ชีวิตที่พอเพียง 3586a. เรียนมหาวิทยาลัย ๖๐ ปี
นสพ.New York Times ลงบทความ 60 Years of Higher Ed – Really? บอกว่าต่อไปการเรียนมหาวิทยาลัยจะใช้หลักสูตร๖๐ ปี ไม่ใช่ ๔ ปี ทำให้ผมคิดถึงตัวเองว่าน่าจะกำลังจะเรียนจบปีหน้า ๒๕๖๓ เพราะผมเข้าเรียนที่จุฬาฯ ปี ๒๕๐๓
แต่ผมกลับเถียงว่าอย่างไรเสียการเรียนของผมก็ไม่หยุดหลังเข้ามหาวิทยาลัยมา ๖๐ ปี เพราะมหาวิทยาลัยช่วยสอนให้ผมเรียนเป็น และสำหรับผม ไม่มีการจบการเรียน
อ่านบทความแล้วผมเกิดความคิดว่า ต่อไปการเรียนมหาวิทยาลัยสำหรับคนส่วนใหญ่จะเป็นการเรียนสั้นและเรียนยาว เพื่อมีงานทำและมีชีวิตที่ดี เรียนสั้นหมายความว่าเรียนคอร์สสั้นๆ ๓,๖, หรือ ๙ เดือน ก็มีสมรรถนะที่ต้องการสำหรับการทำงาน ก็ได้ใบรับรองสมรรถนะ (สมรรถนะบัตร) ไปทำงานหารายได้เลี้ยงชีพไปเรียนต่อไปด้วย เรียนทีละโมดุลสองโมดุล และเก็บหน่วยกิตไป จนได้หน่วยกิตครบก็ได้รับปริญญา จ่ายเงินน้อยกว่าการเรียนปริญญา ๔ ปีรวดแบบสมัยนี้ และมีเวลาทำมาหากินเร็วขึ้นอย่างน้อย ๓ปี และคนเรียนแล้วตกงานจะมีน้อยมาก
ได้รับปริญญาเอาไว้โก้ๆ รวมทั้งได้ใบรับรองสมรรถนะที่เก็บไว้เป็นหลักฐานในระบบopen badge (สมรรถนะบัตรเสมือน) ของมหาวิทยาลัย ที่ต่อไปในอนาคตทุกมหาวิทยาลัยจะต้องมี เอาไว้บริการศิษย์ให้ผู้ต้องการจ้างงานมาตรวจสอบสมรรถนะของศิษย์ตลอดชีวิตของตนได้ มหาวิทยาลัยจะต้องแข่งขันกันสร้างความ “ศักดิ์สิทธิ์” ของ badge ของตน ว่าเมื่อมหาวิทยาลัยรับรองแล้วผู้นั้นทำงานเก่งจริงๆ คนไหนเก่งพิเศษด้านใด มีบอกด้วย เป็นระบบสมรรถนะบัตรเสมือนที่ไม่ต้องพิมพ์ไม่ต้องทำพิธีแจก แต่ศักดิ์สิทธิ์กว่าปริญญาบัตรจริง
วิจารณ์พานิช
๑๔ ธ.ค. ๖๒
ไม่มีความเห็น