๗๓. จากบ้านลุงโฮ สู่พระธาตุพนม - นาแก (๓)


ขับเคลื่อนรถยนต์คู่ใจไปนมัสการพระธาตุพนม ในเส้นทางที่ย้อนกลับมา หลังจากบันทึกความทรงจำที่ประทับใจในตัวเมืองนครพนม ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองรอง แต่หลายคนต้องการจะมาเยือนสักครั้งในชีวิต รับรองว่าไม่ผิดหวัง เป็นเมืองที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด ร่มเย็นและมีเอกลักษณ์

       ก่อนจากห้องพักชั้นบนสุดของโรงแรมเดอะริเวอร์ ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามมาก จะเสียดายมากมายถ้าไม่ได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก จากนั้นก็ได้เวลาอาหารมื้อเช้า ที่ทางโรงแรมแยกอาคารห้องอาหารออกไปต่างหาก ดูโอ่โถง สะอาดและมีอาหารหลากหลาย

       กินกันไปวางแผนกันไปว่าจะไปไหน จุดหมายสำคัญคือไหว้พระธาตุพนม จากนั้นจะไปกราบนมัสการหลวงลุงซึ่งเป็นพระพี่ชาย ที่อำเภอนาแก

       ลูกชายบอกว่าถ้ามาจังหวัดนครพนม ต้องแวะไปเยี่ยมชมบ้านลุงโฮ เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย – เวียดนาม ผมก็เลยบอกว่าช้าอยู่ทำไม? รีบไปกันเถอะ

        บ้านลุงโฮ หรือที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า บ้านท่านโฮจิมินห์  ตั้งอยู่ที่  หมู่บ้านนาจอก ตำบลหนองญาติ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เป็น อีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ที่ได้มีการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ที่ครั้งหนึ่ง อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภาร รัชกาลที่ ๙ เพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนามในช่วงระหว่างการทำสงคราม เพื่อเตรียมการ ปฏิวัติสู้กับประเทศฝรั่งเศส 

       ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๖๗–๒๔๗๔ ลุงโฮได้ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดนครพนม โดยมาอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ มาจากเวียดนามที่ถือได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทร่วมอุดมการณ์เดียวกัน  เพื่อนสนิทของลุงโฮได้เดินทางเข้ามาพำนักอาศัยอยู่ใน ประเทศไทยและมีครอบครัวที่ประเทศไทย

      ปัจจุบันบ้านหลังนี้ได้มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นและเป็นสถานที่แสดงประวัติเกี่ยวกับลุงโฮรวมถึงบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และ เรื่องราวการใช้ชีวิตของลุงโฮที่ประเทศไทยโดยในปัจจุบัน บ้านพักอาศัยของลุงโฮ แทรกตัวอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นของแมกไม้นานาชนิด ที่ลุงโฮได้ปลูกไว้ ได้แก่ ต้นมะพร้าว หมาก พลู กล้วย  ภายในบ้านถูกแบ่งออกเป็นสามห้อง คือสองห้องนอน หนึ่งห้องโถง   มีข้าวของเครื่องใช้ที่จำลอง ในสมัยก่อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน ห้องนอน  บ้องสูบยา ภายในยังมีรูปเกี่ยวกับชีวประวัติท่านประธานโฮจิมินห์ เพื่อให้คงบรรยากาศเดิม ๆ ไว้

        ร่ำลาบ้านลุงโฮเป็นที่เรียบร้อย ได้เวลาขับเคลื่อนรถยนต์คู่ใจไปนมัสการพระธาตุพนม ในเส้นทางที่ย้อนกลับมา หลังจากบันทึกความทรงจำที่ประทับใจในตัวเมืองนครพนม ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองรอง แต่หลายคนต้องการจะมาเยือนสักครั้งในชีวิต รับรองว่าไม่ผิดหวัง เป็นเมืองที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด ร่มเย็นและมีเอกลักษณ์

       ผมใช้เวลานมัสการพระธาตุพนมไม่นานนัก เพราะเคยมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ครั้งนี้ถือเป็นสิริมงคลต่อชีวิตไม่น้อย เพราะอายุก็เคลื่อนคล้อยเข้าสู่ปีที่ ๖๐ แล้ว

       บ่ายสามโมง ตรงเข้าไปวัดป่าช้าสันติการาม ที่พระ “หลวงลุงสันติ” จำพรรษาอยู่รูปเดียว ภายในศาสนสถานร่มรื่น อาคารไม้ส่วนใหญ่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา หลวงลุงอยู่วัดนี้มาเกือบ ๒๐ ปีแล้ว ท่านพัฒนาวัดไปตามกำลัง โดยที่ไม่เคยตัดต้นไม้เลย

       สิ่งที่หลวงลุงภูมิใจคือได้สร้างเมรุให้วัด เกิดประโยชน์กับชุมชนมากมาย และตอนนี้หลวงลุงอายุ ๗๖ ปีแล้ว กำลังสร้างเมรุให้แก่วัดข้างเคียงที่หลวงลุงเคยจำพรรษา เมื่อครั้งที่เดินทางมาอยู่ที่อำเภอนาแก

       เย็นมากแล้ว ผมต้องกราบลาหลวงลุง จากวัดป่าช้าสันติการาม เพื่อเดินทางไปพักค้างที่ตัวเมืองอุบล ระยะทาง ๒๒๐ กิโลเมตร หลวงลุงรดน้ำมนต์และอวยชัยให้พร ให้ผมและครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ตลอดจนปลอดภัยในทุกวันของการเดินทางครั้งนี้

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๖ เมษายน ๒๕๖๕

   

หมายเลขบันทึก: 701743เขียนเมื่อ 7 เมษายน 2022 10:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน 2022 10:36 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท