๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕
นี่คือการประชุมเตรียมการณ์ครั้งที่ ๓ ของ PMAC 2023 การประชุมวันที่สอง ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ที่โรงแรม Imperial Palace, Annecy
ตามกำหนดการเดิม ครึ่งวันเช้าจะเป็นการประชุมกลุ่มต่อจากเมื่อวาน โดยผมเลือกเข้ากลุ่ม ๓ (Subtheme 3) แต่เมื่อถึงเวลา YY Teo ก็ขอเวลาครึ่ง ชม. ให้ David Harper และ Dennis Carroll เสนอรูปแบบการประชุมแบบผสมทั้ง onsite และ online ให้ที่ประชุมใหญ่อภิปราย ต่อด้วย นพ. วิโรจน์ เสนอไดอะแกรม เส้นทางร้ายที่ climate crisis ส่งผลต่อ human health ที่ทุกคนเห็นด้วย ขอปรับปรุงเพียงเล็กน้อย ที่ผมเข้าใจมากขึ้นว่า พฤติกรรมเพื่อการดำรงชีวิตของมนุษย์เองเป็นปัจจัยปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะ food production systems
นพ. วิโรจน์อธิบายวิธีมองภาพใหญ่ ในสามมิติ มิติแรกเป็นภาพระบบ มิติที่สองเป็นภาพปฏิสัมพันธ์ มิติที่สามเป็นภาพเพื่อตัดเส้นทางก่อผลร้าย การประชุมกลุ่ม ๓ เน้นหาตัวอย่างดีๆ ระดับประเทศ ที่ผมทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ส่วนที่เห็นด้วยคือ อยากรู้ตัวอย่างดีๆ ที่ไม่เห็นด้วยคือวิธีมองและจัดการประชุมแบบเส้นตรง ผมอยากเห็นการเสนอแบบ learning loop และอยากเห็นการเตรียม learning loop เอามาเสนอ
เวลาที่ขอประชุมในห้องใหญ่ครึ่งชั่วโมง กลายเป็นชั่วโมงครึ่ง การประชุมกลุ่มย่อยจึงไปจบเวลา ๑๒.๓๐ ไม่ใช่ ๑๒.๐๐ ตามกำหนดการ
ในการนำเสนอผลการประชุมกลุ่มในตอนบ่าย ผมได้รู้จัก Nature-Based Solution ต่อ climate change เป็นครั้งแรก และได้ฟังการถกเถียงลงรายละเอียด ว่าต้องระวัง อย่าคิดว่าแนวทางธรรมชาติจะเป็นยาครอบจักรวาล และยังมีการเอ่ยถึง integration of health in nature-based solution
การแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศด้วย nature-based solution หมายถึงการฟื้นระบบนิเวศ ได้แก่ป่า ป่าพรุ ป่าชายเลน พื้นที่ชุ่มน้ำ ทุ่งหญ้า แนวปะการัง และภูมิประเทศอื่นๆ นพ. วิโรจน์อ้างผลงานวิจัยว่า การแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศด้วย nature-based solution จะให้ผลเพียงร้อยละ ๓๐ ของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเท่านั้น ต้องแก้ด้วยการเปลี่ยนแหล่งพลังงานร่วมด้วยจึงจะก่อผลลดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศได้ผลดีจริง
การนำเสนอผลการประชุมกลุ่ม ตามด้วยการอภิปราย ของกลุ่มที่ ๑ และกลุ่มที่ ๒ ใช้เวลาเลยกำหนดการ ๑๖ น. ไปเกือบชั่วโมง กลุ่มที่ ๓ ขอนำเสนอเช้าวันพรุ่งนี้
เนื่องจากการประชุมนี้ เป็นการรวบการประชุมที่โตเกียวในเดือนเมษายน กับการประชุมในยุโรปเดือนพฤษภาคม จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่ได้กำหนด Opening Plenary และ Plenary 0 การทำงานดูจะล่าช้ากว่าที่คาด
อย่างไรก็ตาม มีการทำความเข้าใจรูปแบบใหม่ของ PMAC ว่าจะต้องมีการตกลงกันว่า Plenary 1, 2, 3 จะให้เป็น introductory plenary หรือ wrap-up plenary
ผมยังไม่ค่อยพอใจนักกับการนำเสนอของแต่ละ subtheme เพราะเขาเสนอแบบผู้รู้มากกว่าผู้ตั้งข้อสงสัย ผมอยากให้การประชุมเน้นการตั้งข้อสงสัย และกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ รวมทั้งองค์กรระหว่าประเทศที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการพิสูจน์ผลกระทบมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ผมได้เรียนรู้ว่า ในเรื่องการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ปัญหาหลักอยู่ที่ political economy เขาใช้คำว่า political economy of lack of progress
ข้อเห็นพ้องในที่ประชุมคือ youth engagement ในทุก subtheme, inter-generational dialogue
ผมเองมีความเห็นว่า ทีมไทยควรเรียนรู้จากการประชุมเตรียมการนี้ เอาไปตั้งโจทย์หมุนวงจรการเรียนรู้เล็กๆ ในบริบทไทย เอาไปนำเสนอใน PMAC 2023 side meeting เพื่อหาโจทย์ที่ยากและซับซ้อนขึ้น เอาไปดำเนินการหมุนวงจรการเรียนรู้ต่อเนื่องทุกปี เป็นเวลา ๕ - ๑๐ ปี
วิจารณ์ พานิช
๑๘ พ.ค. ๖๕
ห้อง ๖๒๔ โรงแรมอิมพีเรียล อ๊านซี
ไม่มีความเห็น