อปท.กับการแก้ไขปัญหาโรคCOVID-19ตอน2


อปท.กับการแก้ไขปัญหาโรคCOVID-19ตอน2

14 มีนาคม 2563

: ทีมหญ้าแห้งปากคอก [1]  


ฝุ่นพิษ PM 2.5 ยังไม่ทันหาย ไวรัสตัวร้ายก็ตามมาติด ๆ วิกฤติปัญหาโรคติดเชื้อ “ไวรัสโคโรนา 2019” หรือ “ไวรัสโควิด-19" (COVID-19) เป็นปัญหาระดับชาติที่สำคัญของรัฐบาลหากไม่พิจารณาในประเด็นการเมืองถือว่าเป็นการพิสูจน์ความสามารถในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล เพราะสถานการณ์การระบาดอาจพัฒนาไปสู่ระยะ(เฟส)ที่ 3 [2] ซึ่งเป็นระยะสูงสุดที่มีการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกิดการแพร่กระจายต่อในชุมชนต่างๆ เป็นวงกว้าง เช่นบางประเทศได้เข้าสู่สถานการณ์ระยะที่ 3 (Andemic period) แล้ว นับว่าเป็นวิกฤติสำคัญยิ่ง ดังที่เกิดในเกาหลีใต้ อิตาลี ผู้ทรงคุณวุฒิให้ความเห็นว่าในระยะการระบาดเต็มตัว ที่เชื้อโรคจะระบาดไปเรื่อย ๆ แล้วก็จะหยุดเอง เป็นไปได้กว่าการระบาดจะหยุดอาจทำให้มีคนไทยสามารถติดเชื้อได้ถึงครึ่งประเทศ สหราชอาณาจักรประเมินกรณีเลวร้ายสุดอาจมีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ 1 แสนคน ด้านอิตาลีมีผู้เสียชีวิตจำนวน 631 ราย [3] ประกาศปิดประเทศ และเริ่มกักกันคน 16 ล้านคน มีคนไทยติดอยู่ 7 พันคน การระบาดของโรคได้เปลี่ยนโซนไปยุโรป [4] แม้ว่า ประสิทธิภาพระบบสาธารณสุขของไทย [5] ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีในลำดับที่ 6 ของโลก ที่ 1 ของเอเชีย แต่ก็ไม่ควรชะล่าใจ

โดยเฉพาะการแพร่ระบาดโรคไวรัส “โควิด-19” ปัจจุบันยังอยู่ในระยะที่ 2 (Pandemic alert period) แพร่ระบาดในวงจำกัด (limited local transmission) โอกาสที่สถานการณ์จะเข้าสู่ “ระยะที่ 3” ได้ในอีกไม่นาน ซึ่งจะเป็นช่วงการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจะพบว่ามีการติดเชื้อระหว่างคนในประเทศด้วยกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ที่ไม่เคยมีประวัติเดินทางไปยังต่างประเทศ) เช่นในกรณีที่เกิดขึ้นที่เกาหลีใต้

การท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบรัฐบาลเตรียมพร้อม

  เพราะนักท่องเที่ยวจีนหายหมด ประเมินว่า GDP ไทยที่โต 2.7% เหลือเพียง 0.5% [6] รัฐบาลเลิกวีซ่าฟรี อิตาลี เกาหลีใต้ ฮ่องกง จนกว่าไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลาย ยกเลิก VOA (Visa on arrival) 18 ประเทศ [7]เตรียมออกคำสั่งตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 [8] บูรณาการข้อมูลและการปฏิบัติการ

เมื่อ 3 มีนาคม 2563 รองอธิบดีกรมควบคุมโรค [9] กล่าวถึงมาตรการรับมือการระบาด “ระยะที่ 3” ขอให้บุคลากรทางการแพทย์มีความตื่นตัว ในการรับมือกับการแพร่ระบาดรวมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมกันให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับ การล้างมือ และ การสวมใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันและจำกัดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19

เมื่อ 11 มีนาคม 2563 ครม. สั่งยกเลิกศูนย์กักกัน [10] (14 วัน) กว่า 200 แห่งทั่วประเทศ ส่งกลับภูมิลำเนาให้ท้องถิ่นกักตัว (Local quarantine) [11]เนื่องจากเกรงว่า การให้กักตัวรวมกันจะยิ่งทำให้การแพร่กระจายของเชื้อเป็นไปได้ง่ายขึ้น มีกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ระหว่างการกักกันตัวที่ศูนย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 3-7 มีนาคม.2563 จำนวน 1,882 คน และหลังวันที่ 7 มีนาคม.2563 อีก 98 คน   

ไทยมียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 59 ราย กลับบ้านแล้ว 34 ราย ยังคงอยู่ รพ. 24 ราย เสียชีวิต 1 ราย ใน ยอดเฝ้าระวังกว่า 4,848 ราย [12]

ต่อข้อสังเกตห่วงใยจากความตอนที่แล้ว

1. นโยบายสำคัญโรคไวรัสโควิด-19 จากรัฐบาลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ อปท.ได้แก่ (1.1) อปท. ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดำเนินการอบรมจัดทำหน้ากากอนามัยผ้าแก่ประชาชน [13] (1.2) รัฐบาลเลิกศูนย์กักกันฯ และส่งกลับภูมิลำเนาให้ท้องถิ่นดูแล งานนี้เข้าท้องถิ่นเต็ม ๆ เป็นภารกิจเฝ้าระวังโดย อสม. หรือ “อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน” [14] เช่น  การสำรวจข้อมูลก่อนกลับ ใครไปทำงานที่ไหน เอาข้อมูลส่งอำเภอ แล้วอำเภอส่งข้อมูลขาเข้าจาก ตม. มาให้ จากนั้นทาง อปท.กับ รพสต. ไปให้คำแนะนำญาติในการปฏิบัติตัว เมื่อเจ้าตัวมาถึงบ้าน ให้กักให้อยู่ในบ้าน อสม.ก็ต้องไปสำรวจด้วย รวมกรณีที่กระทรวงคมนาคมขอให้ อปท.ช่วยเฝ้าระวังตรวจสอบกลุ่มแรงงานผิดกฎหมายจากเกาหลี (ผีน้อย) ที่หนีการกักตัวมาแต่แรกด้วยด้วย (1.3) การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (C0VID-19) ในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามหนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ด่วนที่สุด มท 0816.2/ว 788 ลงวันที่ 11 มีนาคม 2563 [15] (1.4) เมื่อ 10 มีนาคม 2563  มติ ครม.เห็นชอบมาตรการเร่งรัดให้ทุกส่วนราชการจัดประชุมและสัมมนาภายในประเทศ 3 เดือน (เมษายน ถึง มิถุนายน 2563) เพื่อพยุงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว [16] (1.5) ในส่วนของการสอบคัดเลือกสายงานผู้บริหาร [17] ม.มหิดลในฐานะคณะทำงานโครงการจ้างดำเนินการสรรหาข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ประกาศด่วนลงวันที่ 11 มีนาคม 2563 เรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ในการสอบภาคความเหมาะสมกับตำแหน่งฯ ระหว่างวันที่ 14-17 มีนาคม 2563

2. นโยบายสำคัญโรคไวรัสโควิด-19 จากรัฐบาลที่เป็นหน้าที่ของ อปท.ได้แก่ เมื่อ 11 มีนาคม 2563 ครม.เห็นชอบมาตรการดูแล-เยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทย [18] ทั้งทางตรงทางอ้อม ระยะที่ 1 รวม 3 มาตรการ ช่วยเหลือทั้งภาคประชาชน ผู้ประกอบการ ลูกจ้าง ทั้งด้านการเงิน ภาษี และอื่นๆ แต่ไม่มีแจกเงิน

3. ตามหนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ด่วนที่สุด มท 0819.2/ว732 ลงวันที่ 6 มีนาคม 2563 เรื่อง แนวทางปฏิบัติการดำเนินการโครงการพลังคนไทยร่วมใจป้องกันไวรัสโคโรนา (COVID-19) ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 [19] ตามยอดงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรอบรมชาวบ้าน (ครู ก.) ทุกหมู่บ้านผลิตหน้ากากอนามัยผ้า วงเงินรวม​ 225 ล้านบาท [20] เป็นราคากลางหรือเป็นเพียงยอดจัดสรรคิดเป็นรายหัว โดยมีเป้าผลิตหน้ากากอนามัย 50 ล้านชิ้น เพราะ หากคิดเป็นค่าวัสดุต่อหัว จะทำให้ไม่สามารถดำเนินการผลิตหน้ากากอนามัยผ้าได้ในอัตราชิ้นละ 4.50 บาท ด้วยต้นทุนที่จำกัดมาก มีผู้รู้ได้ยกตัวอย่าง ดูที่ราคาวัสดุต่อชิ้นที่ทำหน้ากากอย่างประหยัด ผ้าสาลูเมตรละ 35-40 บาทยางยืด และด้ายเมตรละ 5 บาท 1 อันใช้ผ้า 3 ชิ้นและยางยืด, ด้าย = 7 บาท (หากผลิต 20 ชิ้นต้องใช้ผ้า 3 เมตรยางยืด 5 เมตร = 35+35+35+25 (คิดราคาต่ำสุดผ้าสาลูเมตรละ 35-40 บาท) = (130-145)/20 = 6.50-7.25 บาท ยังไม่รวมค่าแรงหรือค่าอย่างอื่นหากมีการจ้างเหมา ปัจจุบันผ้าสาลูขาดตลาดและราคาสูง

