รีวิว Senior Year ปีสุดท้าย (2022 netflix)


รีวิว Senior Year ปีสุดท้าย (2022 netflix) " สิ่งที่เราเป็นตอนมัธยมปลาย ไม่ได้สะท้อนตัวตนทั้งหมด" นี่คือส่วนผสมของหนังวัยรุ่นมัธยมยุค 90s คนดัง ชิงเด่น เชียร์ลีดเดอร์ บริทนีย์ สเปียร์ งานพรอม และพิธีจบการศึกษา  ที่จะทำให้คุณโหยหาอดีต หวนคิดถึงความสุขในสมัยที่เรียนอยู่มัธยมปลาย

ดูคลิปรีวิวที่นี่

Senior Year ปีสุดท้าย เล่าเรื่องราวของสเตฟานี คอนเวย์ เด็กสาวที่ย้ายมาจากออสเตรเลียเข้ามาเรียนอยู่ในเมืองใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ในช่วงแรกนั้น เธอต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อให้มีตัวตนในสังคมเด็กมัธยมปลาย ทนกับการล้อเลียนสำเนียง และมีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นดาวดังของโรงเรียน

จนเมื่อเธอเรียนอยู่ในชั้น ม.6 เธอก็เรียนรู้ที่จะเป็นคนดัง โดยเริ่มจากเป็นหัวหน้าทีมเชียร์ลีดเดอร์ รู้จักการหว่านเสน่ห์ การวางตัว การคบผู้คน และมีแฟนเป็นดาวเด่นของโรงเรียน

ในช่วงก่อนที่จะจบการศึกษา โรงเรียนได้จัดงานพรอม เธอก็หวังว่าจะเป็นเจ้าหญิงแห่งงานพรอมให้ได้ด้วย

ก่อนถึงวันงานเธอคิดจะจัดงานปาร์ตี้ที่บ้านริมทะเลสาบของเพื่อนสนิทที่ชื่อว่ามาธาร์ เรเซอร์ แต่กลับกลายเป็นว่าทิฟฟานี แบลนเช็ตต์ คู่แข่ง หนึ่งงในดาวเด่นของโรงเรียนอีกคนได้จัดงานปาร์ตี้ตัดหน้าเธอก็ก่อน

แล้วเหตุการณ์ก็ไปพีคถึงขั้นสุดตรงที่วันแสดงเชียร์ลีดเดอร์ให้กับนักเรียนใหม่ชม ทิฟฟานี ได้วางแผนบางอย่างกับการแสดงจนทำให้สเตฟานี่เกิดอุบัติเหตุ แล้วก็นอนโคม่าในโรงพยาบาลไปจนถึง 20 ปี

20 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก อยู่ดี ๆ สเตฟานี่ก็ตื่นจากโคม่า เธอตื่นขึ้นมาในอายุ 37 ปี แต่ก็โชคร้ายที่เธอโตแต่อายุแต่สมองของเธอยังอยู่ในวัย 17 เท่านั้น เธอพบว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมด เพื่อนสมัยนักเรียนของเธอก็โตเป็นผู้ใหญ่มีหน้าที่การงานที่ดีเช่น มาธาร์ เป็นครูใหญ่ของโรงเรียนที่เธอเรียนในมัธยม และเซ็ธเพื่อนชายที่เป็นครูและบรรณารักษ์ของโรงเรียน

เธอต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อย่างเช่นโทรศัพท์สมาร์ทโฟน โลกในสังคม Social media หรือรู้ว่า Fast and Furious มีถึง 9 ภาคแล้ว

อย่างไรก็ตาม ความทรงจำในวัยเด็กอายุ 17 ปีของเธอก็ยังเป็นความฝันที่เธออยากจะทำเป็นให้ได้ และเธอต้องหาทางชดเชยช่วงเวลา 20 ปีที่ขาดหายไป ดังนั้นเธอจึงตั้งปณิธานว่า จะต้องกลับไปเรียนหนังสือในชั้นมัธยมให้จบ ต้องหาเพื่อนให้ได้ หาคนติดตามในโลโซเชียลมีเดียให้ได้ เป็นหัวหน้าทีมเชียร์ลีดเดอร์ และต้องเป็นราชินีงานพรอม

ซึ่งสเตฟานี่ อายุ 37 ปีแต่มีความรู้สึกนึกคิดเท่ากับเด็กอายุ 17 ปีนั้น จะทำความฝันของเธอให้สำเร็จได้หรือไม่ ก็ขอให้ไปติดตามรับชมใน netflix เองนะครับ

