ความฝันที่กำลังจะเป็นจริง


    ถ้าพูดถึงสิ่งที่อยากจะทำแต่ไม่มีโอกาสได้ทำสักทีหรืออาจจะมีโอกาสได้ทำแต่ทำไม่สำเร็จสักทีสำหรับฉันก็คงจะเป็นการเล่นเปียโนความฝันนี้เริ่มมาตั้งแต่ตอนป.4 ที่ได้เริ่มเรียนดนตรีครั้งแรกคุณพ่ออยากให้เรียนกลองชุดเพราะผู้หญิงตีกลองมีไม่มากจึงได้เริ่มเรียนกลองชุดมาตั้งแต่นั้น(แต่สิ่งที่ฉันอยากเรียนมันไม่ใช่กลองชุดนะสิ)และได้ไปเล่นสแนร์ในวงดุริยางค์ของโรงเรียน

    พอขึ้นม.1 ก็ได้ไปเรียนกีตาร์และเริ่มเล่นเครื่องpercussionทุกเครื่องของวงดุริยางค์ได้เรียนคลาริเน็ตและในที่สุดความฝันในการเล่นเปียโนก็กำลังจะเป็นความจริงตอนม.4ก็ได้ไปเรียนเปียโนที่ดุริยางค์ตำรวจแต่เรียนได้แค่เดือนเดียวก็ต้องเลิกเรียนไปเพราะว่าคิวอาจารย์ไม่ว่างและการเรียนพิเศษในวิชาอื่นความฝันของฉันจึงไม่ได้สานต่อไปแต่ก็มีการฝึกซ้อมที่บ้านโดยการเรียนจากอินเทอร์เน็ตแต่เครื่องคีบอร์ดที่บ้านก็ดันมาพังอีก(เคราะห์ซ้ำกรรมซัด)จากนั้นก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะได้เล่นอีกเลยแต่หลังจากวันนี้อีก7ปีข้างหน้าฉันจะทำให้สำเร็จโดยฝึกฝนด้วยตนเองจากอินเทอร์เน็ตแต่หากมีเวลาว่างก็จะหาโอกาสไปเรียนเพิ่มเติมจะทำให้มันสำเร็จให้ได้เพราะหนูเชื่อว่าความพยายามาม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจและถ้าวันไหนที่สามารถทำได้แล้วจะมาบอกนะคะ

ไอดอลและแรงบันดาลใจของฉัน

การเล่นเปียโนคือพี่โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นคนที่เก่งมากๆอยากจะเล่นเก่งแบบพี่เขา

พี่น้ำหนึ่งbnk48 เพราะว่าพี่เขาทั้งเรียนและทำงานไปด้วยแต่ก็ยังบริหารเวลาได้ดีทำได้ดีทั้งสองอย่างจึงอยากจะแบ่งเวลาได้ดีเหมือนกันเป็นแรงบันดาลใจเวลาเหนื่อยกับการเรียนก็จะดูพี่เขาเพราะพี่เขาทั้งเรียนและทำงานไปด้วยเหนื่อยมากๆแต่ก็ยังตั้งใจเรียนอยู่

คุณแม่เป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิตการทำงานเก็บเงินให้ฉันมีโอกาสที่จะได้เรียนในสิ่งที่ฉันอยากเรียนคอยสนับสนุนทุกอย่างที่ฉันอยากทำถ้าได้เป็นแม่ก็อยากจะเป็นแม่แบบนี้ และอยากจะประสบความสำเร็จเพื่อจะได้ให้คุณแม่ภูมิใจอยากให้คุณแม่หายเหนื่อยหลังจากที่ท่านทำงานหนักมากๆ

พี่อิงค์วรันธรเพราะเป็นคนชอบฟังเพลงถือได้ว่าเป็นนักร้องคนโปรดเลย

คนสุดท้ายฟรังนรีกุลต้นแบบในด้านการเรียนและการแบ่งเวลาอีกคนหนึ่งเพราะมีโอกาสได้ดูข่องยูทูปของเขาเลยได้เห็นวิธีการแบ่งเวลาในแต่ละวันเป็นคนที่แบ่งเวลาได้เก่งมากๆสามารถทำให้หลายๆอย่างทั้งเรียนของการแสดงและการเป็นนักศึกษาแพทย์เป็นไปได้ด้วยดีทั้งคู่

ไอดอลหลายๆคนที่กล่าวมาเราไม่ได้จะอย่กเป็นเขาเป็นแบบเขาไปซะทั้งหมดแต่เราอยากเป็นตัวเราเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่านี้โดยมีคนเหล่านี้เป็นกำลังใจเป็นแรงผลักดันทำให้เราไปถึงเป้าหมายที่เราวางไว้ฉันจะนำOccupational Adaptation หรือOA มาช่วยทำให้ความฝันของฉันเป็นจริงโดยการที่ต้องรู้จักการวางแผนการปรับเปลี่ยนความคิดของฉันปรับเปลี่ยนวิธีการตามสภาพแวดล้อมที่อยู่ลองหาวิธีการใหม่ๆอยู่เสมอนั้นอสจจะทำให้ความฝันของฉันเขยิบเข้ามาใกล้ฉันมากยิ่งขึ้นไม่สินั้นจะเป็นการที่ฉันเขยิบเข้าไปหาความฝันมากขึ้นต่างหาก

ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จเราต้องกล้าที่จะปรับเปลี่ยนปรับตัสไปตามสถานการณ์ต่างๆมีวิธีการแก้ปัญหาที่หลากหลายนั้นจะทำให้เรามีโอกาสที่จะเดินไปหาความฝันของเราได้ยิ่งพยายามมากเท่าไรยิ่งผิดพลาดเราก็จะได้เรารู้วิธีการที่ถูกต้องการหลงทางเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะทำให้เรารู้ว่าทางไหนที่ไม่ใช่แล้วเลือกเส้นทางใหม่ที่ถูกต้องหรือเหมาะสมกับเราไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบเพราะสิ่งที่สมบูรณ์แบบที่สุดก็ยังขาดความไม่สมบูรณ์แบบ

หมายเลขบันทึก: 668186เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2019 00:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กันยายน 2019 00:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท