เมื่อประมาณ 8 ปีก่อน ผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือสรุปการประชุมระดับชาติ เรื่อง การดูแลรักษาผู้ป่วยแบบองค์รวม คงสักประมาณปี 2535 เป็นครั้งแรกที่ได้รับรู้คำว่า Holistic Approch คิดว่าจะหาโอกาสเข้าประชุมด้วย ถ้ามีการจัดอีก มีนักวิชาการหลายท่าน มาแสดงความคิดเห็น อย่างเช่น อาจารย์ประเวศ วสี ให้แนวคิดที่น่าสนใจอย่างมาก มุมมองที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน ไม่เคยมีการสอนในมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่เคยเห็นมีการประชุมอีกเลย หนังสือเล่มนั้นจนบัดนี้ก็ยังหาไม่เจอ
คติประจำมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ผมจบมาคือ อัตตานัง อุปมัง กเร แปลว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา เคยได้ยินประโยคนี้ มาตั้งแต่เด็ก ๆ เวลาขับรถก็มีคนบอกว่าถ้าทุกคนเอาใจเขามาใส่ใจเรา การจราจรจะไม่ติดขัด จะไม่มีคนเห็นแก่ตัว ทำให้ความเข้าใจในความหมายนี้ เพียงผิวเผินมาตลอด ตั้งแต่เรียนจนจบออกมาทำงาน
แม่ผมเป็นเบาหวานหลายปี จำได้ว่าตอนแรก น้ำหนักลดลงมาก จนผอมผิดหูผิดตา จากคนเคยเจ้าเนื้อกลายเป็นป้าที่ผอม ๆ คุมน้ำตาลก็ไม่ได้ดี ขนาดกินยา เต็มที่ ทั้ง glibenclamide และ metformin คุมอาหาร ตลอด จนต้องฉีด NPH วันละ 28 u ผลไม้ประจำ คือ ฝรั่ง อาหารก็ไม่กล้ากินมาก ผมเรียนรู้ และเข้าใจ ผู้ป่วยเบาหวาน ก็จากแม่นี่แหละ รู้ว่าคนเป็นเบาหวานนี่ ผอมจริง ๆ รู้ว่าคนปกติน่าจะฉีด insulin รักษาได้ด้วยตัวเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าผู้ป่วยจะฉีดยารักษาตัวเองได้ แม่ผมความรู้ ป.6 อายุเกือบ 60 ปี ฉีดยาจิ้มท้องตัวเองอย่างคล่องแคล่ว
ผมซื้อเครื่องเจาะน้ำตาลไปให้ใช้ แม่ก็สามารถใช้ lancet จิ้มนิ้ว แล้วตรวจระดับน้ำตาลด้วยตัวเองได้ รู้ว่าผู้ป่วยเบาหวานน่าจะใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ แต่อาจต้องคุมอาหารบ้าง เวลาอยากไปเที่ยวก็ไปได้ แม่ผมก็ติด insulin เข็ม สำลี alcohol ใส่กระเป๋าไปด้วย อยากไปไหนก็ไป แกรู้วิธีแก้น้ำตาลต่ำในเลือดด้วย ผมเริ่มเข้าใจผู้ป่วยมากขึ้นรู้สึกได้ว่าผู้ป่วยก็เหมือนแม่เรา clenic เบาหวานก็มีผู้ป่วยที่ฉีด insulin จำนวนมากขึ้น เวลาแนะนำผู้ป่วยก็นึกถึงแม่ว่าปกติแม่ทำอย่างไรบ้างก็เอาอันนั้นแหละไปแนะนำผู้ป่วย เริ่มเข้าใจคำว่า อัตตานัง อุปมัง กเร จริง ๆ มากขึ้น
ผมเคยไปฝึกงานที่ รพ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เมื่อปี 2531 ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนที่ รพ.สังขละ ใกล้ ๆเขื่อนเขาแหลม ยังได้นอนดูดาวที่สนามหญ้า กับพวกเพื่อน ๆ นักศึกษาแพทย์ปีที่ 5 ดาวที่นั่นสวยจริง ๆ เพราะอยู่ในหุบเขา มีแต่เขาล้อมรอบ
ปี 2543 แม่ผมเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ที่อำเภอสังขละ ที่เดียวกับที่ผมเคยไปเมื่อหลายปีก่อน ผมนึกภาพออกเลยว่า แม่ผมอยู่ที่ รพ.สังขละ สภาพเป็นอย่างไร ทุกๆ วันมีผู้ป่วยอุบัติเหตุมาที่ รพ.วาริน ฯ จำนวนมาก หลายรายก็เสียชีวิตก่อนมาถึง รพ. หลายรายต้องมาช่วยชีวิตที่ รพ. และหลายรายก็เสียชีวิตกับมือเรา มันคุ้นเคยจนหลายครั้งแทบไม่รู้สึกอะไรมากมาย resusitate แล้วก็แล้ว แต่หลังจากแม่เสียชีวิต ผมเริ่ม เข้าใจว่าการสูญเสียเป็นอย่างไร
ทุก ๆ ครั้งที่มีอุบัติเหตุมา หรือ ผู้ป่วยหมดสติกะทันหัน ผมเข้าใจดีว่า ญาติ ๆ รู้สึกอย่างไร ลำบากอย่างไร หลังจากแม่เสียชีวิตไม่นาน มีหญิงอายุประมาณ 50 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์ล้มเสียชีวิต ในกระเป๋าเงินมีรูปลูกสาวอายุ ประมาณ 17-18 ปี ผมเข้าใจดีว่าลูกสาวคนนี้จะรู้สึกอย่างไร เมื่อไม่กี่วันมานี้ก็เหมือนกัน ผู้ป่วยนั่งดูทีวีอยู่ดี ๆ หมดสติหยุดหายใจขึ้นมาเฉย ๆ เป็นผู้หญิงอายุประมาณ 40 ปีกว่า ๆ มาถึง รพ. Pupil dilate แล้ว ไม่มีชีพจร ไม่มีการหายใจ สามีเป็นคนพามา พูดไปร้องไห้ไปตลอดว่า อย่าให้เป็นอะไรเลย อย่าให้เป็นอะไรเลย resusitate สักพัก ผู้ป่วยเริ่มมีหายใจเป็นเฮือก ๆ ผมดีใจมากรีบส่งต่อ ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรหรือเปล่า คนนั่งดูทีวีอยู่ด้วยกันดี ๆ แท้ ๆ อยู่ ๆ กำลังจะตายจากไป แต่ผมรู้สึกได้ ผมเข้าใจดี ………..
