อบต.ตะบิ้ง ปัตตานีผุดศูนย์พักพิงชั่วคราวกักตัวกลุ่มเสี่ยง



หลังจากพบผู้ติดเชื้อเดินทางจากร่วมงานศาสนาที่อินโดฯ อบต.ตะบิ้ง ปัตตานี ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมงัดมาตรการคุมเข้ม ผนึกกำลัง 4 องค์กรหลักและองค์กรศาสนาในพื้นที่สร้างความเข้าใจชาวบ้าน ร่วมแรงกันทำความสะอาดมัสยิด ด้านอสม.เฝ้าระวังปฏิบัติการเข้มแข็งเคาะถึงประตูบ้าน

นายการียา ดีเยาะ ผู้อำนวยการกองการศึกษา อบต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ขณะนี้ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อใช้เป็นพื้นที่กักตัวกลุ่มเสี่ยง โดยก่อนหน้านี้มีผู้ติดเชื้อ 1 คนจากการเดินทางไปงานศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย และต่อเครื่องที่ประเทศสิงคโปร์ ก่อนที่จะกลับมาในพื้นที่ ทั้งนี้มีการบริหารการทำงานในพื้นที่ 4 หน่วยงานหลัก รวมทั้งองค์กรศาสนา นั้นคือโต๊ะอิหม่ามในพื้นที่

สำหรับ อบต.ตะบิ้ง เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และหลังจากมีการแพร่ระบาดในพื้นที่แล้ว นายการียาได้กล่าวถึงมาตรการต่างๆ ในพื้นที่ว่า ได้ทำงานร่วมกัน โดย รพ.สต.จะทำหน้าที่ในการดูแลที่ศูนย์กักตัว มีชุด อสม.อยู่เวรประจำวันดูแลทุกวัน และเจ้าหน้าที่ทหารเป็นกำลังหลักแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ในการเฝ้าเวรยามศูนย์กักตัวโดยรอบทั้งกลางวันและกลางคืน ขณะที่ภาคประชาชน หรือชาวบ้านในพื้นที่ในการบริจาคข้าวปลาอาหารสนับสนุนภารกิจนี้ นอกเหนือจาก อบต.ที่รับผิดชอบเรื่องการกินอยู่ อาหาร และการดูแลทั้งหมด ทั้งนี้ถือว่าศูนย์ใหญ่ปฏิบัติการโควิด อยู่ที่ อบต.เป็นหลัก โดยจะมีการประชุมประชาสัมพันธ์สรุปงานร่วมกันตามหมายกำหนดการนัดหมายแต่ละครั้ง

“ขณะที่การดูแลผู้ที่กักตัวอยู่ที่บ้านก็มีบางส่วน เนื่องจากไม่ยอมมาอยู่ที่ศูนย์พักพิง เพราะบางคนมีภาระมากจึงไม่มา ทางนายกฯอบต.ได้ส่ง อาหาร และอุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆ ที่จำเป็น เช่น หน้ากากอนามัย เจล ผ่านอสม.และ รพ.สต. เข้าไปเยี่ยมดูแล รับผิดชอบโดยตรงถึงบ้านของผู้ที่กักตัวอยู่ 14 วัน” นายการียา ระบุ

นายการียา ระบุด้วยว่า นอกจากนี้ในกระบวนการจัดหาอุปกรณ์ความปลอดภัย ยังเป็นภารกิจหลักของ อบต. ทั้งการรณรงค์ ชี้แจงทำความเข้าใจ ให้ความรู้ สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ตลอดจนบริการแจกหน้ากากอนามัย และขอความร่วมมือให้ประชาชนไปรายงานตัวกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน หากเดินทางกลับมาในพื้นที่

“เราได้ประสานงานไปยังโต๊ะอิหม่ามและมัสยิดต่างๆ ในการเฝ้าระวัง โดยส่วนใหญ่จะปิดมัสยิดแล้วตามคำสั่งของจุฬาราชมนตรี งดการละหมาดวันศุกร์ และให้มัสยิดเป็นพื้นที่กวดขันพิเศษ ประชาชนต้องช่วยกันทำความสะอาด มีการตั้งเจลล้างมือ และทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยก่อนเข้าไปในมัสยิด” นายการียา ระบุและว่า ขณะนี้ในพื้นที่ประชาชนตื่นตัวในการเฝ้าระวังโควิด -19 มาก ขณะเดียวกัน อสม.ก็เดินไปเคาะถึงประตูบ้าน เพื่อพูดคุย รณรงค์ ดูแล และให้ความรู้ รวมทั้งการช่วยดูแลสุขภาพจิตของทั้งผู้ที่กักตัวอยู่ในบ้านและผู้สูงอายุด้วย

หมายเลขบันทึก: 683974เขียนเมื่อ 14 ตุลาคม 2020 20:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม 2020 20:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท