[review] รีวิว จูราสสิค เวิลด์ ค่ายครีเทเชียส ซีซั่น 3 (2021 Netflix)

[review] รีวิว จูราสสิค เวิลด์ ค่ายครีเทเชียส ซีซั่น 3 (2021 Netflix) และแล้วการผจญภัยของเหล่าเด็กทั้ง 6 คนที่ได้รับเชิญมาเข้าค่ายครีเทเชียส ก็เดินทางมาถึงซีซั่น 3 ในครึ่งแรกของปี 2021 นี้จนได้

ดูคลิปรีวิวที่นี่

หากใครได้ดูมาแล้ว 2 ซีซั่น เชื่อว่าน่าจะติดใจ และลุ้นเอาใจช่วยว่า พวกเขาจะรอดตายจากไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ได้หรือไม่ และออกจากเกาะไดโนเสาร์อิสลานูบลาร์ไปได้อย่างไร

มาถึงซีซันที่ 3 นี้ พวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคอะไรบ้าง ความสนุกสนานจะทวีคูณมากขึ้นแค่ไหน เชิญติดตามรับชมรับฟังจากรีวิวนี้ได้เลยครับ

เนื้อเรื่อง ของ จูราสสิค เวิลด์ ค่ายครีเทเชียส ในซีซั่น 3 เล่าเรื่องต่อจากซีซั่นทันที เด็กทั้ง 6 คนล่องเรือใบที่ต่อขึ้นมาเองหวังว่าจะข้ามทะเลไปชายฝั่งเม็กซิโก แต่เรือของพวกเด็ก ก็ไม่อาจต้านคลื่นลมแรงได้ จึงจำเป็นต้องกลับเข้าฝั่ง หาทางสร้างเรือใบใหม่

ในระหว่างที่กำลังหาอุปกรณ์มาสร้างนั้นพวกเขาก็ได้เจอกับเรือสำราญขนาดใหญ่ ที่ 2 นักล่าสัตว์ในซีซั่นที่ 2 จอดทิ้งเอาไว้ แต่น้ำมันไม่มีมากพอ จึงจำเป็นต้องหาน้ำมันในเกาะต่อไปให้เพียงพอต่อการเดินทาง

ระหว่างการหาน้ำมัน พวกเขาก็ได้เจอกับไดโนเสาร์สังเคระห์สายพันธุ์ใหม่ที่ดุกว่า มีพิษร้าย ฉลาดว่องไวและคาดเดาไม่ได้เข้าโจมตี อีกทั้งยังต้องเจอกับอุปสรรคอีกมากมาย

ครั้งนี้เด็กทั้ง 6 คนจะเอาตัวรอดจากอุปสรรคต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาได้อย่างไร โปรดติดตามรับชมได้ทาง Netflix ครับ

หากพูดถึงเอนิเมชั่นที่เป็น Original ของ Netflix ผมเชื่อว่า จูราสสิค เวิลด์ ค่ายครีเทเชียส น่าจะเป็นอันดับต้น ๆ ที่ทุกคนเลือกดู เพราะเนื้อหาทั้งหมดนั้นมีความสอดคล้องกับสุดยอดหนังแฟรนไชส์ชื่อดังคือ Jurassic Park และ Jurassic World

ซึ่งความสนุกสนานมันเป็นการต่อยอดของหนังทั้งสองชุดได้ดี ในซีซั่นแรก ๆ จะมีเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับ Jurassic World ไม่น้อยเลยครับ

แต่พอมาในซีซั่นที่ 3 นี้ เขาก็เล่าเรื่องใหม่ทั้งหมดแล้วก็ไปยึดโยงกับ Jurassic Park แทน ดังนั้นเราจะได้เห็น Easter Egg จากหนัง Jurassic Park ในซีซั่นนี้ ยกตัวอย่างเช่น การเผชิญกับเจ้าเวโลซีแรปเตอร์ ในห้องครัว ที่เราเคยประทับใจในหนังใหญ่

ฝูงไดโนเสาร์ตัวเล็ก คอมพ์ซอกนาทัส หรือที่เด็กๆเรียกว่า คิมบี้ ที่เราเห็นใน Jurassic Park ทั้งภาค 1 และภาค 2 ว่า ถึงจะตัวเล็กแต่ก็ร้ายกาจมากขนาดไหน เขาก็เอามาใส่ในซีซันที่ 3 นี้ด้วย ทำให้รู้สึกว่าเจ้าตัวเล็กนี้มันน่ากลัวไม่แพ้เจ้าไดโนเสาร์ตัวใหญ่เช่นกัน

