วันนี้เป็นวันพระ แรม ๘ ค่ำ เดือนห้า(๕) ปีขาล
ช่วงนี้มีความก้าวหน้าทางธรรมอีกก้าวหนึ่งเล็ก ๆ ดังจะได้อรรถาธิบาย ดังนี้
สัปดาห์ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ย่อเพื่อกระโดดทางธรรม
ด้วยการกลับมาพิจารณาภาพนี้อีกครั้งหนึ่ง
พบว่า ..
เห็นปฏิจจสมุปบาทชัดขึ้น
และชัดยิ่งขึ้นอีก เมื่อได้อ่านและฟังพระสูตร “ฮวงโป” หนอ
Key word แรก คือ คำว่า “สมมติ”
- สมมุติ สมมุติบัญญัติ และ วิมุตติ จะช่วยให้เราเห็นภาพ ปฏิจจสมุปบาท ชัดขึ้น
- ในตอนแรก ผมเองยังหลงอยู่ในภาพ และหาทางตัดโซ่สังสารวัฏ เพียรฝึกสติปัญญาเพื่อหาทางวิมุตติ โดยคืนนั้นยังติดอยู่กับคำว่า “อนัตตา” อันเกิดจากพิษของการย่อเปิดการ์ดให้กิเลสก่อน เพื่อจะกระโดด
- เมื่อกลับมาเปิดสารพัดตำรา สารพัดสำนักที่เพียรฝึกมา ก็จะค่อย ๆ บรรเทา ฝั่งทางนี้ให้ค่อย ๆ เข้าสู่ความสงบ
- และก็มีอยู่คืนหนึ่ง ที่ข้ามไปสู่ฝั่ง “ปรามิตา” ได้ชั่วคราว และเกิดความสงสัยว่า อ้าวอีกไม่กี่เดือนก็ต้องกลับมาฝั่งทางโลกนี้เหมือน ๆ เดิม เอ! มันมีวิธีที่ไม่ต้องกลับมาอีกไหม ?
- และแล้ว .. เมื่อสองสามวันนี้ จึงเพียรอ่านและฟังพระสูตร “ฮวงโป” อย่างเข้มข้น พบว่า มีความก้าวหน้าที่จะพยายามอรรถาธิบายต่อไปนี้ (ไม่แน่ใจว่า จะอธิบายได้ไหม ?)
ภาพนี้เป็นสมมติบัญญัติ หรือ ความว่าง นั่นเอง หนอ
วิมุตติ ←-- สมมุติบัญญัติ ←-- สมมติ
การจะไปสู่วิมุตติ ยังต้องอาศัยสมมติ อยู่โดยลดสมมติ ให้เป็นสมมุติบัญญัติ
แต่เมื่อมีสติปัญญา จนใช้ได้แล้ว ก็ต้องปล่อยวาง สมมติบัญญัติ ทั้งหมดด้วย สาธุ