เท่าที่รับรู้มาเขาบอกว่า “..ความคิดเปลี่ยน..ชีวิตก็เปลี่ยน” เพิ่งจะเห็นว่ามันเป็นความจริงก็ในช่วงเวลานี้เอง..
หลายคนเป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อคิดว่าจะต้องอยู่บ้านมากขึ้น เริ่มจะอึดอัดในช่วงแรก อดทนในท่ามกลาง..ตอนนี้คงเริ่มจะคุ้นชินแล้ว..และพร้อมที่จะอยู่บ้าน
บ้าน..สุ่มเสี่ยงกับโควิดน้อยที่สุด เพียงแต่ว่าบ้านของคนบางคน อาจจะไม่ก่อให้เกิดรายได้มากนัก แต่เชื่อเถอะ..มีส่วนร่วมในการหยุดเชื้อ เพื่อชาติ..อย่างแน่นอน.
ปัญหาถาโถมหนักอึ้ง เมื่อไม่สะดวกในเข้าสังคม..สติ..ต้องมีและวิธีแก้ปัญหาก็ต้องหลากหลายกันไปตามบริบท เพื่อความอยู่รอดและปลอดภัย
ถ้าแก้ปัญหาได้ ก็สามารถใช้ชีวิตอย่าง “พอเพียง”และ “พอดี” นี่คือ “ปัญญา”ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ในยามที่ชีวิตมีวิกฤติอยู่รอบกาย
ไม่เคยรักความสะอาดได้มากมายเข่นนี้ คงจดจำไปชั่วชีวิต และหมั่นล้างมือแบบที่ไม่กลัวมือเปื่อยไปอีกนานเท่านาน รักและผูกพัน..ตลอดจนรู้สึกจริงใจกับหน้ากากอนามัยเป็นที่สุด..แบบว่าขาดเธอแล้วฉันจะรู้สึก..
พูดจาน้อยลง..ไม่อยากพบปะผู้คน อยู่ง่ายกินง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเรียบง่ายก็ไม่ต้องฟุ่มเฟือย เสริมสวยเสริมหล่อก็ไม่จำเป็น..โอกาสดีๆแบบนี้หาได้ที่ไหน?
รถยนต์ก็แทบไม่ต้องใช้ อุบัติภัยก็ไม่ต้องพูดถึง..มีเวลามากมายที่จะวางแผนการท่องเที่ยว และใช้จ่ายให้เต็มที่ หลังโควิด ๑๙ สลายตัว คิดไว้เลยว่าจะไปที่ไหนก่อน...
ถึงวันนั้น..อาจต้องรีบเข้าวัดทำบุญสุนทาน ที่ผ่านวันคืนอันสุดแสนจะกดดัน รอดจากโรคร้ายได้ก็บุญแล้ว..มีโอกาสก็ต้องคิดใน “มุมบวก”ไว้บ้าง..ตราบที่ลมหายใจยังยู่..
คิดถึงใครบ้างในเวลานี้..ทำความดีกับใครหรือยัง อยากบอกรักใครไหม มันอาจจะไม่โรแมนติก แต่มันคือกำลังใจ ที่จะถ่ายทอดความรู้สึกจากใจ..ตรงไปตรงมา
ถ้าไม่รู้ว่าจะบอกรักใคร..ให้รักตัวเอง..เขาบอกว่าการรักตัวเอง เป็นพื้นฐานของ “วินัย”ในตนเอง..โอกาสเปิดแล้ว ที่จะฝึกวินัยได้มากขึ้น ในภาวะที่วิกฤติเช่นนี้
ถ้าอยากจะรักคนอื่นบ้าง..ขอแนะนำให้ส่งความรักให้หมอและพยาบาล..ทหารเอกของชาติไทย..ที่สร้างความประทับใจ..ที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจของคนไทยทุกคน..
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด ไม่เคยดูข่าวอะไรได้นานเท่าข่าวโควิด เริ่มลด ละ เลิก เรื่องราวไร้สาระได้อย่างสิ้นเชิง..เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ชีวิตได้มากขึ้น
หลายคนเชื่อว่า..โควิด ๑๙ ..จะอยู่ยงคงกระพันไปอีกหลายเดือน..ดังนั้นก็ต้องมีงานประจำทำที่บ้าน..งานอดิเรก..แนะนำให้อ่านหนังสือ..ค้นหาหนังสือเล่มโปรดสักเล่ม
เราจะจดจำไปชั่วลูกชั่วหลาน ว่าอ่านหนังสือหรือรักการอ่าน ในช่วงปีที่มี “โควิด”อาจเขียนเป็นบันทึก “เรื่องเล่าเร้าพลัง”สร้างโอกาสให้เกิดแรงบันดาลใจ..เป็นพลังขับไล่โควิด
ปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึกก็คงได้หลายต้น เริ่มต้นเติบโตตั้งแต่เราคิดปลูกวันแรก เมื่อวิกฤตจางหาย..บ้าน..จะได้ร่มเงาและได้อากาศที่บริสุทธิ์จากต้นไม้ข้างบ้าน..
ต้นไม้อะไรก็ได้..แต่ถ้าปลูกได้หลายต้น..ก็จะได้ต้นไม้ร่วมรุ่นเป็นที่ระลึก..รุ่นโควิด๑๙..และนี่คือ ส่วนหนึ่งของกิจกรรมแห่งการทำความดี ที่คู่ควรจะทำในโอกาสนี้ที่สุด
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒ เมษายน ๒๕๖๓
ไม่มีความเห็น