ชีวิตที่พอเพียง ๔๑๓๖. โรงพยาบาลอัจฉริยะ

 

เช้าวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๔ ผมได้รับเชิญไปร่วมพิธีเปิด Siriraj World Class Smart Hospital  ศิริราช ต้นแบบโรงพยาบาลระดับโลก ด้วยเทคโนโลยีเครือข่าย ๕ จี   ที่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ไปเป็นประธานในพิธีเปิด   

งานเริ่ม ๙.๐๐ น.   แต่ผมออกจากบ้านตั้งแต่ ๕.๓๐ น. เพื่อเลี่ยงรถติดเพราะเวลานี้โรงเรียนเปิดเรียนแล้ว    เมื่อออกเช้ารถโล่งจึงไปถึง ๖.๑๐ น.   แต่ก็เริ่มมีเจ้าหน้าที่มาเตรียมงานแล้ว    คุณบังอรทำงานกับ รศ. นพ. เชิดชัย นพมณีจำรัสเลิศ พ่องานนี้ มาชวนไปตรวจ ATK จากน้ำลาย    ผมจึงได้มีประสบการณ์ตรวจเอง    โดยใช้ชุดตรวจจากเกาหลี    ผลิตโดยบริษัท PLC, Inc ชื่อผลิตภัณฑ์คือ PLC COVID19 Ag Gold Test Card     วิธีตรวจเริ่มโดยฉีกซองเล็กๆ เอากระบอกพลาสติกจิ๋วสำหรับเก็บน้ำลาย ต่อเข้ากับกรวยกระดาษจิ๋วสำหรับรองรับน้ำลาย   ในกระบอกพลาสติกมีน้ำยา   บ้วนนำลายลงไปสามสี่ครั้งจนถึงขีดที่กำหนดก็พลิกกระบอกกลับไปกลับมา ๑๐ ครั้ง ให้น้ำลายผสมน้ำยาดีแล้วก็หยดน้ำลายผสมน้ำยา ๓ หยดลงบนเพลตจิ๋ว (ดูรูป)   รอสามสี่นาทีให้ผลขึ้นมาหนึ่งหรือสองขีด    หากสองขีดคือผลบวก  ในรูปแสดงว่าของผมผลลบ ถ่ายรูปพร้อมบัตรประชาชนเอาไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เขาติดสติ๊กเกอร์สีเขียวให้    เหตุที่ทุกคนต้องตรวจ เอทีเค ก็เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่ท่านนายกรัฐมนตรี   

เป็นครั้งแรกในเวลาเกือบสองปี ที่ผมไปประชุมแบบไปล่วงหน้านานมาก   ไปนั่งทำงานด้วยความสบายใจ   คราวนี้นั่งในห้องอาหารของอาคารศรีสวรินทิรา ที่มีป้ายบอกว่ามีระบบถ่ายเทอากาศให้ความปลอดภัยจากโควิด   กินอาหารเสร็จผมซื้อกาแฟร้อนมานั่งกินพร้อมกับอ่านหนังสือในไอแพ็ด มินิ อย่างสบายใจ     พร้อมกับฟังข่าวเช้าจากทีวีในห้องอาหาร ที่ผมไม่เคยฟังมากว่าสิบปี   เพื่อเปิดหูเปิดตาว่าชาวบ้านเขาฟังข่าวอะไรกัน   

พีธีเปิดกำหนด ๙.๐๐ น.  นายกฯ มาถึง ๙.๒๐ น.    ผู้กล่าวต่อที่ประชุมมี คณบดีศิริราช   รองเลขาธิการ กสทช. (หน่วยงานสนับสนุนทุน)   ผู้จัดการบริษัทหัวเหว่ยประเทศไทย    เอกอัครราชทูตจีน    และท่านนายกรัฐมนตรี    มีการเสนอกิจการด้วยวิดีทัศน์    และถ่ายทอดสดการเยี่ยมชมแต่ละจุดนิทรรศการของท่านนายกฯ หลังพิธี   ให้พวกเรานั่งชมในห้องประชุม   ช่วยให้เข้าใจเรื่องราวและคุณค่าของโครงการชัดเจนขึ้น 

ระหว่างนั่งรถกลับบ้าน  ผมลองค้นข่าวเรื่องนี้ พบว่า เว็บไซต์ของ นสพ. กรุงเทพธุรกิจลงข่าวอย่างละเอียดที่ (๑)    หลังเหตุการณ์จบราวๆ ครึ่งชั่วโมง    น่าชื่นชมความเป็นเสือปืนไว    แถมยังปืนเที่ยงด้วย คือข่าวแม่นยำ   

 ท่านที่สนใจกิจกรรมพัฒนาโรงพยาบาลอัจฉริยะ phase 1 อ่านได้จากข่าว (๑) นะครับ    ยังจะมีการพัฒนา phase 2 ต่อไปอีกมาก 

เห็นได้ชัดเจนว่า คุณค่าของโครงการคือการพัฒนาระบบการแพทย์ให้ก้าวหน้า มีความสะดวกขึ้นไปอีกมาก     โดยบริษัทหัวเหว่ยจัดการด้าน IT Solution    บริษัททรูให้บริการด้าน communication    ศิริราชพัฒนาบริการด้านต่างๆ    โดยดึงบริษัท Start-up ของไทยเข้ามาเป็นผู้ดำเนินการพัฒนา ในหลากหลายโครงการ    เท่ากับศิริราชได้ทำหน้าที่สร้างความเข้มแข็งแก่ start-up ด้านการแพทย์ของไทยด้วย            

 ผมกลับมาสะท้อนคิดที่บ้านว่า ในไม่ช้าพัฒนาการนี้จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่ health & wellness export industry ของไทย    ช่วยให้ผู้ให้บริการดูแลลูกค้าในระดับ individualized care โดยมีข้อมูลมาให้เตรียมความพร้อมล่วงหน้า    รวมทั้งให้สอบถามกลับว่าที่เตรียมไว้ให้พอใจไหม ต้องการอะไรเพิ่มอีก สำหรับลูกค้ากระเป๋าหนัก   

ชัดเจนว่า ในไม่ช้า smart hospital & smart healthcare systems  จะเชื่อมกับ smart personal health ที่ “นาฬิกาข้อมือ” สมัยใหม่  ทำหน้าที่ติดตามสัญญาณสุขภาพที่หลากหลาย และรายงานผลต่อเจ้าตัว   รวมทั้งส่งข้อมูลไปยังปลายทางที่เจ้าของข้อมูลอนุญาต โดยมีระบบ บล็อกเชน (blockchain) ช่วยคุ้มกันความเป็นส่วนตัว ป้องกันการขโมยข้อมูล     

 นำสู่ข้อกังวลว่า digital divide จะยิ่งถ่างกว้างขึ้น   จึงเป็นหน้าที่ของสถาบันการศึกษา สถาบันสาธารณะ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการขับเคลื่อนความเสมอภาคทางสังคม    จะต้องช่วยกันสร้างระบบสุขภาพอัจฉริยะ ที่เป็นระบบส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม   โดยต้องมีมาตรการสนับสนุนการนำไปพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ    อย่างที่ท่านนายกรัฐมนตรีเอ่ยในคำกล่าวเปิดของท่านด้วย        

วิจารณ์ พานิช

๑๖ ธ.ค. ๖๔ 

 

 

  1 แถบตรวจ ATK เทียบขนาดกับบัตรประชาชน