วิธีสร้างความ "มั่งคั่ง" ของประเทศไทยที่ในหลวง ร.๙ สอนแนะไว้ (ในความเข้าใจของกระผม)


ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงให้สัมภาษณ์กับนิตยสารเนชั่นนัลจีโอกราฟิค (National Geographic) ความตอนหนึ่งว่า...

"Our country is rich, and strategic. So that if there is any struggle in the world, people want to get this country. And there is always a struggle in the world. We still stand here. We stand here for the good of the whole world. 

" ประเทศของเรามั่งคั่งและเป็นจุดยุทธศาสตร์ หากมีการต่อสู้แย่งชิงเกิดขึ้นในโลก ใคร ๆ ก็อยากได้ประเทศนี้ และโลกก็มักจะมีการต่อสู้แย่งชิงอยู่เสมอ ๆ ประเทศของเรายังคงยืนอยู่ที่นี่ จะยืนหยัดอยู่ที่นี่เพื่อคนทั้งโลก " 

ทุกคนรู้ดีว่าในโลกนี้ บางประเทศมั่งคั่ง(ร่ำรวย) บางประเทศยากจน บางประเทศประชากรไม่ต้องทำงานหนักอะไรก็อยู่สบาย แต่บางประเทศประชาชนทำงานหนักแต่อยู่อย่างลำบาก ในระบบ "เศรษฐกิจทุนนิยมเสรี" ประเทศร่ำรวยสร้างความมั่งคั่งด้วยการขายนวัตกรรมจากความรู้ที่ตนเองได้เปรียบในราคาที่สูงริ่ว ในขณะที่ประเทศยากจน ต้องสร้างผลิตผลทางการเกษตรออกจำหน่ายราคาถูกด้วยความจำเป็น แบบนี้ประเทศไทยที่เป็นประเทศกสิกรรมทำเกษตรจะมั่งคั่งได้อย่างไร ... ทำไมในหลวงจึงตรัสว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มั่งคั่ง

ผมไม่ได้จะเขียนบันทึกนี้เพื่อจะชวนให้ท่านตีความ เล่นคำ บอกว่าความ "มั่งคั่ง" ที่ทรงตรัส ไม่ได้หมายถึงความมั่งคั่งที่แปลว่าร่ำรวยเงินทองแต่เป็นความร่ำรวยจากใจที่พอเพียงโลกสวยแบบนั้นดอก... เพราะผมเข้าใจว่า ในหลวง ร.๙ ท่านไม่ได้จะบอกฝรั่งคนสัมภาษณ์แบบนั้น ท่านใช้คำว่า rich ที่แปลว่ารวยเงินทองทรัพย์สิน และผมก็มั่นใจว่าผมเข้าใจถูกต้องแน่ ๆ ว่า แนวทางที่ทรงแนะสู่ความ "มั่งคั่ง" นั้น เป็นดังต่อไปนี้ ... ซึ่งก็คือวิธีที่ทรงสอนอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาประเทศไปสู่ประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจพอเพียง  

ทุกคนคงรู้ดีเช่นกันว่า 

  • ถ้าผลิตผลทางการเกษตรมีมาก จะมีราคาถูก (เราเรียนอุปสงค์ อุปทาน ตั้งแต่ตอนมัธยม).... ตอนนี้ผลิตผลเรามีมาก เพราะปลูกมาก ปลูกแบบฝรั่ง ปลูกแบบเชิงเดี่ยว ปลูกพืชชนิดเดียว ใช้ปุ๋ยและสารเคมีและยาฆ่าแมลงก็เพื่อจะให้ได้ผลิตผลมาก ๆ 
  • ทำไมอยากได้ผลิตผลมาก ๆ แบบนั้น... เพราะอยากจะนำไปขายให้ได้เงินมาก ๆ  คือ อยากรวย อยากมั่งคั่ง อยากมีทรัพย์สินมาก ๆ จะได้นำไปซื้อความสะดวก สะบาย หน้าตา หรูหรา เพื่อความสุข 
  • เมื่อมีผลิตผลมาก ราคาผลิตผลจึงต่ำ ตามหลักอุปสงค์-อุปทานที่ว่าไป ... ยิ่งปลูกมากยิ่งราคาต่ำ ... แล้วทำไงดีล่ะ...
  • วิธีที่ "ผู้นำ" "นักวิชา" ทั้งหลายคิดก็คือ ต้องทำเหมือนฝรั่ง สร้างนวัตกรรม ทำให้ประเทศไทยไป ๔.๐ ... ซึ่งก็เข้าทางเขา ภายใต้ความเหลื่อมล้ำด้านความรู้หลักวิชาและเทคโนโลยี ไม่มีทางที่จะสู้ได้ ... สู้แบบเปิดจุดอ่อน 
  • อีกวิธีที่ "ผู้นำ" คิด คือ ลดการผลิตชนิดเดียวกัน ให้จัดสรรพื้นที่ปลูกพืชตามความต้องการตลาด ปลูกพืชชนิดใหม่ ... แต่สิ่งที่เกษตรกรไทยขาดที่สุดก็คือการเรียนรู้หรือทำอะไรใหม่ ๆ โดยใช้ความรู้นั่นเอง (เขาจะรอก่อน คอยดูใครทำสำเร็จ แล้วค่อยทำตาม) ...พยายามมาปิดจุดอ่อนด้วยวิชาการความรู้ที่อ่อนด้วยกว่า จึงไม่ใช่ทางสู้ที่ดี 
  • หยุดผลิตมาก ๆ นั้นได้ไหม เอาแค่พอกิน พอใช้ พออยู่ ... คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะไม่มีอะไรจะกิน หนี้สินก็ล้นพ้น คนที่ต้องส่งเสียเรียนต่อก็รอแบมืออยู่ทุกวันทุกสัปดาห์ ... แล้วจะทำอย่างไร 
  • ทำอะไรไม่ได้... ก็ต้องดิ้นรนกันต่อไป .................... ไม่โชคร้ายขนาดนั้นดอกครับ โปรดอ่านต่อ

วิธีที่ในหลวงทรงสอนให้ก้าวไปสู่่ความ "มั่งคั่ง"

  • ระดับครัวเรือน ชุมชน ให้ทำเศรษฐกิจพอเพียงขั้นพื้นฐาน ถ้าเป็นเกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ให้ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ มุ่งให้ พอกิน->พอใช้->พออยู่->พอร่มเย็น->พอตอบแทนบุญคุณ->พอทำบุญให้ทาน แล้วค่อยคิดจะขาย 
  • การขาย ถ้าราคาไม่ดีจริง ๆ  ก็ไม่ต้องผลิตออกมาขาย... ย่อมอยู่ได้ ไม่ลำบาก (เพราะมีกิน พอที่ใจ รอได้)
  • ระดับประเทศ ให้ทำเศรษฐกิจพอเพียงขั้นก้าวหน้า  พัฒนประเทศบนฐานความรู้และคุณธรรม นำเอาผลิตผลคนไทยไปขายและสร้างเครือข่ายกับต่างประเทศ สร้างมิตรประเทศเท่านั้น แบ่งปันช่วยเหลือประเทศยากจน โดยเอาเงินภาษีที่เก็บได้ไปซื้อผลิตผลคนไทยไปให้ฟรี  ค้าขายอย่างเป็นธรรมกับประเทศร่ำรวย และรับเอาเฉพาะสิ่งดี ๆ ที่เป็นธรรม นำกลับมาพัฒนาประเทศไทย 
  • ทรงสอนว่า ไม่ต้องเป็นประเทศที่เจริญอย่างมาก สำคัญว่าให้พออยู่ พอกิน 

ผมไม่รู้ว่า คนส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะกลับมาทำตามรอยพ่อที่ทรงพระราชดำเนินนำมาหรือไม่ แต่ผมเริ่มแล้ว เพื่อน ๆ หลายคนก็เริ่มแล้ว สิ่งที่เราได้ทันทีก็คือความสุข โดยเฉพาะความสุขจากความปลอดภัยในการกินอาหารปลูกเอง ไม่ดื่มเหล้า ไม่เล่นหวย ... ไม่อยากรวยแบบฝรั่ง 

ย่านางแดง ของท่านพ่อตา ฝากมาปลูก เป็นสมุนไพรอันลือนัก... ว่างั้น 

หมายเลขบันทึก: 658865เขียนเมื่อ 20 ธันวาคม 2018 21:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม 2018 08:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

Thank you for many useful and insightful posts over the year.

Happy New Year

=

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท