บทความเรื่อง Play May Be a Deeper Part of Human Nature Than We Thought ลงพิมพ์ในนิตยสาร Scientific American Mind ฉบับเดือนมกราคม ๒๕๖๓ บอกว่าการเล่นต้องไม่ใช้กติกาแบบในชีวิตจริง ต้องทำเพราะอยากทำเอง อย่างอิสระ และไม่มีสิ่งตอบแทนเป็นเงินทองของรางวัล และที่สำคัญที่สุด สนุก
นักวิทยาศาสตร์คิดว่า ภายใต้นิยามนี้ ในระหว่างการเล่น เครือข่ายใยสมองที่ทำหน้าที่ด้านแรงจูงใจและรางวัลต้องทำหน้าที่
ไม่เฉพาะมนุษย์ที่เล่น สัตว์ก็เล่น ที่ใกล้ชิดเราก็สุนัขและแมว เห็นได้ชัดว่า การเล่นทำให้มีทักษะทางสังคม เกมเล่นซ่อนหา ไม่เฉพาะคนที่เล่น หนูก็เล่น
นักวิทยาศาสตร์ศึกษาประสาทวิทยาศาสตร์ของการเล่นโดยทดลองในหนู โดยให้หนูเล่นซ่อนหากับคน (ผู้ทำการทดลอง) โดยมีทั้งช่วงที่หนูเป็นฝ่ายซ่อน กับช่วงที่หนูเป็นฝ่ายหา เขาแสดงพฤติกรรมต่างกันในช่วงเป็นฝ่ายซ่อน กับช่วงเป็นฝ่ายหา คือตอนเป็นฝ่ายซ่อนจะเงียบไม่ส่งเสียง แต่ตอนเป็นฝ่ายหาจะส่งเสียง และเมื่อวัดการทำงานของสมองหนูในช่วงต่างๆ ก็พบว่าในสมองส่วน prefrontal cortex มีส่วนทำหน้าที่รับรู้รางวัล แรงจูงใจ และกติกา สะท้อนว่าพฤติกรรมการเล่นซ่อนหา หรือเกมเล่นซ่อนหาเป็นของเก่ามาก ไม่ใช่มนุษย์คิดขึ้น
ผลงานวิจัยนี้ลงพิมพ์ในวารสาร Science เชียวนะครับ เรื่อง Behavioral and neural correlates of hide-and-seek in rats เขาสรุปว่าเกมเล่นซ่อนหาเป็นเกมเก่า มีมาก่อนมีมนุษย์
วิจารณ์ พานิช
๕ ม.ค. ๖๓
ไม่มีความเห็น