ผมสำเนาหนังสือเวียนจาก สสจ.ฉบับหนึ่งไว้ในแฟ้มส่วนตัว ตั้งแต่เมื่อคราวยังทำงานอยู่ที่ สสอ.บางแก้ว หลายวันก่อนก็จัดการเอกสารเหล่านี้ใหม่ พบข้อบังคับ ก.พ.ว่าด้วยจรรยาบรรณของข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2537 จึงขอให้คุณนงเยาว์ฯ ช่วยพิมพ์ไว้ให้ วันนี้ได้นำมาบันทึกไว้ เพื่อเก็บรวมรวม (กันหาไม่เจอ) และเพื่อเตือนใจตนเอง ครับ (เผื่อเผอเรอ ตามที่ท่าน Handy แนะนำให้ใช้แทน "เผลอเรอ" แต่ยังไม่ยืนยันว่าอันไหนถูกที่บันทึก สังเกต หรือ สังเกตุ) ทั้งหมด 16 ข้อ ดังนี้...
โดยที่ข้าราชการพลเรือนมีหน้าที่และความรับผิดชอบสำคัญในการพัฒนาประเทศ รวมทั้งการให้บริการแก่ประชาชน ซึ่งจำเป็นต้องทำงานร่วมกันหลายฝ่าย ฉะนั้น เพื่อให้ข้าราชการพลเรือนมีความประพฤติดี สำนึกในหน้าที่ สามารถประสานงานกับทุกฝ่าย ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่ราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลยิ่งขึ้น จึงสมควรให้มีข้อบังคับ ก.พ.ว่าด้วยจรรยาบรรณของข้าราชการพลเรือนไว้เป็นประมวลความประพฤติเพื่อรักษาไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและส่งเสริมชื่อเสียง เกียรติคุณ เกียรติฐานะของข้าราชการพลเรือน อันจะยังผลให้ผู้ประพฤติเป็นที่เลื่อมใส ศรัทธา และยกย่องของบุคคลโดยทั่วไป
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 (5) และมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 จึงออกข้อบังคับ ก.พ.ว่าด้วยจรรยาบรรณของข้าราชการพลเรือนไว้ดังต่อไปนี้
จรรยาบรรณต่อตนเอง
ข้อ 1
ข้าราชการพลเรือนพึงเป็นผู้มีศีลธรรมอันดี และประพฤติตนให้เหมาะสม
กับการเป็นข้าราชการ
ข้อ 2
ข้าราชการพลเรือนพึงใช้วิชาชีพในการปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์
และไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
ในกรณีที่วิชาชีพใดมีจรรยาวิชาชีพกำหนดไว้
ก็พึงปฏิบัติตามจรรยาวิชาชีพนั้นด้วย
ข้อ 3 ข้าราชการพลเรือนพึงมีทัศนคติที่ดี
และพัฒนาตนเองให้มีคุณธรรม จริยธรรม รวมทั้งเพิ่มพูนความรู้
ความสามารถ และทักษะ ในการทำงานเพื่อให้การปฏิบัติ
หน้าที่ราชการมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลยิ่งขึ้น
จรรยาบรรณต่อหน่วยงาน
ข้อ 4 ข้าราชการพลเรือนพึงปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความสุจริต เสมอภาค
และปราศจากอคติ
ข้อ 5
ข้าราชการพลเรือนพึงปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกำลังความสามารถ
รอบคอบ รวดเร็ว ขยันหมั่นเพียร ถูกต้องสมเหตุสมผล
โดยคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการ และประชาชนเป็นสำคัญ
ข้อ 6
ข้าราชการพลเรือนพึงประพฤติตนเป็นผู้ตรงต่อเวลา
และใช้เวลาราชการให้เป็นประโยชน์ต่อทางราชการอย่างเต็มที่
ข้อ 7
ข้าราชการพลเรือนพึงดูแลรักษาและใช้ทรัพย์สินของทางราชการอย่างประหยัด
คุ้มค่า
โดยระมัดระวังมิให้เสียหายหรือสิ้นเปลืองเยี่ยงวิญญูชนจะพึงปฏิบัติต่อทรัพย์สินของตนเอง
จรรยาบรรณต่อผู้บังคับบัญชา ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
และผู้ร่วมงาน
ข้อ 8
ข้าราชการพลเรือนพึงมีความรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน
การให้ความร่วมมือช่วยเหลือกลุ่มงานของตนทั้งในด้านการให้ความคิดเห็น
การช่วยทำงาน และการแก้ปัญหาร่วมกัน
รวมทั้งการเสนอแนะในสิ่งที่เห็นว่าจะมีประโยชน์ต่อการพัฒนางานในความรับผิดชอบด้วย
ข้อ 9
ข้าราชการพลเรือนซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา
พึงดูแลเอาใจใส่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาทั้งในด้านการปฏิบัติงาน ขวัญ
กำลังใจ สวัสดิการ และยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
ตลอดจนปกครองผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาด้วยหลักการและเหตุผลที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
ข้อ 10
ข้าราชการพลเรือนพึงช่วยเหลือเกื้อกูลกันในทางที่ชอบ
รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดความสามัคคี
ร่วมแรงร่วมใจในบรรดาผู้ร่วมงานในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม
ข้อ 11
ข้าราชการพลเรือนพึงปฏิบัติต่อผู้ร่วมงานตลอดจนผู้เกี่ยวข้องด้วยความสุภาพ
มีน้ำใจ และมนุษยสัมพันธ์อันดี
ข้อ 12
ข้าราชการพลเรือนพึงละเว้นจากการนำผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน
จรรยาบรรณต่อประชาชนและสังคม
ข้อ 13
ข้าราชการพลเรือนพึงให้บริการประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยความเป็นธรรม
เอื้อเฟื้อ มีน้ำใจ และใช้กิริยาวาจาที่สุภาพอ่อนโยน
เมื่อเห็นว่าเรื่องใดไม่สามารถปฏิบัติได้หรือไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของตนจะต้องปฏิบัติ
ควรชี้แจงเหตุผล
หรือแนะนำให้ติดต่อยังหน่วยงานหรือบุคคลซึ่งตนทราบว่ามีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น
ๆ ต่อไป
ข้อ 14
ข้าราชการพลเรือนพึงประพฤติตนให้เป็นที่เชื่อถือของบุคคลทั่วไป
ข้อ 15
ข้าราชการพลเรือนพึงละเว้นการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด
ซึ่งมีมูลค่าเกินปกติวิสัยที่วิญญูชนจะให้กันโดยเสน่หาจากผู้มาติดต่อราชการ
หรือผู้ซึ่งอาจได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่ราชการนั้น
หากได้รับไว้แล้วและทราบภายหลังว่าทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่รับไว้มีมูลค่าเกินปกติวิสัย
ก็ให้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบโดยเร็ว
เพื่อดำเนินการตามสมควรแก่กรณี
ข้อ 16
ข้อบังคับฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อบังคับนี้ให้ไว้ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 ที่ผ่านมา โดยนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ในสมัยนั้น ในฐานะประธาน ก.พ. และได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไปเล่ม 111 ตอนที่ 19 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2537
ทั้ง 15
ข้อ (เฉพาะส่วนที่เป็นจรรยาบรรณ) ล้วนมีความสำคัญในการนำไปปฏิบัติ
และจะทำให้เกิดความสุขทั้งผู้ปฏิบัติ ผู้บังคับบัญชา
องค์การที่เราทำงานอยู่ ตลอดจนที่สำคัญที่สุด
คือประชาชนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีความสุขครับ
ไม่มีความเห็น