หรือ ลองคิดต้นทุนอีกแบบประหยัดสุด ๆ ทางร้านช่วยคำนวณให้ ซื้อผ้าสาลู หลาละ 33 บาท ผ้าสำสี หลาละ 50 บาท 1 หลา ตัดได้ 24 ชิ้น คิดต้นทุนค่าวัสดุหลัก = 33+50 = 83/24 = 3.45 บาท ยังไม่รวมค่าวัสดุและค่าอย่างอื่นซึ่งมีแน่นอน การจัดสรรให้เฉลี่ยต่อชิ้นราคา 4.50 บาท และเมื่ออบรมเสร็จชาวบ้านกลับไปบ้าน​ ก็ไม่มีจักรเย็บผ้า​ ฉะนั้น ไม่ว่าจะคิดจากราคาที่จัดสรรให้แบบใดก็ตามงบจึงไม่พอ แถมระบุว่า หากงบประมาณเหลือจ่ายให้ส่งคืนด้วย ที่สำคัญคือราคาสินค้าควบคุมนี้อยู่ที่ชิ้นละ 2.50 บาท [21] ทำให้การคิดต้นทุนสับสน

4. ปัญหาที่ อปท.อาจเจอในการฝึกอบรมฯ เช่น (1) หน้ากากไม่เพียงพอ เพราะงบจัดสรรทำให้ผลิตหน้ากากอนามัยได้น้อย (2) หน้ากาก​ ไม่มีคุณภาพ แม้ มท.จะรับรองว่าเป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข (3) กรณีมีผู้ร้องเรียนว่าการอบรมใช้งบประมาณไม่ถูกต้อง สตง. ปปช. เข้าตรวจสอบพบการกระทำผิดจริง อปท.ต้องรับผิดชอบและตรวจสอบให้ดี

5. สิ่งสำคัญที่ รัฐบาลและ อปท.ควรดำเนินการคือ (1) ช่วยแก้ปัญหาหน้ากากให้แก่บุคคลากรด่านหน้าคือ แพทย์ พยาบาล ฯ ให้เพียงพอทั่วประเทศ กำลังการผลิตวันละ 1.2 ล้านชิ้น [22] ต่อประชากร 66 ล้านคน เห็นได้ชัดเจนว่าการผลิตไม่เพียงพอ หรือมีราคาสูงเพราะความต้องการมีมากกว่า จึงเป็นสินค้าที่ต้องควบคุมราคา ห้ามกักตุน ฯลฯ (2) จัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่ง พ่นฆ่าเชื้อทั้งเมืองเป็นสิ่งจำเป็น (3) ช่วงนี้รัฐบาลควรหยุดรับนักท่องเที่ยวประเทศเพราะ ควบคุมยาก อีกทั้ง มท.ต้นคิดมีองค์ความรู้ในเรื่องนี้เพียงใดกับภารกิจเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเช่นนี้ จึงเสี่ยงไม่คุ้มค่าต่อต้นทุนทางการแพทย์ต่อหัว [23] ในการดูแลรักษาหากเกิดโรค (4) การเตรียมสถานที่กักตัวในผู้ที่ติดเชื้อ [24] หรือกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ สรุปว่ารัฐต้องมีวินัยที่มาก (5) ใช้มาตรการบทลงโทษแก่ผู้ฝ่าฝืน อย่างเคร่งครัดจริงจัง (6) รัฐต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์ชี้แจงในข้อมูลต่าง ๆ ที่ถูกต้องแก่ประชาชนทั่วไป

6. ลองดูเรื่องผลดีที่จะได้คือ (1) ลดขยะพิษจากหน้ากากที่ใช้แล้ว (2) ลดการขาดแคลนสินค้าและมีราคาสูง (3) เป็นหน้ากากอนามัยทางเลือก หากชาวบ้านทำเป็นแล้วก็จะสามารถผลิตไว้ใช้เองได้

7. ผลเสียหรือจุดอ่อนข้อด้อย (1) สินค้าหน้ากากอนามัยต้องอย่างดีมีคุณภาพ (2) หน้ากากอนามัยชนิดผ้าไม่สามารถกันสารคัดหลั่งหรือละออง ไอ จามได้ ประสิทธิภาพอยู่ที่ 54-59% [25] เพราะไม่มีแผ่นกรอง หน้ากากที่กันการติดเชื้อได้คือ ชนิด N95 แต่อย่างไรก็ตามมาตรการล้างมือบ่อย ๆ จะดีกว่าการใส่หน้ากากมาก ฉะนั้นต้องมีเจลล้างมือ [26] และ สเปรย์ด้วย

8. ในภาวะวิกฤติเช่นนี้ควรงดการโปรโมท โชว์ผลงาน หรือลดการอีเวนต์ลงให้หมด โดยเฉพาะการอบรมในครั้งนี้ เพื่อประหยัดงบประมาณ และ ไม่ก่อประโยชน์อันใดแก่ภาพพจน์ ที่สำคัญ อปท. ไม่ชอบกิจกรรมนี้เป็นอย่างยิ่ง

9. ที่สำคัญมากชาวบ้านเขากลัวความอดอยาก เพราะเศรษฐกิจไม่ดี การไปกระตุ้นเตือนอันตราของภัยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต้องมีมาตรการควบคู่ไปกับเรื่องปากเรื่องท้องด้วย เพราะ ชาวบ้านไม่กลัวตายเพราะโรคแต่กลัวไม่มีจะกินมากกว่า

10. รัฐโดยกรมการค้าภายในต้องมีความจริงใจ ใช้มาตรการทางกฎหมายให้เหมาะสมถูกต้อง ไม่ปล่อยปละละเลยให้มีสินค้าราคาแพง สินค้าไม่มีคุณภาพ หรือมีการกักตุนสินค้า การปล่อยให้อุปสงค์อุปทานกลไกตลาดจัดการกันเองในภาวะวิกฤติต้องให้คนไทยก่อน อย่าให้ผู้ผลิตแอบลักลอบผลิตขายส่งออก หรือเอาเปรียบรัฐ การบังคับให้ผู้ผลิตส่งให้แต่กรมการค้าภายในเพื่ออะไร [27] หน้ากากไทยไม่มี แต่มีหน้ากากจากต่างประเทศ (เวียดนาม) ที่ราคาแพงกว่า แล้วสินค้าที่ผลิตในประเทศหายไปไหน หาซื้อยากและราคาแพงถึง 10 เท่า

11. ภารกิจหลายอย่างมีการใช้งบบีบจาก อปท. เช่นเงินสะสมที่มีเหลือน้อยลง เพราะใช้ไปก่อนนั้นมากแล้ว นอกจากนี้ อปท. ต้องสำรองเงินสะสมไว้เป็นเงินคงคลังเอาไว้ใช้ในยามจำเป็นสาธารณภัยฉุกเฉิน และ อปท.หลายแห่งอาจจำเป็นต้องใช้เงินสะสมเพื่อการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นที่คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปี 2563 นี้

12. ผลกระทบจากวิกฤติโรคไวรัสโควิด-19 ครั้งเกินคาดหมายมาก ประเมินความเสียหายไม่ได้ [28] เพราะเศรษฐกิจพลอยถูกกระทบไปหมด การท่องเที่ยวหายไป สินค้าตลาด การจับจ่ายใช้สอยไม่มีกำลังซื้อฯ ลามมาถึงเด็กนักเรียนก็ยังโดน รร. ประถม เลื่อนกำหนดวันสอบปลายภาคให้เร็วขึ้น [29] วัตถุประสงค์คือ ให้เด็กอยู่บ้านยาว หนีภัยจากโรคไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นเป้าหมายเชิงสาธารณะสำคัญกว่าผลการสอบของเด็กที่อาจมีผลสอบไม่ดีนักเนื่องจากครูรีบสอนรีบสอบ ฝ่ายการสาธารณสุขได้แสดงผลงานศักยภาพความสำคัญในคราวนี้มากกว่าฝ่ายอื่น ทั้งฝ่ายเศรษฐกิจสังคม การเมือง การศึกษา ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาทั้งหลายให้ อปท.ลืมไว้ก่อนสัก 2-3 เดือน เพราะไม่น่าจะมีผลเสียหายใด

      หากวิกฤติโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่หมด และเข้าสู่ระยะที่ 3 ที่มีการแพร่เชื้ออย่างเต็มรูปแบบและต่อเนื่อง คงเป็นทุกข์ของคนไทย และของคนทั้งโลก เพราะเกิดเหตุการณ์รุนแรงนอกจากจีน คือ เกาหลีใต้ อิตาลี อิหร่าน [30] ขอให้คนไทยทุกคนตั้งสติให้ดีเข้มแข็งและมีวินัย

[1]ทีมงานหญ้าแห้งปากคอก, หนังสือพิมพ์สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ปีที่ 67 ฉบับที่ 26 วันเสาร์ที่ 14 - วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม 2563, บทความพิเศษ หน้า 9, อปท.กับการแก้ไขปัญหาโรค COVID-19, สยามรัฐออนไลน์,  14 มีนาคม 2563, https://siamrath.co.th/n/138845

[2]“ระยะ 3” ของการแพร่ระบาดไวรัส “โควิด-19” เป็นอย่างไร, ประชาชาติ, 3 มีนาคม 2563, https://www.prachachat.net/general/news-427442& ประกาศไวรัส “โควิด-19” เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14, 24 กุมภาพันธ์ 2563, https://www.thebangkokinsight.com/296748/    

[3]ข้อมูล prachachat.net เมื่อวันพุธที่ 11 มีนาคม 2563

[4]สธ.เผย 'โควิด-19' เปลี่ยนโซนระบาด, กรุงเทพธุรกิจ, 1 มีนาคม 2563, https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/870025

[5]ไทยติดอันดับ 6 ประเทศมั่นคงด้านสุขภาพ เป็นประเทศกำลังพัฒนาหนึ่งเดียวใน Top 10, hfocus, 15 พฤศจิกายน 2562,

https://www.hfocus.org/content/2019/11/18042

มหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ เสนอผลวิจัยระดับความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ (Health Security) ของทุกประเทศทั่วโลก พบ ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ (Health security) เป็นอันดับที่ 6 จากทั้งหมด 195 ประเทศ และเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศเดียวที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับ ท็อปเท็นของโลก อันดับที่ 1 ในเอเชีย

ข้อมูล ดัชนีชี้วัดความมั่นคงทางสาธารณสุขของทั่วโลก 2019 อยู่อันดับที่ 6 โดยคะแนนด้านที่ไทยได้คะแนนสูงสุด ก็คือ “ความสามารถในการรับมือโรคระบาด” ส่วนอันดับ 1 คือ USA

[6]พิษ ‘โควิด-19’ ทำท่องเที่ยวสูญ 4 แสนล. ‘ศูนย์วิจัยกสิกร’ หั่น GDP ไทย 63 เหลือ ‘0.5%', By TopTen, 5 มีนาคม 2563, https://positioningmag.com/1267050

[7]มีปัญหาในการยกเลิก VOA เพราะเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศที่ต้องตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่าย ยกเลิกฝ่ายเดียวไม่ได้

[8]ไวรัสโคโรนา : รัฐบาลเลิกวีซ่าฟรี อิตาลี-เกาหลีใต้-ฮ่องกง จนกว่าโควิด-19 คลี่คลาย ไทยพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 6 ราย, 11 มีนาคม 2563, https://www.bbc.com/thai/thailand-51830579

[9]ประชาชาติ, 3 มีนาคม 2563,อ้างแล้ว

[10]รัฐบาลสั่งยกเลิกศูนย์กักกันทั่วประเทศ ส่งกลับภูมิลำเนาให้ท้องถิ่นกักตัว, 11 มีนาคม 2563, https://www.posttoday.com/politic/news/617351  

[11]ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แต่งตั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563, ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 137 ตอนพิเศษ 58 ง วันที่ 13 มีนาคม 2563 หน้า 4-7, http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/058/T_0004.PDF 

ตำแหน่งใหม่ของ ปลัด อบจ.ปลัดเทศบาล ปลัด อบต.นักบริหารงานสาธารณสุข เป็น เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

[12]สถานการณ์ไวรัส “โควิด-19” ติดตามความคืบหน้าล่าสุด, 13 มีนาคม 2563 - 09:36 น., https://www.prachachat.net/world-news/news-414664

[13]แนวทางปฏิบัติการจัดหาพัสดุตามโครงการพลังคนไทยร่วมใจป้องกันไวรัสโคโรนา (COVID-19) ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2563, http://www.dla.go.th/upload/document/type2/2020/3/23158_1_1583379570340.pdf& การดำเนินการขับเคลื่อน “โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการจัดทำหน้ากากอนามัยเพื่อการป้องกันตนเอง”, http://www.dla.go.th/upload/document/type2/2020/2/23098_1_1582100769279.pdf& การเร่งรัดดำเนินการขับเคลื่อน โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(covid-19) และการจัดทำหน้ากากอนามัยเพื่อการป้องกันตนเอง, http://www.dla.go.th/upload/document/type2/2020/3/23157_1_1583315069169.pdf?time=1583477436918

& “รัชดา” ย้ำ งบ 225 ล้าน เป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ให้ทุกหมู่บ้านทำหน้ากากผ้า 50 ล้านชิ้น, สยามรัฐ, 10 มีนาคม 2563, https://siamrath.co.th/n/138080

[14]ทศวรรษที่ 4 ของสาธารณสุขมูลฐานไทยกับอนาคต อสม., สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.), 25 มีนาคม 2554, https://www.hsri.or.th/researcher/media/issue/detail/4614 

กระทรวงสาธารณสุขได้เริ่มโครงการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในปี พ.ศ.2520 ในระยะแรกเป็นไปในลักษณะโครงการทดลองใน 20 จังหวัด โดยดำเนินการทดลองในทุกอำเภอ อำเภอละ 1 ตำบล

ประเทศไทยมีการดำเนินงานตามแนวทาง สสม. หรือ การสาธารณสุขมูลฐาน (Primary Health Care) ในลักษณะโครงการต่างๆ มาตั้งแต่ก่อนคำประกาศ Alma Ata ประเทศไทยจึงดำเนินงาน สสม. มานานกว่า 30 ปี รูปธรรมที่สำคัญคือ การผลักดันให้มีอาสาสมัครสาธารณสุขขึ้น โดยระยะแรกมีทั้ง ผสส. (ผู้สื่อข่าวสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) และ อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) ระยะหลังได้ยกฐานะเป็น อสม. ทั้งหมด โดยปัจจุบันมีจำนวน อสม. ทั่วประเทศกว่า 8 แสนคน

เป็นทุนทางสังคม (social capital) ที่สำคัญของระบบสุขภาพ

[15]การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, http://www.dla.go.th/upload/document/type2/2020/3/23221_1_1583918003802.pdf?time=1583918998733

[16]หนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0211.1/ว 1526 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2563 เรื่อง การดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับจังหวัด

& หนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0211.3/ว 1538 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2563 เรื่อง การบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) ในพื้นที่จังหวัด

[17]ประกาศสำคัญที่สุด มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID 19, ลงวันที่ 11 มีนาคม 2563, https://www.dlalocalapp2563.com/Content/Files/DLA/ประกาศการป้องกันเชื้อไวรัส%20COVID%2019.pdf?v=20200313

[18]มาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโคโรนาต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงทางอ้อม ระยะที่ 1, 10 มีนาคม 2563, https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/27052 

ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ คือ (1) มาตรการด้านการเงิน ประกอบด้วย 4 มาตรการ (2) มาตรการภาษี ประกอบด้วย 4 มาตรการ (3) มาตรการช่วยเหลืออื่น ๆ ประกอบด้วย 6 มาตรการ

[19]มท.ของบฯ 200 ล้าน ทำหน้ากากฯ อ้างลดขาดแคลน, THAIPBS, 3 มีนาคม 2563, https://news.thaipbs.or.th/content/289463& เปิดเอกสาร มท.ของบฯ 225 ล้านบาท ทำหน้ากากอนามัย, 4 มีนาคม 2563, https://news.thaipbs.or.th/content/289525

[20]หนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ด่วนที่สุด มท 0819.2/ว732 ลงวันที่ 6 มีนาคม 2563 เรื่อง แนวทางปฏิบัติการดำเนินการโครงการพลังคนไทยร่วมใจป้องกันไวรัสโคโรนา (COVID-19) ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563, http://www.dla.go.th/upload/document/type2/2020/3/23207_1_1583814996485.pdf?time=1583926682619  

[21]ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 10 พ.ศ. 2563 เรื่อง การกำหนดราคาจำหน่ายและการแจ้งข้อมูลหน้ากากอนามัย, ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 137 ตอนพิเศษ 53 ง วันที่ 6 มีนาคม 2563 หน้า 8

ข้อ 3 ให้ผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ที่ผลิตภายในประเทศจำหน่ายปลีกในราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ไม่สูงกว่าชิ้นละ 2.50 บาท

[22]มีการยืนยันการผลิตหน้ากากอนามัยของไทยอยู่ที่ 36 ล้านชิ้นต่อเดือน เฉลี่ยวันละ 1.2 ล้านชิ้น