- เป็นความจำฝังใจเมื่อครั้งเยาว์วัย คุณแม่ผมเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ขั้นรุนแรง ไปรับการรักษาด้วยผ่าตัดที่ ร.พ.แห่งหนึ่งแถวๆ
สวนลุมพินี ตอนนั้นญาติพี่น้องพาผมไปเยี่ยมคุณแม่ที่ ร.พ.ด้วยความเศร้าและต่างก็แอบซุบซิบกันว่าน่าสงสารท่าทางจะไม่รอด
ลูกชายคนเล็กก็ยังเล็กมากๆ กำพร้าพ่อไปคนหนึ่งแล้ว ยังจะต้องมากำพร้าแม่อีกคนหรือ ตอนนั้นผมเหมือนเรือลำน้อยที่ลอยหาฝั่งอยู่ลำเดียว มองไปทางไหนก็ไม่เห็นฝั่ง ยิ่งวังเวงเวลาไปเยี่ยมคุณแม่ที่ ร.พ.ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยคนไข้อาการหนัก และความเย็นชาของบุคลากรใน ร.พ. เลยเป็นความจำระยะยาวที่ลบเท่าไหร่ก็ลบไม่ออก
- เมื่อเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยได้มีโอกาสอ่านพระราชประวัติของพระราชบิดา กรมหลวงสงขลานครินทร์ ก็รู้สึกประทับใจกับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินที่เป็นแพทย์ที่อุทิศตนเพื้อคนไข้ยิ่งกว่าห่วงตน ต่อมาได้มีโอกาสชมสารคดีเกี่ยวกับ ร.พ.ศิริราช เนื่องในวันมหิดล ตอนหนึ่งกล่าวถึงอาจารย์ใหญ่ ก็เลยประทับใจเกี่ยวกับ ร.พ.ศิริราช ดังนั้นพอเป็นโรคอะไรที่รักษาเองไม่หายก็จะไปพึ่งแพทย์ศิริราช
เวลาไป ร.พ.ศิริราช ได้พบคำขวัญอัตตานัง อุปมัง กเร ที่ปักไว้บนอกเสื้อของแพทย์ และในใบเสร็จรับเงิน และที่หน้า ร.พ. ก็สงสัยมาตลอดว่าหมายถึงอะไร (ตอนแรกตีความไปเองแบบ subjective ว่าน่าจะแปลว่าให้ดูแลคนไข้เหมือนกับเป็นญาติพี่น้องของตนเอง) วันนี้ไปตรวจตาที่ ร.พ.ศิริราช มา ก็พบคำขวัญนี้ (อีกแล้ว) ก็เลยรียมา search ดู ก็เลยได้ผลลัพธ์ทวีคูณในหลายๆ เรื่อง
คือได้รู้คำแปล และเรื่องอะไรดีๆ อีกหลายเรื่อง
- ขอบคุณคุณหมอจิ้น ได้แต่คาดหวังอย่างสูงสุดว่าแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ของศิริราชทุกคนจะสำเหนียกในความหมายของอัตตานัง อุปมัง กเร และถือปฏิบัติเป็นจริยธรรมแห่งวิชาชีพตลอดไป
ผมก็ค้นหาคำว่า อัตตานัง อุปมัง กเร ครับ
ขอบคุณอาจารย์มากๆ ผมเองก็มีประสบการณ์ที่คุณแม่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านม
ตอนที่เป็นนิสิตแพทย์ปีสอง อยากคุยกับอาจารย์ครับ
อโณทัย อ้น
ประสบการณ์ที่ตรงกันก็เหมือนอัตตานัง อุปมัง กเร คือทำให้เข้าใจกันดีเหมือนเข้าใจตรงกันแบบรู้ลึกซึ้งอย่างเข้าไปถึงอกเขาอกเรา ครับ
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ขอบคุณอีกครั้งที่มองเห็นสิ่งที่เราทำ ศีลเสมอแล้วเจอกันจ้ะ
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ขอบคุณอีกครั้งที่มองเห็นสิ่งที่เราทำ ศีลเสมอแล้วเจอกันจ้ะ
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ขอบคุณอีกครั้งที่มองเห็นสิ่งที่เราทำ ศีลเสมอแล้วเจอกันจ้ะ