หัวข้อบันทึกนี้ได้จากปิ๊งแว้บในระหว่างร่วมประชุมสภา มช. เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๓ วาระรายงานผลการวิจัยเรื่องมหาวิทยาลัย ๔.๐ ที่มีการทำกระบวนการคาดการณ์อนาคต (foresight) ลงท้ายด้วยการวาดภาพอนาคต ๔ กลุ่ม ด้วยเส้นแบ่ง ๒ แกน แกนตั้งเป็น mode of interaction แกนนอน mode of learning ได้ ๔ พื้นที่อนาคต เพื่อเอามาคิดต่อว่า driver แบบไหนนำไปสู่ฉากทัศน์ที่เราต้องการ driver แบบไหนนำไปสู่ฉากทัศน์ที่เราไม่ต้องการ
วันที่ ๒๑ กันยายน ในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนหน่วยบริหารจัดการทุนเฉพาะด้านฯ (ซึ่งก็คือ บพค., บพข., และ บพท.) มีวาระเรื่อง ระบบเพื่อการประเมินศักยภาพทางวิชาการของหน่วยงานวิจัย เตรียมเข้าสู่ที่ประชุม (แต่ต้องยกไปคราวหน้า) ผมจึงเสนอแนะวิธีคิดว่า เกณฑ์ประเมิน เป็นหัวใจของการประเมิน และหากไม่ระวังเราจะใช้ เกณฑ์แห่งอดีต ซึ่งจะทำบทบาทปิดกั้นการเคลื่อนสู่อนาคตที่แตกต่าง
ในการพัฒนาประเทศ และองค์กร (รวมทั้งตัวเราด้วย) ต้องสร้าง เกณฑ์แห่งอนาคต เอาไว้เป็นพลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง ไปสู่อนาคตที่ไม่เหมือนอดีต แต่คาดเดายาก มีความไม่แน่นอนสูง คือต้องคิดไปในอนาคต หาเครื่องมือช่วย และผลักดันให้เราคิดจากกอนาคตกลับมาหาปัจจุบัน ไม่ใช่คิดจากปัจจุบันไปสู่อนาคต
วิจารณ์ พานิช
๒๑ ก.ย. ๖๓
ไม่มีความเห็น