พัฒนาการ


สุดท้ายจึงต้องลงมือทำเองแบบจำยอม พบความจริงอย่างโบราณสอนไว้เลย "ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม อย่าไปเอาจมูกคนอื่นมาหายใจ" 

ตั้งแต่เริ่มปลูกต้นไม้ นับดูจะครบ ๗ ปีเดือนหน้าแล้ว หวังจริงๆคือร่มเงาเพื่ออยู่อาศัยช่วงบั้นปลายชีวิต ไม้ที่ปลูกส่วนใหญ่จึงเป็นไม้ป่าที่เวลานั้นไม่ค่อยมีใครปลูก ด้วยความยากในการขออนุญาตตัด แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว 

นอกจากงานรดน้ำต้นไม้ ต่อๆมาจึงรู้ว่า ภาระงานที่ต้องทำควบคู่กันไปอีกอย่างคือตัดหญ้า ซึ่งไม่ทำไม่ได้เลย ไม่อย่างนั้นหญ้าจะสูงคลุม จนมองต้นไม้ที่ปลูกไม่เห็น ทำให้เจริญเติบโตช้าด้วย 

ระยะแรกจ้างตัดลูกเดียว ทำไม่เป็น เพราะไม่เคยทำมาก่อน เครื่องตัดหญ้าแบบเดินตามที่มีอยู่ไม่เหมาะกับพื้นที่ไม่ค่อยเรียบที่บ้าน เครื่องตัดแบบสะพายบ่าดูจะเหมาะสมและคล่องตัวที่สุด จึงเลือกใช้แบบนี้มาตลอด 

จ้างตัดหญ้ามีอุปสรรคพอสมควร ขนาดจ้างหรือเรายอมเสียเงินแล้ว เช่น ตัดไม่เรียบร้อย ไม่ว่างมาตัดให้ ฯลฯ สุดท้ายจึงต้องลงมือทำเองแบบจำยอม พบความจริงอย่างโบราณสอนไว้เลย "ไม่ว่าทำอะไร อย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ" 

เริ่มแรกเงอะๆงะๆ งงๆ แต่ไม่ยากอย่างที่คิด ได้แผลที่หน้าแข้งบ่อยเข้าก็ชิน จากใบมีดที่ไปกระแทกก้อนหินกระเด็นมาถูกหน้าตาและเนื้อตัวเรา แต่ก็ดีขึ้นหรือค่อยทำเป็นขึ้นเรื่อย ถ้างานสอนเด็กเมื่อก่อนต้องเรียกว่ามีพัฒนาการ 

บางคนบอกคงชำนาญการแล้ว พูดอย่างนี้ไม่รู้จริงหรือสบประมาทกัน(ฮา) เพราะถ้ามีการประเมินก็ต้องซี ๙ หรือระดับเชี่ยวชาญแล้วล่ะ(ฮา) 

(ครูกาญจนา:ภาพ)

หมายเลขบันทึก: 692703เขียนเมื่อ 4 ตุลาคม 2021 16:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม 2021 20:21 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เคยเห็นเขาตัดหญ้ากับเอ็น ที่ใช้สำหรับตัดหญ้า รู้สึกปลอดภัยกว่าตัดกับใบมีดนะค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท