ปีการศึกษา ๒๕๖๔ กำลังจะสิ้นสุดในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เป็นอีก ๑ ปีที่การบริหารจัดการ"งานและชีวิต" กระอักกระอ่วนป่วนใจเสียเหลือเกิน
ชีวิต..ก็คงไม่เท่าไหร่ เพราะตีกรอบล้อมตัวเองเอาไว้ ด้วยเหตุผล ความพอประมาณและสร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยการปฏิสัมพันธ์กับผู้คนให้น้อยที่สุด เพื่อหยุดโควิดไว้มิให้มากล้ำกราย
ในแต่ละวัน จึงจำเจอยู่ได้แค่บ้าน โรงเรียนและโคกหนองนา ไม่สามารถพัฒนาวงจรชีวิตไปได้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่รู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านไป จะมีเสียความรู้สึกอยู่บ้าง ก็ตรงที่ไม่ได้ดั่งใจเท่านั้น
ด้านการเรียนการสอน เรียกว่าเสียศูนย์ไปเลยก็ว่าได้ ปิดเรียนบ่อย ทำให้สอนหนังสือไม่ต่อเนื่อง การปิดโรงเรียน มีทั้งถูกสั่งให้ปิด และปิดเพราะสถานการณ์รุนแรงมารุมเร้าอยู่ข้างรั้ว
ตอนนี้..การปิดโรงเรียนเพราะนักเรียนติดโควิด มีมากขึ้นเป็นดอกเห็ด หลายโรงเรียนทยอยปิดเรียนกันไปเป็นที่เรียบร้อย สิ่งที่ทำได้ในเวลานี้ก็คือขอร้องผู้ปกครอง...ถ้าลูกหลานป่วย..ให้อยู่ที่บ้านไปก่อน
สืบเนื่องจากการจัดงานบวช งานแต่งงาน ทำให้หลายคนพูดเหมือนกัน ถ้าเด็กป่วย ตรวจยังไงก็เจอโควิด..สัปดาห์นี้ไม่ได้ตรวจATK เพราะไม่มีเด็กป่วยไข้มาเรียน จึงเฝ้าภาวนาขอให้พ้นภัยไปได้ตลอดรอดฝั่งด้วยเถิด
จนถึงวันสุดท้ายของการเรียน คือวันศุกร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๕ จะรีบเร่งแบบฉวยโอกาส ปิดเรียนฉับพลันทันใด ก็รู้สึกละอายใจ นอกจากเด็กจะไม่ได้อะไร ยังเลื่อนชั้นไปแบบงง ๆ
เมื่อการทำงาน..ไม่เป็นไปตามแผนปฏิบัติการฯ การเรียนการสอน..ไม่เป็นไปตามหลักสูตรฯ เป้าหมายเชิงคุณภาพ จึงเล็กลงและริบหรี่ หันมาวิเคราะห์ข้อดีและข้อด้อย เพื่อการพัฒนาในปีต่อไป
ข้อดี ที่นักเรียนทุกชั้น ส่วนใหญ่อ่านได้ เพราะครูทุกท่านเน้นการอ่าน เป็นบรรทัดฐานสำคัญของการเรียนการสอน เพียงแต่ไม่สามารถเติมเต็มได้ตามศักยภาพ เพราะติดด้วยเงื่อนไขของเวลา
ข้อด้อย นักเรียนทุกชั้นขาดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ไม่ได้สัมผัสวิชาทักษะชีวิตที่แท้จริง กิจกรรมบางอย่างต้องปล่อยผ่าน เพื่อรักษาระยะห่างซึ่งกันและกัน
อย่างไรก็ตาม..การศึกษาไม่มีคำว่าสิ้นสุด จุดอ่อนหรือจุดด้อย ยังมีเวลาให้ครูทุกท่านได้สอนเสริม เติมเต็มและปรับปรุงแก้ไขให้นักเรียน เพราะครูยังอยู่ครบทุกคน
โรงเรียนก็ยังคงอยู่เช่นกัน มิได้สูญเสียไปจากระบบ ยังคงไว้ให้ผู้บริหารได้บริหารจัดการ ในทุกด้านทั้งวิชาการ อาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อม มีความพร้อมมากพอที่จะไม่ให้เสียศูนย์อีกแล้ว
ตลอดปีการศึกษาที่ผ่านมา...ก็ยังนับว่าโชคดีที่เป็นเพียงแค่..เสียศูนย์..ไปบ้าง แต่ไม่เคยสูญเสียความตั้งใจที่จะทำสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นในโรงเรียนและโคกหนองนา
โปรเจ็คเล็กๆ ถูกขับเคลื่อนตลอดเวลา ในท่ามกลางสถานการณ์โควิด เพราะชีวิตยังต้องก้าวเดินเพื่อรักษาลมหายใจเอาไว้ จุดหมายปลายทางอาจไม่สำคัญ เท่ากับปัจจุบันที่ต้องทำคุณประโยชน์และอยู่ให้รอด..ปลอดภัย
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๖ มีนาคม ๒๕๖๕
ไม่มีความเห็น