สร้างค่านิยมอย่างไรจึงจะทำให้สังคมน่าดู น่าอยู่ น่าอาศัย


ค่านิยมที่ไม่ควรนิยม  คือ การทำอะไรตามใจตนเอง โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ความเหมาะสมดีงาม ควร ไม่ควร  การไม่สนใจว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไรตามมา หรือใครจะเดือดร้อน ไม่สนแต่ยึดถือความสุข  ความพอใจของตนเป็นสำคัญ เอาตนเอง เป็นใหญ่โดยไม่ใส่ใจต่อผลเสียหายซึ่งจะตามมา สิ่งใดที่เป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม และขัดกับจารีดประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ของไทยที่บรรพบุรุษปลูกฝังไว้ดีแล้วและขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง ถือว่า เป็นค่านิยมที่ไม่ดี ควรละเว้น และควรร่วมกันสืบสาน หรือสานต่อในสิ่งที่ ดีงามเอาไว้ ละทิ้งค่านิยมที่ไม่ดี ที่ไม่ควรนิยม ไม่เผยแพร่ออกไปให้เสียหายต่อ ภาพลักษณ์ที่ดีงามของชาติบ้านเมื่อง บ้านเมืองจะน่าดูน่าอยู่ น่าอาศัย ทุกคน ต้องเข้ามามีส่วนร่วม นั้น คือ  "ร่วมด้วยช่วยกัน” ไม่ใช่ “ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์” แต่ต้องสร้างค่านิยมที่ดีงามจนเป็นสุขนิสัย หรือเป็นวิถีชีวิตนั้นเอง

สร้างค่านิยมอย่างไรจึงจะทำให้สังคมน่าดู น่าอยู่ น่าอาศัย

 

สร้างค่านิยมอย่างไรจึงจะทำให้สังคมน่าดู น่าอยู่ น่าอาศัย

ดร.ถวิล  อรัญเวศ

             ค่านิยม  คือที่ดีงาม ที่บรรพบุรุษปลูกฝังกันมาช้านานได้แก่ 
การประหยัด  อดออม   มีวินัย  เคารพกฎหมาย  ใช้ของไทย กินของไทย
แต่งกายแบบไทย ๆ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นต้น

            ค่านิยมที่ไม่ควรนิยม  คือ การทำอะไรตามใจตนเอง โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง
ความเหมาะสมดีงาม ควร ไม่ควร  การไม่สนใจว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไรตามมา
หรือใครจะเดือดร้อน ไม่สนแต่ยึดถือความสุข  ความพอใจของตนเป็นสำคัญ เอาตนเอง
เป็นใหญ่โดยไม่ใส่ใจต่อผลเสียหายซึ่งจะตามมา

            ตัวอย่าง ค่านิยมที่ไม่ควรนิยม หรือ ควรละเว้นเสีย  มีดังนี้

1.   ให้ความสำคัญด้านวัตถุมากกว่าทางด้านจิตใจ 

      (วัตถุนิยม) หรือตัดสินคนที่เปลือกภายนอก เช่น มีรถโก้รถหรูหรือเปล่า  
      แต่งตัวโก้หรูไหม เสื้อผ้าราคาแพงมีแบรนด์ไม เป็นต้น

 2.    ฟุ้งเฟ้อ  ฟุ่มเฟือย  สุรุ่ยสุร่าย 

        นิยมสินค้ามียี่ห้อ หรือแบรนด์เนม แบรนด์โก้หรู ดีเด่นเกินฐานะมีราคาแพงเกินดี
เกินตัว  เปลี่ยนของใช้ราคารแพงบ่อย ๆ  ต้องทันสมัยตลอดกาล แต่ไม่ดู
ความเหมาะสมไม่ดูรายรับรายจ่ายของตนเองว่าเป็นอย่างไร เดือดร้อนไหม 
อยากจะใช้อย่างเดียวไม่คำนึงความเดือดร้อนที่จะตามมา

3.    รักสนุก  สุขนิยม ใช้ชีวิตสำราญ 

ผลาญทรัพยากร  นิยมแลกเปลี่ยนคู่นอน คนเจ้าสำราญ เสเพลย์

สวิงกิ้ง ประดุจสัตว์เดรัจฉานอะไรทำนองนั้น

4.    กลัวความอ้วน ยอมอดอาหาร

ไม่ดูแลสุขภาพตนเอง กลัวไม่สวยไม่หล่อ โดยกินยาเพื่อลด
ความอ้วน แต่ไม่สนใจที่จะปฏิบัติตนในด้านการกิน เช่น
ไม่กินตามใจปากเลือกทานอาหารให้พอประมาณ มีโภชเนมัตตัญญุตา
รู้จักประมาณตนเองในการบริโภคอาหาร เป็นต้น

5.    เห็นแก่เงินเห็นแก่ได้ โดยไม่ใส่ใจด้านคุณธรรม จริยธรรม

      ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมจรรยา 
ความถูกต้องดีงาม สามารถเปลือยเนื้อหนังเพื่อแลกกับเงินทำอะไร
ก็ต้องเอาเงินเข้าล่องานถึงจะสำเร็จทำนองนั้น
       มีคำที่ท่านกล่าวเปรียบเปรย ประชดประชันและให้ข้อคิดสอนใจไว้ว่า
   เงินนะ เปรียบเสมือนอสรพิษ   เงินนะ
               ตกใส่เหล็ก เหล็กก็บิ่น

               ตกใส่หิน หินก็ลอย

               ตกใส่หอย หอยก็อ้า

               ตกใส่หญ้า หญ้าก็ตาย

               ตกใส่ทราย ทรายก็ทรุด

               ตกใส่มนุษย์ ทำให้มนุษย์หมดคุณธรรม"

              เท็จจริงประการใด ก็พิจารณาเอง

           

6.  ค่านิยมทางเพศไม่รักนวลสงวนตัว

      ต้องการมีเสรีทางเพศเกินขอบเขต ไม่สนใจในฮีตสิบสอง
คองสิบสี่  ปล่อยตัวจนเลยเถิด เกินขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม
ของไทยเราที่ปลูกฝังสิ่งดี ๆ มาหลายศตวรรษ
 

7.  เชื่อโชคลาง  ฤกษ์ยาม

         ชอบแห่ไปสักการะขอโชค ของลาภจากต้นไม้  ศาลพระภูมิ หรือ
ขอเลขเด็ดเอาไปแทงหวย  อยากรวยลางลัด  ลุ่มหลงหวยจนหมดเนื้อ
หมดตัว เพราะเล่นไม่เป็น  ไม่เอาเป็นลงท้าย คือคิดเป็น ทำเป็น
และแก้ปัญหาเป็น  เป็นต้น

8.  ชอบอิงผู้มีอำนาจ

      เป็นชาวเกาะ อ้างอิงอำนาจเพื่อนำไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ต่อ
ตัวเองและพวกพ้อง ไม่สนใจความถูกต้อง ชอบธรรมไหม แต่ชอบ
ความถูกใจ คิดว่าตัวเองใหญ่ เป็นลูกหรือญาติกับผู้ใหญ่ผู้มีสี
ใครแตะต้องไม่ได้ ทำนองนั้น เราต้องยึดหลักว่า  “ถูกใจเป็นรอง ถูกต้องเป็นหลัก”เสมอ

9. ชอบฝ่าฝืนกฎจราจร

     เป็นไร้ระเบียบวินัย วินัย ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ขับรถไม่มี
จรรยาบรรณของวิชาชีพ การขอรับใบขับขี่ ไม่เคารพกฎจราจร
ขับย้อนศรจนเคยตัวหรือจนติดนิสัยที่ไม่ดี

 10. ขาดสัมมาคารวะ

           วาจากระแข็งกระด้าง พูดจาหยาบคาย ประเภทขวานผ่าซาก
พูดจาไร้หางเสียง  ท่าทางกร่าง  ไม่สนใจผู้อาวุโส ปู่ ย่า ตายาย
ครู อาจารย์ ยอมหัก ไม่ยอมงอ อะไรทำนองนั้น เป็นต้น

11. อ้างศักดิ์ศรีสถาบันการศึกษาในทางที่ก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทบาดหมางกัน 
      ไม่อดกลั้น อดทน ไม่รู้จักข่มจิตข่มใจเอาไว้เวลายามโกรธ หุนหันพลันแล่น โดย
      ไม่ดูเหตุดูผลที่ดีงาม จนทำร้ายร่างกาย หรือเข่นฆ่ากันถึงกับเลือดตกยางออก  
      เราควรมีทมะ ขันติ จาคะ กันเอาไว้

 

สรุป 

       สิ่งใดที่เป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม และขัดกับจารีดประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม
ของไทยที่บรรพบุรุษปลูกฝังไว้ดีแล้วและขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง ถือว่า
เป็นค่านิยมที่ไม่ดี ควรละเว้น และควรร่วมกันสืบสาน หรือสานต่อในสิ่งที่
ดีงามเอาไว้ ละทิ้งค่านิยมที่ไม่ดี ที่ไม่ควรนิยม ไม่เผยแพร่ออกไปให้เสียหายต่อ
ภาพลักษณ์ที่ดีงามของชาติบ้านเมื่อง บ้านเมืองจะน่าดูน่าอยู่ น่าอาศัย ทุกคน
ต้องเข้ามามีส่วนร่วม นั้น คือ  "ร่วมด้วยช่วยกัน”  ไม่ใช่ “ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์”
แต่ต้องสร้างค่านิยมที่ดีงามจนเป็นสุขนิสัย หรือเป็นวิถีชีวิตนั้นเอง

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 700122เขียนเมื่อ 30 มีนาคม 2022 02:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 มีนาคม 2022 02:09 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท