การวางแผนอัตรากำลัง
การวางแผนอัตรากำลัง (Human Resource Planning) มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ เพราะเป็นกระบวนการสำรวจความต้องการทรัพยากรมนุษย์เพื่อให้ได้จำนวนบุคลากรที่มีทักษะ ที่ต้องการและสามารถจัดหาได้เมื่อจำเป็นต้องใช้
ดังนั้น การวางแผนอัตรากำลังเป็นการวางแผนบุคลากร โดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่เพื่อกำหนดจำนวน และประเภทของบุคลากรที่ต้องการเพื่อให้ส่วนราชการสามารถวางแผน การสรรหา การคัดเลือก การฝึกอบรม และเนินการในส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้อง
การวางแผนอัตรากำลังจะต้องสอดคล้องกับเป้าหมายของส่วนราชการนั้น ๆ โดยต้องมีการพิจารณากำลังคนที่ต้องการว่ามีมาก น้อยเพียงใด และมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับงานนั้น ๆ นอกจากพิจารณาถึงจำนวนอัตรากำลังคนแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการทำให้บุคลากรเกิดความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน และมีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพ เพื่อลดการลาออก เพราะจะส่งผลให้ไม่เกิดปัญหาเกี่ยวกับการขาดแคลนบุคลากรที่ปฏิบัติงานอีกด้วย
ประโยชน์ของการวางแผนอัตรากำลัง
๑. ทำให้มหาวิทยาลัยสามารถวางแผนการใช้ทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้มองเห็นภาพรวมเกี่ยวกับความจำเป็นในการใช้ทรัพยากรมนุษย์ในมหาวิทยาลัย ทำให้บุคลากรที่เข้ามาทำงานในมหาวิทยาลัยมีคุณค่า เกิดประโยชน์แก่มหาวิทยาลัยอย่างแท้จริง
๒. ทำให้การจัดกำลังคนและเป้าหมายของมหาวิทยาลัยมีความสอดคล้องกัน
๓. ทำให้เกิดความสะดวกในการจัดหน่วยงานต่าง ๆ ให้ทำงานประสานสัมพันธ์กันตามความเหมาะสมของปริมาณคน ปริมาณงาน ปริมาณเวลา ในการทำงานและคุณภาพของผลงานที่ต้องการ
๔. เป็นการควบคุมบุคลากรให้ทำงานภายในขอบเขตอันเหมาะสมและอย่างเต็มความสามารถของแต่ละคน ไม่ทำให้เกิดการสูญเปล่าของแรงงานและค่าใช้จ่าย
๕. การกำหนดจำนวนบุคลากรไว้ล่วงหน้าทำให้สามารถดึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ได้ถูกจังหวะ และถูกเวลาที่ต้องการ เพราะบุคลากรได้ถูกเตรียมพร้อมไว้แล้ว
๖. การจัดกำลังคนและงานให้เกิดการสมดุล ทำให้บุคลากรมีงานทำอย่างทั่วถึง ไม่เกิดปัญหาบางคนมีงานมาก บางคนมีงานน้อย
๗. ปัญหาความขาดแคลนบุคลากรจะไม่เกิดขึ้น หากมีการกำหนดกรอบอัตรากำลังไว้ล่วงหน้า
การวิเคราะห์ภาระงานของสายสนับสนุน
๑. คิดจากการปฏิบัติงาน ตามภาระงานของแต่ละงาน (ตามโครงสร้างฯ) โดยเขียนรายละเอียดของงานที่ต้องปฏิบัติ ในปริมาณงาน/ปี ระยะเวลาที่ต้องใช้ในการปฏิบัติงาน/หน่วย เช่น นาที ชั่วโมง วัน การคิดปริมาณงาน คิดปริมาณงานรวมใน ๑ ปี
๒. กำหนดให้ การทำงาน ๑ วัน เท่ากับ ๗ ชั่วโมงทำการ
๓. กำหนดให้ การทำงาน ๑ คน ทำงาน ๒๓๐ วัน/ปี
๔. อัตรากำลังที่พึงมี = ระยะเวลาที่ใช้ในการปฏิบัติงานรวมทั้งหมด (วัน) / ๒๓๐
เมื่อดำเนินการคิดอัตรากำลังเรียบร้อย จะทำให้ได้จำนวนอัตรากำลังในภาพรวมของแต่ละหน่วยงาน และภาพรวมของมหาวิทยาลัย
หมายเหตุ :
๑. ในการเขียนรายละเอียดของการปฏิบัติงานในแต่ละงาน และรายละเอียดในการปฏิบัติงานนั้น พึงระวัง!!! จงเขียนตามความเป็นจริง และเป็นไปได้ของการปฏิบัติงาน เพราะหากเขียนไม่เป็นไปตามความจริง จะทำให้ได้อัตรากำลังที่ไม่เป็นจริง และจะทำให้ได้อัตรากำลังที่เกินตามความเป็นจริงได้
๒. อาจทำตารางเวลาของงานแต่ละประเภทไว้ เพื่อใช้ในการนำมาคำนวณเวลาในการปฏิบัติงาน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันก็ได้ แต่ก็มีข้อเสีย คือ งานแต่ละงาน อาจจะปฏิบัติด้วยการใช้เวลาไม่เท่ากันก็เป็นไปได้
๓. ในการเขียนภาระงาน ควรเขียนตามความเป็นจริง และนึก คิดให้ออกว่าในแต่ละวันนั้นเขียนภาระงานครบถ้วนแล้วหรือไม่ มีส่วนใด เรื่องใด ขาดตกบกพร่อง หรือเขียนภาระงานเกินความเป็นจริง
ทั้งหมดตามข้างต้น เป็นการคำนวณอัตรากำลังของบุคลากร สายสนับสนุน ฯ เพื่อให้ได้อัตรากำลังตามความเป็นจริง และคุ้มค่าต่อการจ่ายค่าตอบแทนของส่วนราชการ ซึ่งสามารถนำมาเขียนภาระงาน จัดทำคู่มือในการปฏิบัติงานหลักต่อไปได้ รวมทั้งการเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น เป็น Career Path ของรายตำแหน่งอีกได้
ที่มา : ศึกษาจาก คู่มือการปฏิบัติงาน เรื่อง การวางแผนอัตรากำลังทรัพยากรบุคคลอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และหน้าที่ที่ผู้เขียนได้ทำการปฏิบัติงาน นำมาประยุกต์เพื่อใช้ในการทำงานของภาครัฐ
****************************
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาในบันทึกนี้ค่ะ
บุษยมาศ แสงเงิน
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
ไม่มีความเห็น