาก “พี่ค่าย” ที่อยู่ร่วมหัวจมท้ายจนเรื่องราวดี ๆ ร้าย ๆ ก็ผ่านพ้นก่อนเดินทางกลับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผมเดินไปรอบ ๆ หอประชุม ฟังนิดหน่อย ไม่ได้ร่วมวงด้วย บางค่ายก็ไปนั่งฟังการสะท้อนผล แต่ค่ายนี้กลับอยากอยู่วงนอก ฟังเสียงที่สะท้อนมากับสายลมดีกว่า จึงชื่นชมทีมงานประธานค่ายและชาวค่าย ที่ช่วยกันปลอบประโลมชาวค่ายและวิถีของค่ายด้วยการพูด ติ ชม แนะนำ ให้กำลังใจกันและกัน เรื่องที่ดีก็ต้องชื่นชม เรื่องที่ต้องปรับปรุงแก้ไขก็มีมาก เพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น ดีขึ้น ดีขึ้น
เรื่องที่สอง แอบเห็นกระดาษรูปหัวใจ ติดไว้ที่ต้นไม้หน้าเวที อ่านดูแล้วก็ชื่นชม ชื่นใจอีกแบบ ชื่นชอบความคิดเห็นที่แตกต่าง การมีเป้าหมายชีวิตเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง ทำได้ไม่ได้ไม่เป็นอะไร เพราผมเองก็ต้องล้มเลิกเป้าหมายบางอย่างไป แล้วเปลี่ยน ปรับ เป้าหมายให้เข้าสภาพที่น่าจะเป็น ตามอายุ และเงื่อนเวลา พร้อมสภาพปัจจัยในเวลานั้น ๆ น้อง ๆ นักเรียนก็เช่นกัน ฝันไว้ไม่ผิด ต้นทุนของความฝันไม่เท่ากัน เพราะฝันถึงเรื่องดี ๆ ก็มีคุณค่า เป็นฝันที่สง่างามในทามกลางห้วงมโนสำนึกแห่งตน .... พี่ ๆ มาจัดกิจกรรมค่าย ก็เพื่อเติมแต่งความฝันอันยิ่งใหญ่ของน้อง ๆ ได้เพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น เพียงแต่ร่วมกันจุดประกายฝันให้เจิดจรัส เพื่อให้น้อง ๆ ได้ลงมือทำฝันนั้นด้วยตนเองอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น หรือแม้แต่พี่ ๆ ก็เช่นกัน ใช่ว่าฝันนั้นจะเป็นดั่งฝันทุกเรื่องไม่ แต่หากพี่ ๆ เองก็กำลังทำความฝันนั้นให้ค่อย ๆ เป็นจริงขึ้นมา ก็หวังว่าสักวันหนึ่ง ฝันเหล่านั้นจะเป็นจริง
ไม่มีความเห็น