ปัญหาสำคัญของการทดลองเผาครั้งที่ ๔ คือ ความแตกต่างของอุณหภูมิที่จุดต่าง ๆ ในเตาอบ ทำให้ได้ถ่านที่คุณภาพแตกต่างกันมาก และไม้บางส่วนด้านล่างยังเป็นส้นถ่าน ก่อนการทดลองครั้งนี้จึงปรับให้ตะแกรงเหล็กแบบกระดูกงูวางสูงจากพื้นเตาขึ้นมาประมาณ ๕ เซนติเมตร และติดตั้งหัววัดอุณหภูมิเพิ่มอีก ๒ จุด รวมเป็น ๔ จุด ดังภาพ
การทดลองเผาครั้งที่ ๕ นี้ อ.กิตติ ได้เข้ามาสอนความรู้และวิธีการหลายอย่าง และได้แนะนำเอกสารภูมิปัญญาการเผาถ่านของชาวญี่ปุ่นดี ๆ และวาดรูปอธิบาย ทำให้เข้าใจได้ง่ายมาก ต่อไปนี้เป็นองค์ความรู้และประสบการณ์ของ "เฒ่าเผาถ่าน พิทักษ์โลก" ครับ
น่าเสียดายมาก ที่อุปกรณ์บันทึกข้อมูลเกิดผิดพลาดนิดหน่อย (ผมไปขยับโดนปลั๊ก ทำให้เครื่องถูกตัดไฟ ไม่บันทึกข้อมูลตลอดการเผา) จึงไม่มีกราฟการเปลี่ยนแปลงมาแสดงให้วิเคราะห์กัน อย่างไรก็ดี มีข้อมูลบางส่วนที่หน้าสนใจดังนี้ครับ
คุณภาพถ่าน
ถ่านที่ได้จากการทดลองเผาครั้งที่ ๕ ไม่มีความแตกต่างกันมากนักระหว่างถ่านชั้นบน ชั้นกลาง และชั้นล่าง ความต้านทานของถ่านอยู่ในช่วง ต่ำกว่า ๑๐๐ โอห์ม (ใช้ปลายโอห์มมิเตอร์จิกลงไปในเนื้อถ่าน)
กระบวนการเผาถ่าน ๗ ขั้นตอน
อ.กิตติ บอกชัดเจนถึง ๗ ขั้นตอนพื้นฐานของการเผาถ่าน เป็นภาพรวมของกระบวนการเปลี่ยนไม้ให้กลายเป็นถ่านคุณภาพ ดังนี้
ขั้นที่ ๑ คัดแยกไม้
แยกไม้เล็กออกจากไม้ใหญ่ แยกไม้ใหญ่ออกจากไม้เล็ก ไม้ที่ขนาดต่างกัน พื้นผิวสัมผัสต่ออุณหภูมิในเตาแตกต่างกัน ทำให้การสะสมความร้อนในไม้ต่างกัน ควรผ่าไม้ให้มีขนาดใกล้เคียงกัน
คัดแยกไม้ดิบออกจากไม้แห้ง ปริมาณน้ำในไม้ทำให้ไม้แห้งและไม้เปียกแตกต่างกันมาก การคายน้ำจากเนื้อไม้ (๑๐๐ - ๑๑๐ องศาเซลเซียส) จะทำให้อุณหภูมิของไม้ลดลง
คัดแยกชนิดของไม้ ไม้แต่ละชนิดสะสมคาร์บอนไว้ในปริมาณที่ต่างกัน ในรูปแบบที่ต่างกัน ถ่านที่ดีมีคุณภาพจะได้จากไม้เนื้อแข็ง โตช้า หรือได้จากไม้ที่เป็นเส้นใยเช่น ไผ่ ซึ่งสะสมคาร์บอนไว้มาก มีลิกนินสูง
ขั้นที่ ๒ การเรียงไม้ในเตา
การเรียงไม้ในเตาจะมีผลต่อการไหลเวียนของลมร้อนในเตา ห้ามเรียงไม้ปิดกั้นการทางออกของควัน จะต้องเรียงไม้ให้การไหลเวียนได้สะดวก แต่ต้องเรียงให้ไม้ชิดแน่นกันมากที่สุด เพื่อให้ลมร้อนกระจายไปทั่วเตาอย่างสม่ำเสมอ
ขั้นที่ ๓ การจุดไฟ้ในห้องให้ความร้อน
ขณะที่จุดเตาต้องเปิดห้องใส่ฟืนไว้ตลอดเวลา และต้องไม่มีอะไรกีดกวางช่องอากาศเด็ดขาด
ขั้นที่ ๔ อบไล่ความชื้น
อบไล่ความชื้นของไม้ โดยปกติจะใช้เวลา ๔-๖ ชั่วโมง อุณหภูมิปากปล่องไม่เกิน ๓๔ องศาเซลเซียส
ขั้นตอนที่ ๕ กระตุ้นความร้อน
เร่งกระตุ้นการเพิ่มความร้อน เป็นรอยต่ระหว่างการอบและการเผา อุณหภูมิของควันจะเพิ่มจาก ๓๔ องศาเซลเซียส ขึ้นไปถึง ๗๐ องศาเซลเซียส และเตาจะติดอย่างเต็มที่ ๆ ๘๕ องศาเซลเซียส
ขั้นตอนที่ ๖ เริ่มการเผาถ่านและเก็บน้ำส้มควันไม้
เมื่อเตาจุดติดแล้ว ไม่จำเป็นต้องเติมฟืนในห้องให้ความร้อนอีก และเมื่ออุณหภูมิควันเป็น ๘๕ องศาเซลเซียส ให้เอาฟืนและถ่านที่ห้องให้ความร้อนออกทั้งหมด แล้วจึงเริ่มกระบวนการเก็บน้ำส้มควันไม้จนกระทั่งอุณหภูมิควันไปถึง ๑๕๐ องศาเซลเซียส จึงหยุด
ขั้นตอนที่ ๗ เผาถ่านคุณภาพตามต้องการ (ผมตั้งชื่อขั้นตอนนี้เองครับ อ.กิตติ บอกว่า ขั้นที่ ๗ คือเผาต่อไปให้ได้ถ่านตามต้องการ)
เมื่อหยุดเก็บน้ำส้มควันไม้ มีทางเลือกหลายทาง สำหรับผู้เผาถ่าน ขึ้นอยู่กับว่า ต้องการถ่านคุณภาพแบบใด ที่ผมจับประเด็นเห็นแนวทางให้เลือกดังนี้
.....
อ.กิตติ บอกว่า อย่าเพิ่งสรุปตอนนี้ เผาถ่านไปอีก ๖-๑๐ ปี ค่อยสรุปอีกที ...ดังนั้น ท่านก็อย่าเชื่อผมนะครับ ผมเพียงจับประเด็นที่ตนได้เรียนรู้มาแลกเปลี่ยนเท่านั้นเอง .... ผิดถูกอย่างไร แจ้งให้ผมแก้ไขได้ครับ
บันทึกต่อไป มาดูผลการเผาครั้งที่ ๖ ครับ
ไม่มีความเห็น