[23]มีข่าวค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อ รพ.เอกชน สูงถึง 7,500 บาทต่อคน

[24]เปลี่ยนแผน!! 'บิ๊กตู่' ประกาศยกเลิกศูนย์โควิด-19 ของรัฐ ให้กักที่บ้านแทน พร้อมแพทย์ดูแลเข้ม, 11 มีนาคม 2563, https://news.bectero.com/news/176060

สถานกักกัน กองทัพเรือที่สัตหีบยังไม่ยกเลิก เพราะ ยังคงไว้สำหรับผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงที่มาจากประเทศอื่นด้วย

[25]กรมอนามัยชี้หน้ากากผ้าป้องกันเชื้อได้ 54-59% ย้ำมาตรการหลักคือต้องล้างมือ, hfocus, Wed, 4 มีนาคม 2563, https://www.hfocus.org/content/2020/03/18632

“หน้ากากผ้า อย่างผ้าฝ้าย ผ้าใยสังเคราะห์ ผ้าสาลู กลุ่มนี้สามารถนำมาผลิตเป็นหน้ากากผ้าได้ ยิ่งซักยิ่งเล็ก เพราะใยจะออกมาเหลือประมาณ 1 ไมครอน โดยไวรัสโควิด-19 ขนาดอยู่ที่ 5 ไมครอน ซึ่งไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ได้ถึง 54-59% ถือว่าเพียงพอสำหรับคนทั่วไปที่ใช้ในพื้นที่แออัด โดยเรานำมาใช้และซักใหม่ได้ การจะเข้าถึงหน้ากากผ้าได้ด้วยการประดิษฐ์ง่าย ๆ ซึ่งกรมอนามัยได้ทำคลิปวิดีโอสอนเอาไว้ จึงขอเชิญชวนทุกคนหันมาทำหน้ากากผ้ากันเองดีกว่า โดยกรมอนามัย จับมือกับสำนักงานสาธารณสุขทั่วประเทศ เชิญชวนประชาชน มาเป็นจิตอาสาร่วมกันประดิษฐ์หน้ากากผ้ากัน” นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

& จากหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 สู่ ‘หน้ากากป้องกันไวรัสโคโรนา’ กับเรื่องจริงที่ต้องรู้ ‘ใส่หน้ากากอนามัย ป้องกันได้แค่ไหน’, By Praornpit Katchwattana, 27 มกราคม 2563, https://www.salika.co/2020/01/27/howto-choose-mask-prevent-corona-virus/

[26]ราชกิจจานุเบกษาประกาศเจลล้างมือเป็นเครื่องสำอาง, The Bangkok Insight Editorial Team, 10 มีนาคม 2563, https://www.thebangkokinsight.com/305719/

ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 137 ตอนพิเศษ 54 ง วันที่ 9 มีนาคม 2563 หน้า 6

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องกำหนดลักษณะของเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ ที่ห้ามผลิต นำเข้าหรือขาย พ.ศ. 2563

ข้อ 1 ให้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำความสะอาดมือโดยไม่ใช้น้ำซึ่งมีความเข้มข้นของเอทิลแอลกอฮอล์ หรือเอธานอล (ethyl alcohol หรือ ethanol) ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ หรือไอโซโพรพานอล (isopropyl alcohol หรือ isopropanol) หรือเอ็น-โพรพิลแอลกอฮอล์ หรือเอ็น-โพรพานอล (n-propyl alcohol หรือ n-propanol) เพียงสารเดียว หรือผสมรวมกันอยู่ต่ำกว่า 70% โดยปริมาตร (volume by volume) เป็นเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย

ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 9 มีนาคม 2563

ลงชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

& หมอเตือนผลข้างเคียง “แอลกอฮอล์ล้างมือ” เลือกผิด โควิด-19 ไม่ตาย แถมมือพัง, ไทยรัฐออนไลน์, 12 มีนาคม 2563, https://www.thairath.co.th/scoop/1788588

แอลกอฮอล์เจลล้างมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ต้องมีเอทิลแอลกอฮอล์ หรือเอธานอล (Ethyl alcohol หรือ Ethanol) ซึ่งมีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดมะเร็งและฆ่าเชื้อโรคได้ แต่ต้องมีปริมาณความเข้มข้นสูงถึง 70% หากต่ำกว่า 70% ไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ การนำเจลล้างมือไปล้างหน้าเป็นสิ่งไม่ควรทำ จะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองและเป็นอันตรายต่อเซลล์ผิวบนใบหน้า : พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง

[27]มีการฟ้องร้องกล่าวหากันระหว่างกรมการค้าภายในกับ โฆษกกรมศุลกากร ในกรณีข่าวเท็จ ข้อมูลตามสื่อมีข้อมูลการส่งออกหน้ากากอนามัยจำนวนแตกต่างกัน คือ (1) หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical masks) ป้องกันการติดเชื้อ รหัสพิกัดอัตราศุลกากร 63079040 รหัสย่อย 000 และ (2) หน้ากากป้องกันฝุ่น (Safety masks for preventing dust, smoke or toxic substance) รหัสพิกัดอัตราศุลกากร 63079090 รหัสย่อย 001 เพราะ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 มีประกาศห้ามการส่งออกหน้ากากอนามัยที่เกินกว่า 500 ชิ้น และ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 มีประกาศห้ามการส่งออกหน้ากากอนามัย(ไม่ระบุจำนวน) : ข้อมูล “รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand หมาแก่แมวสาว” (MCOT) และ สมชัย ศรีสุทธิยากร, 12 กุมภาพันธ์ 2563 ดู สมชัยเปิดข้อมูลส่งออกหน้ากากอนามัย, MCOT, 12 มีนาคม 2563, https://www.mcot.net/viewtna/5e69b876e3f8e40aef41db68& ไวรัสโคโรนา : เปิดตัวเลขส่งออกหน้ากากอนามัยย้อนหลัง พบยอดส่งออก เดือน ม.ค.63 พุ่งกระฉูด เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 62, 12 มีนาคม 2563, https://www.bbc.com/thai/thailand-51847891
& กรมการค้าภายใน จัดสรรหน้ากากอนามัยให้ร้านขายยา 25,000 ชิ้นให้กับสมาคมร้านขายยา ระบุพร้อมคุยโฆษกกรมศุลกากรแต่การฟ้องร้องคดียังให้เป็นไปตามขั้นตอน และ กระทรวงพาณิชย์ กระจายหน้ากากอนามัย จำนวน 1,560,000 ชิ้น ให้บุคลากรทางการแพทย์ 800,000 ชิ้น ร้านค้า 760,000 ชิ้น (ข่าว 13 กุมภาพันธ์ 2563)

[28]ส่องธุรกิจเจอผลกระทบ 'COVID-19' ระบาด, กรุงเทพธุรกิจ, 7 มีนาคม 2563, https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/869598  & พิษ ‘โควิด-19’ ทำท่องเที่ยวสูญ 4 แสนล. ‘ศูนย์วิจัยกสิกร’ หั่น GDP ไทย 63 เหลือ ‘0.5%', 5 มีนาคม 2563, อ้างแล้ว

ขณะนี้บริษัทหลายแห่งเริ่มได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว และกระจายแทบทุกภาคอุตสาหกรรม แม้บริษัทบางแห่งไม่ได้เปิดเผยความเสียหายออกมาเป็นตัวเลข แต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ทำให้การดำเนินธุรกิจชะงักงัน

บริษัทบางแห่งถึงขั้นต้องปลดพนักงานเพราะปัญหาการแพร่ระบาดครั้งนี้ ซ้ำเติมธุรกิจที่เป็นช่วงขาลงของบริษัทอยู่ ยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก มาดูกันว่ามีบริษัทใดบ้าง

แนวโน้มธุรกิจการบินในปีนี้ไม่สดใสเท่าที่ควร หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพราะทุกประเทศต่างใช้มาตรการคัดกรองนักเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงกันอย่างเข้มงวด ล่าสุด สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) ได้ออกมาคาดการณ์ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินทั่วโลกคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์

ไออาต้า ระบุว่า โรคโควิด-19 จะทำให้รายได้ของสายการบินประเภทเครื่องบินโดยสารลดลง 6.3 หมื่นล้านดอลลาร์-1.13 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้

[29]ดู ร.ร.สาธิตขอนแก่น หยุดเรียน เลื่อนสอบปลายภาค เลี่ยงภัยโควิด19, 2 มีนาคม 2563, https://www.77kaoded.com/content/1361633

[30]อิตาลีสาหัส จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในอิตาลีเพิ่มจนเกิน 1,000 รายแล้ว ศพ ติดเชื้อรายวันทุบสถิติอีก แต่รัฐบาลยังมั่นใจว่า มาตรการสุดเข้มงวดที่พวกเขาใช้นั้นมีประสิทธิภาพ (ข่าว 13 มีนาคม 2563)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท