๑๖
วิธีป้องกันสมองเสื่อม
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร
ลำปาง
...
สมองคนเราพัฒนาให้ดีขึ้น
และบำรุงรักษาให้เสื่อมช้าลงได้ งานวิจัยในสำนักชีที่เมืองแมนกาโต
รัฐมินเนโซตา สหรัฐอเมริกาพบว่า แม่ชีที่มีโอกาสใช้สมอง เช่น
ทำงานค้นคว้า ฯลฯ จะมีแขนงประสาทเชื่อมระหว่างเซลล์สมอง
ซึ่งเปรียบได้คล้ายกับเป็นถนนหรือเครือข่ายมากกว่า
ทำให้สมองทำงานได้ดีกว่า และมีอายุยืนกว่าแม่ชีที่ไม่ค่อยได้ใช้สมอง
เช่น ซักรีดเสื้อผ้า ฯลฯ
...
อาจารย์แพทย์หญิงลลิตา
ธีระสิริแนะนำวิธีป้องกันสมองเสื่อม
คอลัมน์สาระสุขภาพขอนำบางส่วนมาเล่าสู่กันฟัง
เสริมเรื่องการหลีกเลี่ยงโลหะหนักกับบุหรี่เข้าไปหน่อย
...
1)
กินจมูกข้าว
2)
กินไข่
-
ไข่แดงเป็นอาหารที่ดีมาก
มีโคลีนซึ่งช่วยในการสร้างสื่อประสาทของเซลล์สมอง
ธรรมดาของดีควรคู่กับความพอดีจึงจะได้ผล
-
คนเรากินไข่แดงได้ประมาณสัปดาห์
ละ 3-4 ฟอง(ถ้าไม่มีโรคหัวใจ ไม่มีโรคเส้นเลือดอุดตัน
และไม่มีโคเลสเตอรอลสูง)
หรือเฉลี่ยวันละ ½ ฟอง
ส่วนไข่ขาวไม่มีโคเลสเตอรอล และมีโปรตีนคุณภาพสูง
จึงกินได้มากกว่า 3-4 ฟองต่อสัปดาห์
...
3)
กินพืชผัก
- ควรกินพืชผัก(ข้าว ถั่ว ผัก
และผลไม้)ให้หลายชนิดอย่างน้อยวันละ 5 ส่วน(ประมาณ
5 ฝ่ามือผู้ใหญ่) เช่น ผัก 2 ส่วน ผลไม้ 2 ส่วน น้ำผลไม้ 1 แก้ว ฯลฯ
เพราะจะได้สารอาหารทั้งเกลือแร่ วิตะมิน สารต้านอนุมูลอิสระ
และสารอาหารอื่นๆ เช่น โคลีน(มีมาก
ในผักใบเขียว) ฯลฯ
...
- วิตะมินที่เน้นมากคือวิตะมินบี 6
ซึ่งมีมากใน กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บร็อคโคลี่ แคนตาลูป ถั่วเหลือง ฯลฯ
เส้นใยในพืชผักช่วยดูดซับน้ำตาล และปล่อยน้ำตาลเข้าสู่เลือดช้าๆ
ทำให้ระดับน้ำตาลไม่สูงเร็ว และไม่ต่ำลงเร็ว
- ระดับน้ำตาลที่สูงเกินมีอันตรายดังปรากฏในโรคเบาหวาน
ระดับน้ำตาลที่ต่ำเกินทำให้หน้ามืด เป็นลมง่าย
ระดับน้ำตาลพอเหมาะทำให้เซลล์สมองสดชื่นแจ่มใส
และทำงานได้ดี
...
4)
กินพริก
- พริกมีสารแคปไซซินทำให้เลือดไหลเวียนผ่านเส้นเลือดขนาดเล็กในสมองได้ดี
- ควรกินพริกที่มีความเผ็ดเทียบเท่าพริกขี้หนูป่นวันละ
1 ช้อนชา (3 กรัม) ถ้าเป็นพริกจากพืชสวนครัวที่ปลูกเองจะดียิ่งขึ้น
เพราะได้คุณค่าพลังสดจากธรรมชาติที่ไม่มีในพริกป่นหรือสารสกัดพริกอัดเม็ด
...
5)
กินโปรตีนให้พอดี
- ควรกินโปรตีนให้พอแต่ไม่มากเกิน
ถ้ากินเนื้อก็ควรเลือกเฉพาะเนื้อไม่ติดมันวันละ 1 ฝ่ามือ
ปลาทะเลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
- ถ้าไม่กินเนื้อต้องกินอาหารโปรตีน 2-3
ชนิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน เช่น ข้าวกล้อง-ถั่ว-งา ฯลฯ
...
6)
กินไขมันจำเป็น
- ไขมันจำเป็นมีมากในปลาทะเล
และน้ำมันพืชหลายชนิด(มีมากในน้ำมันถั่วเหลือง)
จึงควรกินปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และใช้น้ำมันพืช
- ควรหลีกเลี่ยงน้ำมันปาล์มและกะทิ
เนื่องจากมีไขมันอิ่มตัวสูง
- ไขมันอิ่มตัวมีส่วนทำให้ระดับโคเลสเตอรอลสูง
เสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดสมองแตก-ตีบตัน
...
7)
กินอาหารไขมันต่ำ
- ควรกินอาหารไขมันต่ำ
เนื่องจากอาหารไขมันสูงจะทำให้โคเลสเตอรอลสูงขึ้น
และมีโอกาสเป็นโรคอ้วน ความดันเลือดสูง เบาหวานเพิ่มขึ้น
-
ควรลดการกินไขมันแปรรูป(ไขมันทรานส์)
ซึ่งมีมากในคอฟฟี่เมต เบเกอรี่
ขนมสำเร็จรูป และเนยเทียม
ไขมันแปรรูปมีแนวโน้มจะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
ซึ่งช่วยทำความสะอาดเส้นเลือดลดลง และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL)
ซึ่งทำหน้าที่ขนไขมันจากทางเดินอาหารไปยังเซลล์ต่างๆ
เปรียบเหมือนตัวทิ้งขยะ
ทำให้เกิดไขมันสะสมที่ผนังเส้นเลือดเพิ่มขึ้น
...8)
หลีกเลี่ยงน้ำตาล
- ร่างกายของเราย่อยและดูดซึมน้ำตาลได้เร็วกว่าแป้ง
เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเร็ว
ต่อมหมวกไตจะต้องรีบผลิตและหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมามาก
ทำให้น้ำตาลต่ำลงค่อนข้างเร็ว ทำให้เพลียง่าย หิวบ่อย
เมื่อหิวบ่อยจะกินบ่อย ทำให้เกิดวงจร “หิว-อิ่ม-อ้วน”
และอ้วนได้ง่าย
- เซลล์สมองเป็นเซลล์ที่พึ่งพาน้ำตาลในเลือดสูง
เมื่อน้ำตาลในเลือดขึ้นๆ ลงๆ
จากน้ำตาลจะทำให้สมองเสื่อมเร็ว
- ถ้าไม่อยากให้เพลียง่ายควรกินน้ำตาลให้น้อยลง
และควรกินพืชผักให้เพียงพอ เนื่องจากพืชผักมีเกลือโพแตสเซียม
(potassium / K)
ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อได้
...
9)
ไม่ดื่มเหล้า
- แอลกอฮอล์(เหล้า เบียร์
ไวน์...)มีส่วนทำลายเซลล์สมองโดยตรง
และทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ
- น้ำตาลในเลือดต่ำทำให้สมองเสื่อม
การกินเหล้าทำให้เสี่ยงต่อโรคตับอักเสบ และตับแข็ง
ซึ่งทำให้สมองเสื่อมอีกต่อหนึ่ง
...
10) ไม่สูบบุหรี่
- การสูบบุหรี่และการสูดควันบุหรี่ที่คนอื่นสูบเข้าไปมีส่วนทำลายสมองได้หลายทาง
เช่น
แก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์จากการเผาไหม้ทำให้ออกซิเจนจับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงได้น้อยลง
เซลล์สมองจึงขาดออกซิเจน
- ควันบุหรี่ทำให้ผนังเส้นเลือดอักเสบ
เสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดตีบตันเพิ่มขึ้น บุหรี่ทำลายปอด
ทำให้ร่างกายรวมทั้งสมองขาดออกซิเจน ฯลฯ
- นอกจากนั้นบุหรี่ยังเป็นสารก่อมะเร็งที่สำคัญ
การไม่สูบบุหรี่จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับสุขภาพ
...
11)
หลีกเลี่ยงอลูมิเนียม
- โรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์เป็นโรคที่พบบ่อยในโลกตะวันตก(ฝรั่ง)
สาเหตุของโรคนี้ยังไม่เป็นที่ทราบกันแน่ชัด
- อลูมิเนียมอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สมองเสื่อม
จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะอลูมิเนียม(ถ้าเป็นไปได้) เช่น
ใช้หม้อหุงข้าวเคลือบเทฟลอนแทนหม้ออลูมิเนียม
ไม่ใช้ภาชนะอลูมิเนียมบรรจุอาหารที่มีรสเปรี้ยวหรืออาหารที่มีกรดผสม
เช่น แกงส้ม น้ำส้มสายชู ฯลฯ หลีกเลี่ยงยาลดกรดชนิดน้ำขุ่น (antacid)
ฯลฯ
...12) หลีกเลี่ยงโลหะหนัก
-
โลหะหนักหลายชนิด เช่น ตะกั่ว
ปรอท ฯลฯ ทำลายสมองได้ จึงไม่ควรใช้กระดาษที่มีหมึกพิมพ์ห่ออาหาร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีน้ำมันจะละลายหมึกพิมพ์ได้เพิ่มขึ้น
-
หลีกเลี่ยงการกินอาหารข้างถนน
โดยเฉพาะบริเวณใกล้อู่รถ
เนื่องจากมีโอกาสได้รับฝุ่นจากไอเสียรถ
-
ช่วยกันใช้น้ำมันที่ไม่มีตะกั่วหรือตะกั่วน้อย
เช่น แก๊สโซฮอล์ ฯลฯ ใช้ภาชนะใส่อาหารทำด้วยแก้วใส
หรือเซรามิกที่ไม่มีสี หลีกเลี่ยงภาชนะใส่อาหารที่มีสีผสม
ล้างมือด้วยสบู่ก่อนกินอาหารหรือดื่มน้ำ
เพื่อลดโอกาสได้รับฝุ่นจากไอเสียรถ
...
13) ออกกำลังกาย
- การออกกำลังกายที่ดีมากสำหรับคนสูงอายุได้แก่
การเดิน และขี่จักรยานอย่างน้อยทุกวันเว้นวัน
- การเดินควรสวมรองเท้าสำหรับวิ่งจ๊อกกิ่งหรือเดิน
เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อต่อและเอ็นบาดเจ็บ
การออกกำลังกายมีส่วนช่วยกระตุ้นเซลล์สมอง
ทำให้เซลล์สมองประสานงานกันได้ดี ลดความเสี่ยงจากการหกล้ม
ซึ่งอาจทำให้กระดูกหักในคนสูงอายุ
- ถ้าออกกำลังมากพอและนานพอจะช่วยให้เกิดการหลั่งสารความสุข(เอ็นดอร์ฟิน)
ทำให้รู้สึกสดชื่น ไม่หงุดหงิดง่าย
การออกกำลังมีส่วนเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL
หรือตัวทำความสะอาดเส้นเลือด) และลดระดับโคเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL
หรือตัวนำขยะไขมันไปทิ้งที่เส้นเลือด)
...
14) ลดความเครียด
- ให้ตัดสิ่งกระตุ้นที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง เช่น
อ่านหนังสือพิมพ์(โดยเฉพาะข่าวฆ่ากันที่นราธิวาส)
ดูโทรทัศน์ให้น้อยลง(โดยเฉพาะข่าวฆาตกรรม ข่มขืน เรื่องเศร้า
หนังน้ำเน่า) ฯลฯ
- และฝึกหายใจช้าๆ
โดยนั่งในท่าผ่อนคลาย หายใจเข้าช้าๆ นับ 1-5 พักไว้นับ 1-5
หายใจออกนับ 1-5 พักไว้นับ 1-5 ฝึกคราวละ 5-10 นาที
สมองจะเกิดการจัดระเบียบใหม่ ทำให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นมาก
นอกจากนั้นการฝึกหายใจช้าๆ ยังมีส่วนช่วย “หยุด” เรื่องร้ายๆ
ซึ่งมักจะทำให้เราคิดซ้ำซาก หรือหมกมุ่นเป็นวังวนน้ำเน่า (closed
loops) คล้ายๆ กับการพายเรือวนในอ่างเล็ก
- เมื่อหยุดเรื่องร้ายๆ ได้สักพัก
(stop loops)... เรามักจะหาทางออกใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้ (open loops)
หรืออย่างน้อย...ถ้าหาทางออกไม่ได้จริงๆ
ก็ยังพอที่ที่หลบภัย(หายใจช้าๆ...) หรือได้พักเอาแรงสัก 10
นาที(ตอนนี้ท่านผู้อ่านหายใจช้าๆ แล้วยัง...หายใจช้าๆ
หน่อยนะครับ...)
...
15) ทำงานที่ไม่ค่อยได้ทำ
- งานอดิเรกที่จะป้องกันสมองเสื่อมได้ดีควรเป็นงานที่ไม่ค่อยได้ทำ
เป็นงานที่ชอบ และไม่ต้องไปแข่งขันกับใคร เช่น
ถ้าทำงานใช้สมองมากควรหางานที่ได้ออกแรง
- ถ้าปลูกพืชผักได้จะดีมาก
เพราะพืชผักมีส่วนทำให้สิ่งแวดล้อมใกล้ตัวดีขึ้น
เมื่อนำไปกินจะได้พลังสดจากธรรมชาติเต็มที่ ฝึกภาษาต่างประเทศ
คนไทยควรฝึกสวดมนต์ทั้งบาลีและแปลไทยจะได้มีโอกาสฝึกสมองหลายภาษาสลับกัน
ฯลฯ
16).
พักผ่อนให้พอ
- คนทั่วไปควรนอนให้หลับสนิทได้อย่างน้อย 1
รอบของวงจรการหลับได้แก่วันละ 4 ชั่วโมง
บางคนอาจจะต้องนอนนานกว่านั้นคือวันละ 8 ชั่วโมง
จมูกข้าวไทย:
-
จมูกข้าวกล้องหอมมะลิมีจำหน่ายแล้วที่ Big C
(ตราหงษ์ทอง) ใช้ทำโจ๊ก ข้าวต้ม ข้าวสวยได้ทั้งนั้น
ใช้ผสมไปกับข้าวที่กินอยู่ประจำก็ได้ขนาด 1 กก. ราคา 50 บาท
ช่วยกันกินจมูกข้าวกล้องไทย
ชาวนาไทยจะได้มีความเป็นอยู่ดีขึ้นครับ...
แหล่งข้อมูล
-
ขอขอบคุณ >
อาจารย์แพทย์หญิงลลิตา ธีระสิริ.
คู่มือป้องกันสมองเสื่อมด้วยธรรมชาติบำบัด. สำนักพิมพ์รวมทรรศน์.
พิมพ์ครั้งที่ 2. ปี 2545. หน้า 7-60.
สาระสุขภาพ...
q โปรดปรึกษาแพทย์ หรือบุคลากรสุขภาพที่ดูแลท่าน
ก่อนนำคำแนะนำไปใช้ โดยเฉพาะท่านที่มีโรคประจำตัว
หรืออยู่ในกลุ่มมีความเสี่ยงต่อโรคสูง // ขอขอบคุณ //
q
ยินดีให้นำไปใช้ได้เพื่อการส่งเสริมสุขภาพ
ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า //
จัดทำ ๒๘ ตุลาคม ๔๘ >
ปรับปรุงแก้ไข ๔ พฤศจิกายน ๔๘
: