มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปเอเชีย และมีปลูกกันมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย และประเทศไทย เป็นผักที่เราปลูกเพื่อบริโภคส่วนของใบและลำต้นมารับประทานสด หรือปรุงให้สุกเป็นกับข้าวร่วมกับผักชนิดอื่นหรือเนื้อสัตว์ สามารถรับประทานได้ตั้งแต่ต้นยังมีขนาดเล็กจนกระทั่งออกดอก โดยมีความแข็งของเปลือกลำต้นและแผ่นใบเพิ่มขึ้นตามอายุคุณค่าทางอาหาร มีแร่ธาตุอาหารเป็นองค์ประกอบ มากมายหลายชนิดได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม เหล็ก
การกินผักคะน้า สามารถช่วยลดความเสี่ยงจะเกิดโรคต้อกระจกได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นผักที่มีสาร ลูทีนสูง ซึ่งป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมและการเสื่อมของศูนย์จอตา ได้ แถมมีเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอที่ทำหน้าที่บำรุงและถนอมสายตาด้วย
การกินผักคะน้ายังลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหาร เพราะผักคะน้ามีคุณสมบัติยับยั้งการเติบโตของเนื้องอกหรือสารก่อมะเร็ง
ช่วยให้กระดูกและฟันสมบูรณ์แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุนหรือเสื่อมในผู้สูงอายุ และยังมีสารอิเล็กโทรไลต์ที่ช่วยเสริมการทำงานของแคลเซียมให้ทำงานเป็นปกติขึ้น
ที่ทำหน้าที่ในการช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง จึงมีส่วนสำคัญในการบำรุงเลือด เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และป้องกันการเกิดโรคโลหิตจางได้
ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ภายในร่างกาย เนื่องจากวิตามินซีในผักคะน้าช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อของผิวให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งแลดูมีสุขภาพดี
และยังเป็นผักที่มีผลดีต่อการป้องกันโรคเบาหวาน หรือคนที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาล เพราะผักคะน้านั้นมีน้ำตาลน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับผักชนิดอื่น
ในผักคะน้านอกจากจะช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ท้องไม่ผูก มีประโยชน์ต่อการทำความสะอาดลำไส้จากสารพิษที่ตกค้าง
ทำให้ปัญหาความจำเสื่อมลดลงหรือเกิดช้าลง หรือโรคอัลไซเมอร์ได้
คนที่มีปัญหาปวดไมเกรนบ่อยๆ หากกินผักคะน้าเป็นประจำจะลดอาการปวดลงได้มาก เพราะผักคะน้ามีแมกนีเซียมสูง
ทำให้ร่างกายแข็งแรง และป้องกันการติดเชื้อได้ดีขึ้น
เพราะจะช่วยปรับระดับฮอร์โมนให้สมดุล รวมทั้งผู้หญิงที่อยู่ในวัยทองจะช่วยลดอารมณ์หงุดหงิดและความเครียดลงได้
เพราะช่วยลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อในหลอดลม และยังช่วยขยายหลอดลมของผู้ที่เป็น หอบหืด และ โรคภูมิแพ้
เพราะมีสารโฟเลตช่วยลดโอกาสที่เด็กจะเกิดความพิการแต่กำเนิด
เนื่องจากในผักคะน้าอุดมไปด้วยแคลเซียม
เนื่องจากในผักคะน้ามีปริมาณน้ำตาลต่ำ จึงเหมาะไปประกอบในเมนูอาหารของผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาล ควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
ไม่มีความเห็น