จากทั้งสองซีซั่นที่ผ่านมาทำให้เราเห็นเอกลักษณ์ของจูราสสิค เวิลด์ ค่ายครีเทเชียสว่า เขาสามารถใส่อุปสรรคเข้ามาได้ตลอดทุกตอนอย่างไม่น่าเบื่อ โดยสลับกันไประหว่างการโจมตีของเหล่าไดโนเสาร์ อุปสรรคของบุคคล รวมถึงไขปริศนาความลับที่ซ่อนเอาไว้ในเกาะแห่งนี้

และยังได้พบกับไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาใน Jurassic Park และ Jurassic World แถมยังมีสายพันธุ์ใหม่เข้ามาให้เห็นเรื่อย ๆ

โดยเฉพาะในซีซั่น 3 นี้ เด็ก ๆ จะต้องเผชิญกับไดโนเสาร์ตัดต่อพันธุกรรมที่มีความร้ายกาจกว่าที่เคยเห็นมา ที่เรียกว่า "สกอร์เปียส เร๊กส์" มันก็คือสัตว์ทดลองที่เขาทิ้งท้ายเอาไว้ในซีซั่น 2 นั่นแหละ ซึ่งเราก็ลุ้นเอาใจช่วยว่าจะรอดออกไปได้อย่างไร

แต่ขอแอบบอกก่อนว่า หากไม่ใช่เอนิเมชั่น ภาพเจ้า ไดโนเสาร์พันธุ์นี้มาโลดแล่นอยู่ในแผ่นฟิล์ม ผมไม่แน่ใจว่าใครจะมีใครจัดการมันได้หรือไม่ มันโหดจริง ๆ แต่เสียดายว่า นี่คืออนิเมชั่น ที่ทำมาให้เด็กดูเป็นหลัก ดังนั้นการปราบเจ้านี่ในช่วงท้าย จึงอาจทำให้เรารู้สึกว่ามันง่ายเกินไปนิดหน่อย ไม่ค่อยสมกับความร้ายกาจที่ปูเอาไว้

จึงพูดได้ว่าความสนุกของจูราสสิค เวิลด์ ค่ายครีเทเชียส คือการใส่ฉากลุ้นระทึกเข้ามาเป็นระยะ ๆ ตลอดทั้งเรื่อง ได้อย่างถูกที่และถูกจังหวะ จึงเป็นซีรีส์ที่ทำให้เราดูแล้วสนุกแทบทั้งเรื่อง ซึ่งในซีซั่นนี้ก็สนุกไม่แพ้กับทั้งสองซีซั่นที่ผ่านมา

ซีซั่นนี้มีความผ่อนคลายมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของซีซั่น ส่วนตัวแล้วค่อนข้างชอบเพราะมันไม่หนักหน่วงทางอารมณ์จนเกินไป แล้วเขาก็ไปใส่ภารกิจและอุปสรรค์ในช่วงครึ่งหลัง ดังนั้นความตื่นเต้นมันจึงมีลักษณะแบบต่ายบันได ขึ้นไปเรื่อย ๆ

แต่ เมื่อจูราสสิค เวิลด์ ค่ายครีเทเชียสเดินทางเข้าสู่ซั่นที่ 3 เราก็จะเห็นรูปแบบเดิม ๆ ออกมาตลอดทั้งซีซั่นเช่นกัน อย่างการไม่เข้าใจกันในกลุ่มเพื่อน การปรับความเข้าใจ การแสดงความห่วงหาอาลัย การแสดงความผูกพันระหว่างคนกับไดโนเสาร์ การไปเจออุปสรรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไดโนเสาร์และคน ซึ่งที่หมดมันก็แทบไม่ต่างกับทั้ง 2 ซีซั่นที่ผ่านมา มันเหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง

ส่วนตัวแล้วทำให้รู้สึกว่า เหล่านี้เป็นความน่าเบื่อ ซ้ำซาก จำเจ แถมยังมีหลายสิ่งที่เราดูแล้วเกิดเอะใจ เช่นอาคารบางอาคาร สถานที่บางแห่ง เราไม่ได้เห็นเลยใน 2 ซีซั่นที่ผ่านมา แล้วพอมาโผล่กับในซีซั่นนี้ กลับกลายเป็นว่าตัวละครบางตัวออกมาพูดว่าลืมสถานที่แห่งนั้นไป ทั้ง ๆ ที่ไม่น่าจะลืม

แต่ปัญหาสำคัญเลยก็คือ ยิ่งดูก็ยิ่งตั้งคำถามตลอดว่า เมื่อไหร่เด็กกลุ่มนี้จะออกจากเกาะให้สักที นี่มัน 3 ซีซั่นแล้วนะ ถ้าไม่ออกจากเกาะก็ไม่รู้ว่าหนังจะเอาอะไรมาเล่าแล้ว ถึงมันจะยังสนุกอยู่ก็เถอะ แต่มันอึดอันผสมรำคาญไม่น้อยเลย

ในแง่ของตัวละคร ในซีซั่น 3 ซีรีส์ได้บอกว่าเด็กทั้ง 6 คนอยู่โดยลำพังในเกาะไดโนเสาร์แห่งนี้กว่า 6 เดือนแล้ว ดังนั้นเราจึงได้เห็นพัฒนาการของเด็กหลายคน เช่น

บรุ๊คลิน” เด็กสาวเน็ตไอดอลชื่อดัง จากซีซั่นแรก ๆ เป็นเด็กที่สนใจแต่ตัวเอง แต่พอมาในซีซั่นนี้ เธอกลับให้ความสนใจในมิตรภาพของเพื่อนมาก และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้วยความรอบคอบมากขึ้น

ยาซ” เด็กสาวนักกีฬา จากที่เคยเป็นเด็กที่มีกำแพงทางความสัมพันธ์ที่สูงมาก ในที่สุดเธอก็เลือกกำแพงลงมาเยอะมาก

ส่วนเบน” เด็กหนุ่มผู้รักความสะอาด เขาทำให้เห็นว่า เด็กคนนี้กลายเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นในซีซั่นที่ 2 พอมาในซีซั่นนี้เขาก็เกิดความขัดแย้งทางอารมณ์และความคิด จนหลายครั้งในการแสดงของเขาสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อน

เคนจิ” เด็กชายมหาเศรษฐี เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความห่วงเพื่อนมากขึ้น เป็นต้น

โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่า จูราสสิค เวิลด์ ค่ายครีเทเชียส ควรจะจบบริบูรณ์ในซีซั่น 3 นี้ได้แล้ว เพราะส่วนตัวผมคิดว่าไม่รู้ว่าเขาจะเอาอะไรมาเล่นหากมีซีซั่นต่อไป เพราะเท่าที่เห็นทั้งหมดนี้มันก็เริ่มจะซ้ำซากจำเจเต็มทีแล้วครับ

เพราะเอาเข้าจริง ๆ แล้ว เราทุกคนต่างก็รับรู้ว่านี่คืออนิเมชั่นสำหรับเด็ก ต่อให้มีไดโนเสาร์พันธุ์ที่มีอันตรายมากแค่ไหน หรือเจอกับอุปสรรคที่มันหนักหนาสาหัสขนาดไหน ยังไงพวกเด็กทั้ง 6 คนก็สามารถผ่านไปได้อยู่ดี

แต่ถึงอย่างไร ทางทีมสร้างเขาก็ได้แทงกั๊กเอาไว้ในท้ายเรื่อง เรียกได้ว่าจะทำต่อก็ได้ หรือจะหยุดที่ตรงนั้นเลยก็ยังได้ เชื่อว่าเขาน่าจะทำต่อไปอีก เพราะคนก็ยังดูอยู่เช่นเดิม แต่โดยส่วนตัวแล้วถ้าเขาจะจบที่ตรงนั้นก็ได้ด้วยเช่นกัน และมันเป็นการจบที่ค่อนข้างสวยแล้ว

สำหรับคะแนนที่จะให้จูราสสิค เวิลด์ ค่ายครีเทเชียส ซีซั่น 3 มันระคนกันไป แม้ว่าจะมีหลายจุดที่น่าเบื่อวนเวียนซ้ำซาก แต่ในแง่ของความสนุก ๆ ลุ้นระทึกในซีซั่นนี้ผมถือว่าดีที่สุด ดังนั้นจึงขอให้คะแนนเท่านี้ละกันครับ

6.5/10

@วาทิน ศานติ์ สันติ

#จูราสสิคเวิลด์ค่ายครีเทเชียส3

#JurassicWorldCampCretaceous3

ุ