วันนี้ได้รับหนังสือ “มองดู ฉันทะ- ตัณหา ไล่มาตั้งแต่เจงกิสข่าน” โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตโต) พร้อมหนังสืออีก 2 เล่ม จากวัดญาณเวศกวัน เปิดผ่าน ๆ ดูในเล่ม เพื่อจะดูเนื้อหาคร่าว ๆ ของหนังสือธรรมเล่มเล็กเล่มนี้ ที่หน้า 34 มีข้อความตัวพิมพ์ใหญ่ ว่า
มอง-อนิจจัง
ต้องให้ถึง-เหตุปัจจัย
คนที่รู้เข้าใจอนิจจัง ดูได้ที่นี่:
รู้เท่าทันธรรมดาของอนิจจังและเหตุปัจจัย
ไม่มัวละเลิงหลับใหล ไม่เสียโอกาส ไม่พลาดเวลา
ใช้ปัญญาสืบค้น ทำให้เกิดผลอันพึงหมาย
เห็นคำว่าละเลิงแล้วรู้สึกไม่คุ้นคำ แต่คุ้นเคยกับคำว่าระเริงเสียมากกว่า จึงเปิดพจนานุกรมเพื่อตรวจสอบความคุ้นเคยกับหลักฐานอ้างอิงว่า ระเริง ละเลิง มีอยู่หรือไม่ หรือคิดไปเองโดยความคุ้นชิน จึงได้ผลว่ามีอยู่ทั้ง 2 คำ
ละเลิง = หลงลืมตัวเพราะความลำพอง หรือคึกคะนอง.
ระเริง = ร่าเริงจนออกนอกหน้า, สนุกสนานเบิกบานใจ, บันเทิงใจเต็มที่.
จึงทำให้เข้าใจคำมากขึ้นและมีเทคนิคในใจว่า ถ้าจะใช้ ล. ละเลิง ก็ให้คิดถึงคำว่าหลง เพราะหลงละเลิงจนอาจเสียหาย แต่หากจะใช้ ร. ระเริง ก็ให้คิดถึง รื่นเริงระเริงสนุก ก็พอจะช่วยให้จำไปใช้ได้ง่าย
ไม่มีความเห็น