ช่วงบ่ายวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ดร. วินัย พงศ์ศรีเพียร ชวนผมไปฟังงานเสวนาวิชาการสาธารณะ เรื่อง “จากนาครกฤตาคมและปาราราตอน สู่นูษานตระ: อินโดนีเซียกับการหวนหาอดีตอันรุ่งโรจน์” (From Nagarkretagama and the Pararaton to Nusantara: Indonesia’s Search for its Glorious Past) ที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์จากวรรณกรรมโบราณที่เขียนเป็นร้อยกรองเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์ของอาณาจักรมัชปาหิต (เมืองหลวงอยู่ที่เกาะชวาตะวันออก) ในอดีตช่วงสุโขทัยตอนปลายต่ออยุธยาตอนต้น ที่ตอนนั้นศาสนาอิสลามยังมาไม่ถึง โดยที่อิทธิพลของมัชปาหิตขึ้นมาถึงภาคใต้ของไทยคือ ลังกาสุกะ (ปัตตานี) สิงหนครี (สงขลา) และธรรมนครี (นครศรีธรรมราช) และดินแดนเหล่านั้นเวลานี้รวมกันเป็นอินโดนีเซีย ประเทศ ๑๗.๐๐๐ เกาะ
ได้เรียนรู้ว่าสมัยนั้นผู้คนในบริเวณอาณาจักรทะเลใต้นี้นับถือพุทธ + ฮินดู + ความเชื่อท้องถิ่น ใช้ภาษาสันสกฤต และมีเรื่องราวของการแย่งชิงราชสมบัติไม่ต่างจากประวัติศาสตร์ไทย และราชวงศ์อื่นๆ
ดร. เตช บุนนาค บอกว่า ตอนตกเป็นเมืองขึ้นของเนเธอร์แลนด์ ได้ชื่อว่า Netherland’s Indies มีเมืองหลวงที่เนเธอร์แลนด์สร้างขึ้นให้เป็นเมืองท่า ชื่อ Batavia เมื่อได้เอกราชจึงคิดชื่อประเทศใหม่ ตอนแรกจะใช้ชื่อ Nusantara (Nusa = เกาะ, Antara = ระหว่าง) แต่ในที่สุดก็ใช้ชื่อ Indonesia และเปลี่ยนชื่อเมืองหลวงเป็น Jakarta ตอนนี้ตัดสินใจย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เกาะบอร์เนียวตะวันออก ตรงจุดที่อยู่กลางประเทศ และให้ชื่อเมืองหลวงใหม่ว่า Nusantara
เท่ากับว่า อินโดนีเซียกำลังหาทางใช้จุดแข็งของประเทศ เพื่อการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
ก่อนถึงภาควิชาการมีวงดนตรี การแสดงดนตรีกาเมลันชวา โดยวงดนตรีการาวิตันประสานมิตรสาขาวิชาดุริยางคศาสตร์ไทยและเอเชีย คณะศิลปกรรมศาตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร กำกับโดย ผศ. ดร. สุรศักดิ์ จำนงค์สาร ผมนำคลิปดนตรีมาให้ชม เพลงที่ ๑ , เพลงที่ ๒
วิจารณ์ พานิช
๓๑ พ.ค. ๖๕
ไม่มีความเห็น