๘๐๐. บารมี ๑๐

"บารมี ๑๐"

บารมี แปลว่า กำลังใจเต็ม ซึ่งบารมี ๑๐ มีดังนี้

๑. ทานบารมี  คือ จิตของเราพร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ

๒. ศีลบารมี คือ จิตของเราพร้อมในการทรงศีล

๓. เนกขัมมบารมี คือ จิตพร้อมในการทรงเนกขัมมะเป็นปกติ เนกขัมมะ แปลว่า การถือบวช แต่ไม่ใช่ว่าต้องโกนหัวไม่จำเป็น

๔. ปัญญาบารมี คือ จิตพร้อมที่จะใช้ปัญญาเป็นเครื่องประหัดประหารให้พินาศไป

๕. วิริยบารมี คือ วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ

๖. ขันติบารมี คือ ขันติ มีทั้งอดทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์

๗. สัจจะบารมี คือ สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลา ว่าเราจะจริงทุกอย่าง ในด้านของการทำความดี

๘. อธิษฐานบารมี คือ ตั้งใจให้ตรงโดยเฉพาะ

๙. เมตตาบารมี คือ สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตนเสมอด้วยบุคคลอื่น

๑๐. อุเบกขาบารมี คือ วางเฉยเข้าไว้ เมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัวใช้คำว่า "ช่างมัน" ไว้ในใจ

"บารมี" ที่องค์สมเด็จทรงให้เราสร้างให้เต็ม คือ สร้างกำลังใจปลูกฝังกำลังใจให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์สมบูรณ์

ทั้งหมด ๑๐ ข้อ ขึ้นอยู่กับที่ตัวเราเองเป็นผู้ฝึกปฏิบัติ...เรียนรู้ด้วยตนเองเสมอมา จึงทำให้ทราบว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราเอง นั่นคือ การได้ลงมือปฏิบัติ ฝึกปฏิบัติเสมอ ๆ แล้วจะทราบด้วยตัวของเราเอง เรียกว่า "ปัจจัตตัง"...และสุดท้าย ก็ได้มาซึ่ง ปรมัตถบารมี...คือ ในตอนแรกยังไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องนิพพาน พอสัมผัสวิปัสสนาญาณขั้นเล็กน้อย...อาศัยบารมีเก่า ก็มีความต้องการพระนิพพาน จะไปได้หรือไม่ได้ในชาตินี้ไม่สำคัญ เพราะการหวังพระนิพพานจริง ๆ ต้องหวังกันหลายชาติ จนกว่าบารมีที่เป็นปรมัตถบารมีจะสมบูรณ์แบบ...สาธุบุญในการได้น้อมนำมาสู่การปฏิบัติจริง...รู้อะไรก็ไม่สู้ การเรียนรู้จากความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์...สุดท้ายหากนำลงสู่การปฏิบัติจริงได้ ทุกคนจะทราบว่าคือเรื่องใดกับตนเอง โดยเฉพาะ "จิต" คนเรานั้น สำคัญมาก โดยเฉพาะบั้นปลายของชีวิตเราเอง...และสุดท้ายตอนนี้ คือ พร้อมตาย หากเกิดอะไรขึ้น เตรียมตัวตายไว้แล้ว พร้อมตายเสมอ ๆ...

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านบันทึกนี้ค่ะ

บุษยมาศ แสงเงิน

๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๒