Senior Year ปีสุดท้าย นับเป็นส่วนผสมของหนังวัยรุ่นมัธยมยุค 90s อย่างแท้จริง และอนุภาคส่วนใหญ่ของเรื่องนั้นก็เชยแสนเชย ที่หนังเลิกใช้ไปแล้วเกือบ 20 ปี เช่นว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยว การแยกแก่งแย่งชิงดีของนักเรียนหญิงที่จะเป็นคนดังของโรงเรียน ชิงเด่นในด้านความสามารถ ความสวย และการถูกยอมรับ พูดถึงวิธีการเข้าสู่การเป็นคนดังโดยเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียน มีแฟนหนุ่มสุดฮอตเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน และเป้าหมายสูงสุดก็คือเป็นดาวเด่นงานพรอม และเรื่องราวก็ไปจบตรงที่พิธีใชเกียรติบัตรจบการศึกษา ก็นับว่าปีสุดท้ายนั้นเป็นอะไรที่เข้าสูตรหนังยุค 90 แท้ ๆ

โดยส่วนตัวแล้วผมดูหนังเรื่องนี้โดยที่ไม่อ่านเรื่องย่ออะไรเลย ในชั้นแรกก็รู้สึกว่ามันแทบไม่มีอะไรแปลกใหม่ มันไม่น่าจะมีอะไรแตกต่าง จากหนังวัยรุ่นนักเรียนทั่วไป

แต่พอมาดูถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องตรงที่นางเอกมีอาการโคม่า นอนอยู่ในโรงพยาบาลถึง 20 ปี ตั้งแต่ปี 2002 แล้วตื่นมาก็ต้องเรียนรู้อะไรต่าง ๆ ในปี 2022 และทำทุกอย่างเพื่อชดเชยสิ่งที่ขาดหายไป จุดนี้ก็เลยทำให้หนังเรื่องนี้มีความสนุกมากยิ่งขึ้น ยิ่งการวางพล็อตเรื่องให้ตัวละครที่มีอายุถึง 37 ปีไปทำตามความฝันของตัวเองที่มีอายุ 17 ปีนั้นยิ่งน่าสนใจ

แต่ระหว่างทางเราจะได้เห็นคนที่มีอายุ 37 ปีทำอะไรแบบเด็ก ๆ คิดแบบเด็ก ๆ และกว่าจะรู้ตัวว่าสิ่งที่เธอคิดสิ่งที่เธอทำนั้นมันไม่ถูกต้อง เธอก็สูญเสียอะไรหลายอย่าง แม้กระทั่งสูญเสียเพื่อนที่รักเธออย่างแท้จริงไปด้วย

และความสนุกก็คือ เธอจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้มันถูกต้องเข้าที่เข้าทางที่ควรจะเป็นได้อย่างไร และนำเพื่อนรักของเธอกลับมาได้อย่างไร และเธอได้เรียนรู้อะไรบ้าง นี่คือความน่าสนใจอย่างยิ่ง

นี่คือสิ่งทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่หนังวัยรุ่น Comedy เท่านั้น แต่กลายเป็นหนังที่มีการให้แง่คิดที่ค่อนข้างเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ การวางตัวระหว่างพ่อ แม่ เพื่อน การรู้จักตนเอง การยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น และเลยไปถึงการให้อภัย

หนังดึงความเป็น nostalgia หรือการโหยหาอดีตได้อย่างดีมาก ๆ โดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตในช่วงมัธยมในปลายยุค 90 ถึงยุค 2000 หนังได้แอบใส่วัฒนธรรมป๊อปในยุคนั้นเข้ามาให้เราได้เห็นเป็นระยะ ๆ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพของ Britney Spears หรือวงบอยแบนด์ Nsync ที่อยู่บนผนังห้องของสเตฟานี่ ซึ่งที่ถือว่าเป็น Super Star ในเวลานั้น การใช้เพลงของ Britney Spears เป็นเพลงหนึ่งในภาพยนตร์ หรือการใส่ดารารับเชิญอย่าง อลิเซีย ซิลเวอร์สโตน มาพูดถึงสัจธรรมของชีวิตระหว่างความเป็นคนโด่งดังกับการใช้ชีวิตจริงมันต่างกัน เพียงเท่านี้เราก็แทบจะกรี๊ดสลบแล้ว

ไหนจะแอบใส่เรื่องราว ที่ทำให้เราคิดถึงหนังวัยรุ่นในยุคปลาย 90 ยุคต้น 2000 อย่างเช่นงานพรอมและกาตเต้นรำ ดูแล้วก็ทำให้คิดถึงหนังเรื่อง She's All That (1999) หรือภาพการเต้นเชียร์ลีดเดอร์ ที่ทำให้เราคิดถึงหนังเรื่อง Bring It On ที่ฉายภาคแรกในปี 2000 รับรองว่าถ้าใครอยู่ในช่วงเวลานั้นหรือเคยดูหนังที่กล่าวมา จะต้องคิดถึงอดีตอย่างแน่นอน

นอกเหนือจากความสนุกสนานของหนัง การให้แง่คิดดี ๆ หรือความโหยหาอดีตที่หนังมอบให้กับเราคนดู ส่วนตัวมองว่าความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ก็ต้องยกให้กับฝีไม้ลายมือการแสดงของรีเบล วิลสัน ที่เธอรับบทเป็นหญิงสาวอายุ 37 ปีแต่มีอายุสมอง 17 ปี ได้อย่างดีมาก ๆ ส่วนตัวแล้วการแสดงบทตลกของเธอมีความดีงามไม่แพ้ดาราที่ใช้ความสามารถในการเล่นบทดราม่าหนัก ๆ เลย เธอกลายเป็นศูนย์กลางของภาพยนตร์อย่างแท้จริง ทุกสิ่งที่เธอทำนั้นทำให้เราเชื่อทั้งหมด ความดีงามในการแสดงของเธอนมันยกระดับหนังรักวัยรุ่นให้กลายเป็นหนังอารมณ์ดีแบบมีคุณภาพขึ้นมาได้เลย

นักแสดงสมทบหลายคนก็มีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะเพื่อน ๆของสเตฟานี่ ถือว่าเป็นการเสริมสร้างยกระดับให้หนังมีความสนุกมากขึ้น

และสิ่งที่ดีงามก็คือ เพื่อนของสเตฟานี่มีความหลากหลายทางเพศและเชื้อชาติเป็นอย่างมาก ทำให้หนังเรื่องนี้ มีมุมมองทางบวกและให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศ ความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติ และความแตกต่างทางความคิดด้วยเช่นกัน

ชอบมากที่สุดก็คือสาส์นสำคัญของเรื่องที่ Senior Year ปีสุดท้าย มอบให้กับเราคนดู โดยผ่านจากบทพูดของ ตัวแทนนักเรียนที่กล่าวในงานมอบเกียรติบัตรจบการศึกษาคือ " สิ่งที่เราเป็นตอนมัธยมปลาย ไม่ได้สะท้อนตัวตนทั้งหมด"

กล่าวโดยสรุป Senior Year ปีสุดท้าย คือภาพยนตร์รักวัยรุ่นอเมริกัน ที่มีความสนุกเกินคาด feelgood สุด ๆ  nostalgia สุด ๆ happy ending สุด ๆ ไม่มีช่วงเวลาไหนที่ดูแล้วรู้สึกเบื่อเลย มีความดีงามเกินกว่าจะเป็นภาพยนตร์รักวัยรุ่นธรรมดาทั่วไป ถ้าใครชอบภาพยนตร์รักวัยรุ่นในช่วงปี 90 และต้นปี 2000 หากใครชอบดูภาพยนตร์แล้วทำให้เบิกบานใจยิ้มอารมณ์ดีไปทั้งวัน แถมยังสอดแทรกคติและความหมายของชีวิตดี ๆ Senior Year ปีสุดท้าย คือคำตอบสำหรับการเลือกรับชม

8/10
@Vatin San Santi

ส่วนตัวขอหัก 2 คะแนน เพราะว่าการแก้ไขอุปสรรคต่าง ๆที่เกิดขึ้นในเรื่องนั้นง่ายเกินไป การเรียนรู้ของนางเอกเร็วเกินไป แล้วจุดหักเหที่ทำให้นางเอกได้เรียนรู้นั้นมันก็ค่อนข้างเบาบางเกินไปครับ

#SuperReviewChannel 
#SeniorYear2022
#SeniorYearNetflix
#ปีสุดท้าย

หมายเลขบันทึก: 702717เขียนเมื่อ 20 พฤษภาคม 2022 06:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 สิงหาคม 2022 00:59 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท