นักมานุษยวิทยาทำอะไร?
นักมานุษยวิทยาศึกษาทุกๆสิ่งที่เกี่ยวกับมนุษย์ งานของพวกเขาจะสำรวจบรรพบุรุษของเราในฐานะสายพันธุ์, วัฒนธรรมปัจจุบัน, และวิธีการที่มนุษย์จะดำรงชีวิตต่อไปในอนาคต มานุษยวิทยาใช้วิธีการแบบองค์รวม (holistic approach) ในการมองมนุษย์ในฐานะสัตว์ทางสังคม สาขานี้จะนำประสบการณ์ของมนุษย์ที่มีนลักษณะหลากหลาย นอกเหนือจากนี้ บ่อยครั้งที่มานุษยวิทยาจะถูกมองว่าเป็นศาสตร์ที่เป็นมนุษย์มากที่สุด และเป็นมนุษย์ในบรรดาศาสตร์มากที่สุด
ในประเพณีอเมริกาเหนือ มานุษยวิทยาจะถูกแบ่งออกเป็น 4 สาขาวิชา ได้แก่ โบราณคดี, มานุษยวิทยาชีววิทยา, มานุษยวิทยาภาษาศาสตร์, และมานุษยวิทาวัฒนธรรม
ในสาขาโบราณคดี ผู้วิจัยจะสำรวจวัตถุต่างๆที่มนุษย์ได้เหลือไว้ เช่น เครื่องมือ, เพชรพลอย, บ้าน, เงิน, อาหาร, และขยะ นักโบราณคดีจะตรวจสอบสิ่งที่เป็นมนุษย์ และสัตว์, พืช, และดินเพื่อที่จะตัดสินว่ามนุษย์ดำเนินชีวิตอย่างไร และตายได้อย่างไร ในทางตรงกันข้าม นักโบราณคดีเชิงทดลองจะสร้างวัตถุและกิจกรรมจากอดีตขึ้นมาใหม่เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับความสามารถของมนุษย์ยุคโบราณ
นักมานุษยวิทยาชีววิทยาจะเรียนรู้ชีววิทยาของมนุษย์,, โฮมินินโบราณ (บรรพบุรุษที่ตายไปแล้ว), และไพรเมท (อันดับวานร) บ่อยครั้งที่พวกเขาจะเน้นไปที่วิวัฒนาการ เช่น ประโยชน์ของผิวคล้ำ และผมหยิก หรือพัฒนาการของทักษะการวิ่งขนาดไกล
นักมานุษยวิทยาวัฒนธรรมจะศึกษาทุกสิ่งที่เกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรมทั่วโลกและข้ามเวลา สิ่งนี้คือการศึกษาอาหาร, แฟชั่น, กีฬา, และดนตรี หรือการแยกแยะให้ดูว่าอำนาจทำงานอย่างไร หรือวิธีการที่คนสร้างความหมาย พวกเขาอาจใช้เวลาหลายเดือน หรือหลายปีในการอยู่กับชุมชน และทำการสัมภาษณ์
นักมานุษยวิทยาภาษาศาสตร์จะวิเคราะห์ว่าภาษาสะท้อนได้อย่างไร และภาษาปรับแต่งวัฒนธรรมและการนึกคิด (cognition) ได้อย่างไร พวกเขาอาจศึกษาภาษาพื้นเมือง, สำรวจผลลัพธ์ทางสังคมของพวกหลากภาษา (bilingualism), หรือวิจัยปฏิสัมพันธ์ระหว่างการเมืองและคำพูด
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ทั้ง 4 สาขานี้จะเหลื่อมล้ำกันอยู่เสมอ พวกเขาอาจถูกแบ่งเป็นสาขาย่อยอื่นๆอีก เช่น มานุษยวิทยากฎหมาย, มานุษยวิทยาการแพทย์, และมานุษยวิทยาสภาพแวดล้อม
นักมานุษยวิทยาศึกษาอะไร?
นักมานุษยวิทยาศึกษาหลายๆหัวข้อโดยการใช้เครื่องมือในทางวิทยาศาสตร์และมนุษยศาสตร์ หรือแม้แต่บทกวี ข้างล่างคือหัวข้อโดยย่อ
-นักโบราณคดีและนักมานุษยวิทยาชีววิทยา จะสำรวจประวัติศาสตร์ของสายพันธุ์ หลายคนจะค้นหาเรื่องบรรพบุรุษในยุคหิน (Pal eolithic ancestor) เช่น มนุษย์ที่ยืนตรง (Homo erectus) และมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล คนอื่นๆอาจสำรวจประวัติศาสตร์ที่เกิดไม่นานกว่านี้ เช่น หลุมศพในชุมชน บางครั้งนักโบราณคดีจะใช้บทเรียนจากอดีตเพื่อคาดการณ์ต่อไปในอนาคต เช่น พวกเขาอาจให้ทัศนะในการดำรงชีพต่อไปในอนาคต
-นักมานุษวิทยาอาจพิจารณาจิตใจในหลายรูปแบบ เช่นจากความเชื่อมาเป็นศาสนา นักวิจัยอาจศึกษาอัจฉริยะในยุคหินเก่าที่ได้สร้างศิลปะในยุคแรกเริ่ม และการทาสีบนถ้ำ, การเปลี่ยนแปลงปะวัติศาสตร์ นักมานุษยวิทยาเชิงสังคมวัฒนธรรมอาจเปรียบเทียบหุ่นยนต์กับลิงแชมแปนสีเพื่อประเมินทฤษฎีวิวัฒนาการ
-นอกจากนี้ นักมานุษยวิทยายังศึกษาศาสนาในหลายรูปแบบและการฝึกปฏิบัติ เช่นการเฉลิมฉลองพื้นที่ในช่วงที่พระอาทิตย์อยู่ไกลโลกมากที่สุด และการวิเคราะห์การบูชาแบบออนไลน์ในช่วงที่มีโรคโควิด 19 กำลังระบาด พวกเขาอาจศึกษาวิธีการที่พิธีกรรมนำคนมาอยู่ร่วมกัน พวกเขาอาจศึกษาโดยการใช้เอกสารเรื่องช้างในหมู่พวกฮินดูในอินเดีย
-พวกเขาอาจศึกษาเรื่องเพศและความสัมพันธ์ พวกเขาอาจศึกษาแรงขับทางเพศในผุ้ชาย พวกเขายังศึกษาเพศสภาพและอัตลักษณ์ทางเพศอีกด้วย
ทำไมต้องศึกษามานุษยวิทยา?
นักมานุษยวิทยาศึกษาหลายๆหัวข้อที่จะเป็นต่อความเข้าใจในการเป็นมนุษย์ และสิ่งที่มีความหมายในการเป็นมนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้น นักมานุษยวิทยาส่วนใหญ่ยังประยุกต์ความรู้และทักษะต่อปัญหาในโลกที่เป็นจริงด้วย
สิ่งที่จำเป็นต่อการเป็นนักมานุษยวิทยามีอะไรบ้าง?
1. เธอต้องการอยากรู้เกี่ยวกับโลกโดยทั่วไป และตัวมนุษย์ที่ดำรงอยู่ในโลก
2. เธอต้องเป็นคนคิดอย่างวิพากษ์ (critical thinker) นักมานุษยวิทยาจะสร้างความคิดรวบยอด, วิเคราะห์, สังเคราะห์, และประเมินค่าต่อข้อมูล และข้อมูลที่ได้รับมาจากโลกภายนอก
3. เธอต้องเป็นคนเก่งในการสื่อสาร นักมานุษยวิทยาจะแบ่งปันความคิดผ่านการเขียน การพูด และสื่อที่เป็นศิลปะ
4. หัวข้อย่อยๆในมานุษยวิทยาทำให้เราต้องมีทักษะย่อยๆที่เกี่ยวข้องด้วย เช่นนักโบราณคดีต้องใช้วิชาเลข ในขณะที่นักมานุษยวิทยาสังคมและวัฒนธรรมต้องมีทักษะการสังเกตุ
Chip Covwell. What do anthropologists do?
ไม่มีความเห็น