คงจะเป็นภาพจำของผมและเด็กไปอีกนาน สำหรับเด็กคงไม่เท่าไหร่ ไม่นานเขาก็จะลืม แต่สำหรับผม มันคือบทเรียนครั้งสำคัญ ที่จะนำไปสอนลูกสอนหลานและเตือนตัวเอง
เรื่องแบบนี้.เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก พบเจอปีละครั้งสองครั้ง แล้วก็เงียบหายไป เพราะวัยและพัฒนาการของเด็กเติบโต มีความคิด มีจิตพิสัยที่สูงขึ้น
แต่กว่าจะถึงตอนนั้น ครูต้องตอบคำถามผู้ปกครอง ต้องแก้ปัญหาและหาคำตอบให้ได้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ใครเป็นผู้กระทำ ถึงแม้รองเท้าผ้าใบจะหายไปเพียงข้างเดียว ก็ไม่ใช่เรื่องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ผมอยากทราบว่า เด็กคนไหนเอารองเท้าลูกผมไปซ่อน” ผู้ปกครองถามผมที่ห้องพักครู
“เมื่อวานก็ช่วยกันค้นหาแล้ว แต่ไม่เจอครับ เดี๋ยวผมจะซื้อคู่ใหม่ให้น้องนะครับ” ผมตอบไม่ตรงคำถาม ทำให้ผู้ปกครองส่ายหน้า แสดงท่าทางแบบไม่ต้องการรองเท้าคู่ใหม่ แต่ต้องการพบเด็กที่เป็นต้นเหตุให้ลูกชายชั้นอนุบาล ๓ ของเขา เหลือรองเท้าผ้าใบเพียงข้างเดียว
ผมจึงขอพบคุณครูประจำชั้นและเด็กอนุบาลทุกคนเพื่อซักถาม ใช้เวลาเพียง ๕ นาทีก็ได้คำตอบที่สุดแสนจะชื่นใจ “ใครเอารองเท้าของเพื่อนไปซ่อนให้ยกมือขึ้น”
“ผมครับ.” เด็กชายตัวน้อยลูกหลานชาวพม่ายกมือขึ้นอย่างมั่นอกมั่นใจ
ผมเข้าไปสวมกอด เพื่อให้เด็กอุ่นใจว่าครูจะไม่ทำโทษ แต่หัวใจครูรู้สึกขอบคุณที่เธอแสดงออกซึ่งความกล้าหาญต่อหน้าผู้ปกครองที่กำลังเคร่งเครียด “พาครูไปดูซิ เธอซ่อนไว้ตรงไหน”
จากนั้น..การค้นหารองเท้าก็เริ่มขึ้น ในสวนหย่อมและพงหญ้าหน้าห้องอนุบาล ผ่านไป ๓๐ นาที ไม่มีทีท่าว่าจะเจอ ทั้งที่เด็กก็ยืนยันว่าโยนเข้าไปตรงนั้นจริงๆ
ผมพาเด็กเดินกลับมาขอโทษผู้ปกครองที่ห้องพักครู เด็กน้อยยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ผู้ปกครองเอื้อมมือมาจับมือเด็กและลูบหัวเบาๆ มีรอยยิ้มเล็กน้อยที่แสดงว่าไม่ติดใจเอาความแล้ว
“ทำไมหนูต้องโยนรองเท้าเพื่อนเข้าไปในดงไม้ล่ะครับ” ผมถามเด็กพม่าผู้น่ารักของผม หลังจากที่ผู้ปกครองกลับไปแล้ว “ผมล้อเล่นครับ”
“เด็กคนนี้ เป็นเด็กดีนะคะผอ. เขาเคยทำแบบนี้ แต่พอหนูบอก เขาก็เชื่อฟัง ที่เขายกมืออาจหมายถึงเหตุการณ์ที่เขาเคยทำมาก่อนก็ได้นะคะ” ครูประจำชั้นให้เหตุผลที่น่าฟังทีเดียว
ผอ.ก็ไม่อยากเชื่อว่าเป็นความผิดของหนูเพราะมันไม่เจอหลักฐาน ถึงแม้หนูจะสารภาพแต่ครูก็ไม่อาจตัดสินใจ ว่าหนูเป็นผู้กระทำผิด ที่คิดแกล้งเพื่อน จนเพื่อนได้รับความเสียหาย ครูขอรอดูกล้องวงจรปิดก่อน ทั้งหมด ๘ ตัวที่ติดอยู่รอบอาคารอนุบาล อาจจะมีคำตอบให้ครูก็ได้
“ผอ.คะ..เจอรองเท้าน้องแล้วค่ะ เจ้าด่างคาบไปทิ้งที่กลางสนาม” ครูธุรการมารายงานผม
“รู้ได้ไงว่าเป็นฝีมือเจ้าด่าง” ผมถาม “ในกล้องวงจรปิดค่ะ น้องเขาไม่ได้วางรองเท้าที่ชั้นวาง เจ้าด่างเลยคาบไปเล่น ตอนนี้โทรบอกผู้ปกครองแล้วค่ะ”
ครับ..ครูอย่าด่วนตัดสินใคร ถ้ายังไม่ได้ดูกล้องวงจรปิด...ผมบอกตัวเองแบบนี้จริงๆ
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