ย้อนเวลาไป 20 ปี ในตัวเมืองจังหวัดชุมพรจะมีรถสามล้อถีบอยู่ประมาณ 2-3 คัน วิ่งรับส่งผู้คนระหว่างตลาดสดกับบ้านเรือนชาวบ้านแถว ๆ นั้น ตอนนั้นฉันยังเป็นเด็ก ๆ ก็ได้แต่มองและอยากนั่งรถสามล้อถีบที่ว่านี่สักครั้ง แต่ก็ไม่ได้นั่งสักครั้ง เพราะไม่ได้บอกใครว่าอยากนั่ง และไม่มีเหตุใดต้องนั่งรถสามล้อถีบนั่น ด้วยครอบครัวฉันมีรถมอเตอรไซด์คันหนึ่งที่ใช้เป็นพาหนะประจำบ้าน มีพ่อเป็นคนขับรถพาใครต่อใครในบ้านไปไหนมาไหนอยู่แล้ว และพ่อก็หารายได้จากการเป็นมอเตอร์ไซด์รับจ้างในสมัยนั้น และทำให้ฉันมีเงินไปกินขนมที่โรงเรียนวันละ 10 บาท
ส่วนการเดินทางไปโรงเรียนของฉันแม้ว่าพ่อจะมีรถมอเตอร์ไซด์แต่พ่อต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้าก่อนฉันไปโรงเรียนซะอีก เลยไม่ได้ไปพร้อมพ่อ ในตอนเช้าฉันกระโดดจากที่นอน อาบน้ำ แต่งตัว ไปโรงเรียน แม่จะทำอาหารเช้าง่าย ๆ ไข่เจียวบ้าง อะไรบ้างตามความเหมาะสมให้เรากินก่อนไปโรงเรียน และหลายครั้งฉันห่อข้าวไปกินเป็นอาหารเที่ยงที่โรงเรียน ส่วนการเดินทางไปโรงเรียนฉันต้องเดินไป ระยะเวลาจากบ้านถึงโรงเรียนประมาณ 3 กิโลเมตร อึม! ไปกลับ 6 กิโลเมตร ก็ไม่ใช่น้อยนะ แต่เดินมาแล้วสบายมาก การทำเวลาขาไป ประมาณ 20 นาที เพื่อให้ทันเวลาเคารพธงชาติ การไปโรงเรียนสายนี่ ฉันคิดว่ามันน่าอายมาก เพราะต้องยืนโชว์หน้าประตูทางเข้าโรงเรียน ขากลับเดินช้าหน่อยเพราะไม่ต้องกลัวสาย
กลับมาพูดถึงรถสามล้อถีบต่อกันอีกครั้ง....คนขับสามล้อถีบในสมัยนั้นอายุก็เลยวัยกลางคนมาแล้ว จึงไม่แปลกที่รถสามล้อจะหายไป และในปัจจุบันวัฒนธรรมการขับขี่ของคนสมัยนี้ก็เปลี่ยนไป ลองคิดดูสิจะมีใครมานั่งสามล้อถีบในเวลาเร่งรีบ ที่สำคัญกว่านั้นทุกวันนี้มีรถบนถนนมากขึ้น จากจังหวัดที่ถนนโล่งสบาย ๆ กลับกลายเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีรถติดทุกซอกทุกซอย
ฉันรู้สึกเสียดายรถสามล้อถีบเสียจัง รถสามล้อถีบหายไปไหน ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้นั่งสามล้อถีบเลย
สามล้อถีบรับจ้าง อาชีพเก่าแก่ของสังคมเมืองเก่าก่อน ไม่ว่าจะเมืองเล็กๆจนถึงเมืองใหญ่ ซึ่งต่างก็เลือนหายไปเกือบหมดแล้วจะมีก็เพียงแต่โชว์ไว้ให้เราแีอ๊คถ่ายรูปหน้าสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้นอนาคตอาจจะเหลือแค่ความทรงจำ เหมือนบันทึกนี้เท่านั้น
ถูกต้องแล้วค่ะคุณพิชัย น่าเสียดายมาก ๆ ถ้าให้ดีควรจัดโซนอนุรักษ์ไว้สำหรับสามล้อ ซึ่งน่าจะเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดได้ด้วย แต่ก็นั่นแหล่ะการทำอะไรต้องมีฝ่ายสนับสนุนจึงจะทำได้ (และทำได้ดี) ซึ่งฝ่ายสนับสนุนนี่ถือเป็นฝ่ายที่สำคัญกว่า ฝ่ายเสนอ จริงมั้ยค่ะ