การประชุม PMAC 2021 เป็นโฉมใหม่ของการประชุม คือจัดแบบ ออนไลน์ ภายใต้ข้อจำกัดของสถานการณ์การระบาดของโควิด ที่ทำให้การเดินทางมาประชุมที่กรุงเทพอย่างทุกๆ ปี ทำไม่ได้ นี่เป็นครั้งที่ ๒ ที่ PMAC เผชิญสถานการณ์วิกฤติ ครั้งแรกปี ๒๕๕๗ PMAC 2014 (เรื่อง Transformative Learning for Health Equity) ต้องย้ายไปจัดที่พัทยากะทันหัน เพราะมีการชุมนุมประท้วงโดย กปปส. ที่สี่แยกราชประสงค์ และที่สี่แยกปทุมวัน
PMAC 2021 ปรับตัวกะทันหัน ๒ เรื่อง เรื่องแรกคือหัวข้อประชุม เดิมวางแผนไว้ว่าจะพูดกันเรื่องแนวโน้มใหญ่ด้านสุขภาพในอนาคต พอโควิดระบาดต้นปีที่แล้วก็เปลี่ยนเป็นเรื่องโควิด การปรับตัวเรื่องที่สองก็คือเปลี่ยนวิธีประชุม จาก onsite เป็น online
การปรับตัวนี้กระทันหันมาก แต่ภาคีร่วมมือทั้งหลายร่วมมือกันดีมาก ทำให้การประชุมให้ผลออกมาดีในด้านสาระ แม้จะมีข้อจำกัดมากมาย แต่การประชุมแบบออนไลน์มีข้อจำกัดหลายด้าน คนเข้าร่วมจึงไม่มากนัก มีการพูดกันว่าเป็นอาการ webinar fatigue
สำหรับผม ได้เปิดกะโหลกว่า เหตุการณ์ระบาดใหญ่ของโควิด ๑๙ มีต้นเหตุมาเป็นพันปี หรืออย่างน้อยก็ ๕๐๐ ปี เมื่อมนุษย์ก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม ทำให้มีการทำลายสมดุลสิ่งแวดล้อมของดาวเคราะห์โลก เปิดช่องให้เชื้อโรคจากสัตว์ป่ากระโดดมาติดมนุษย์ง่ายขึ้น เมื่อเชื้อ SARS-CoV-2 กระโดดเข้าสู่คน สภาพที่มนุษย์เดินทางติดต่อถึงกันทั่วโลกก็เอื้อความสะดวกให้เชื้อไวรัสนี้ระบาดเป็นการระบาดใหญ่ (pandemics)
เมื่อประเทศที่มีอิทธิพลสูงสุดของโลก หลงเลือกคนผิดเป็นประธานาธิบดี ที่นำเอาความเกลียดชังเข้ามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ทั้งการเมืองภายในประเทศ และการเมืองระหว่างประเทศ ใช้ความเห็นแก่ตัวเป็นอาวุธ ส่งผลทั้งต่อระบบการต่อสู่โรคระบาด โควิด ๑๙ ของประเทศตนเอง และของทั้งโลก และในประเทศตนเองยังมีอาการเกลียดชังคนเอเชียอยู่ในปัจจุบัน
การระบาดใหญ่ของ โควิด ๑๙ ครั้งนี้ จึงมีสาเหตุสำคัญมาจากปัจจัยด้านการเมืองด้วย คือความโง่เขลาทางการเมืองในประเทศมหาอำนาจช่วยกระพือให้โควิดแพร่กระจายง่ายขึ้น
โควิดจึงช่วยปลุกเราว่า การเมืองในประเทศมหาอำนาจมีผลกระทบกว้างกว่าที่คิด และประชาธิปไตยแบบตะวันตกไม่ใช่ระบอบที่ดีไม่มีที่ติ การที่มหาอำนาจพยายามยัดเยียดให้ประเทศอื่นปกครองโดยประชาธิปไตยตามแบบของตนจึงไม่น่าจะเป็นเรื่องชอบธรรม
โควิด ช่วยให้เราตื่นตัวตั้งคำถามว่าระบบการเมืองระหว่างประเทศในชื่อสหประชาชาติ (United Nations) ที่สร้างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ นั้น ล้าสมัยไปแล้วหรือไม่ เพราะดูจะเป็นกลไกรักษาผลประโยชน์ของประเทศร่ำรวยและมีอำนาจมากกว่า ในขณะที่ปัญหาใหญ่ๆ (อย่างกรณีการระบาดใหญ่ของโควิด ๑๙) นั้น ประเทศยากจน และหลุ่มคนด้อยโอกาสถูกกระทบมากกว่า และมีผลกระทบกลับมาที่ทั้งระบบ ทำให้แก้ปัญหาใหญ่ของทั้งโลกได้ยากขึ้น
โลกเราเชื่อมโยงถึงกันมากกว่าที่คิด ซึ่งหมายความว่า มีผลกระทบสู่กันได้มาก ระบบที่สร้างขึ้นเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้บางกลุ่มบางประเทศนั้น ในที่สุดผลร้ายที่เกิดขึ้น ก็วนกลับมาทำร้ายกลุ่มคนหรือประเทศที่ผลักดันระบบเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนด้วย
สิ่งที่ผมไม่เคยนึกว่าจะเกิดขึ้นในโลก คือการระบาดของกระบวนทัศน์ต่อต้านวิทยาศาสตร์ ที่นำโดยอดีตประธานาธิบดีของประเทศมหาอำนาจอันดับ ๑ ที่สร้างการเคลื่อนไหวนี้ขึ้นเพื่ออำนาจทางการเมืองของตน ที่ผมแปลกใจก็คือ เมื่อพฤติกรรมนี้พิสูจน์แล้วว่า ก่อหายนะให้แก่ประเทศตนเองและแก่โลก ก็ยังมีคนงมงายอยู่กับความเชื่อผิดๆ นี้
มนุษย์เรามีทั้งปัญญา และความงมงาย ไม่ว่าในสังคมใด
วิจารณ์ พานิช
๔ ก.พ. ๖๔ ปรับปรุง ๒๖ ก.พ. ๖๔ ที่ห้องรับรองลูกค้า บริษัทโตโยต้าเอกนิมิต เมืองทองธานี
ไม่มีความเห็น