การแร็พเพื่อประชาธิปไตย: เพลงต่อต้านทหารของไทยที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้

กลุ่มนักเรียนเพลงแร็พกำลังใช้ดนตรีเพื่อกำลังระบายกับความขัดข้องหมองใจด้วยการบรรยายสภาพทางการเมืองในตอนนี้ การบรรยายที่ส่งผลทางการเมืองก็คือการกล่าวหาระบบทหารแบบเผด็จการ

เพลงชื่อ “ประเทศกูมี” หรือ “Which is my country” ในภาษาอังกฤษ ถูกนำเสนอในยูทูป ในวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา และเผยแพร่ไปถึง 17 ล้านครั้งในตอนนี้  การตอบรับโดยมากจะเป็นไปในทางบวก ที่มียอดไล้ก์ ถึง 72,000 ครั้ง และ ที่ไม่ชอบใจถึง 16,000 ครั้ง

เพลงนี้เขียนขึ้น และแสดงโดย 10 แร็พเพอร์ ที่รวมกันว่า แร็พต่อต้านเผด็จการ (Rap Against Dictatorship) เพลงนี้โจมตีสถาบัน และผู้นำทางทหาร

แร็พเพอร์คนหนึ่ง ที่กำลังปิดบังใบหน้า ได้กล่าวว่า “ประเทศเป็นที่คุณต้องเลือกระหว่างกินความจริง หรือกระสุน”

พวกเขาจะพูดถึงการรัฐประหารของทหาร โดยกล่าวว่า “มีการเขียนกฎบัตรขึ้น แต่ถูกลบโดยทหาร”

อีกคนพูดว่า “ประเทศที่ผู้คนไม่อ่านหนังสือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำ” แน่นอนว่าเกี่ยวข้องผู้นำและการเยินยอเป็นอย่างดีแต่การอ่านของเขา

ทหารได้ยึดอำนาจประมาณปี 2014 และสิ้นสุดรัฐบาลที่เลือกตั้งแบบประชาธิปไตย

ในตอนนั้นพวกทหารได้สัญญาว่าจะคืนประชาธิปไตยใน 1 ปี แต่ผลัดเลื่อนเลือกตั้งมา โดยให้เห็นแก่ความสงบของชาติ

การเลือกตั้งทั่วไปตอนนี้มีการกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2019 แต่กิจกรรมทางการเมือง เช่นการหาเสียง ยังคงจำกัดโดยพวกพลเอกทั้งหลาย

มีบล็อกเกอร์หลายคน และนักกิจกรรมทั้งหลาย ที่กำลังถูกดำเนินคดีในคดีตามพรบ. คอมพิวเตอร์กล่าวว่า การเห็นชอบไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตามจะถูกกดกันอย่างหนัก

Siriwat Deephor เป็นโฆษกตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บอกกับ AFP ว่า “เรากำลังพิจารณาการเผยแพร่เรื่องนี้อยู่” แต่ห็ไม่มีการตั้งข้อหาอะไรไว้

มันไม่ใช่แค่แร็พเพอร์ทั้งสิบคนเท่านั้นที่ผิดกฎหมาย แต่คนที่แบ่งปันวิดีโอนี้ด้วย

Siriwat กล่าวว่า “หากเพลงนี้ผิดพ.ร.บ. การก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ในการใส่ข้อมูลที่ผิดแล้วล่ะก็ คนที่แบ่งปันเรื่องนี้ต้องได้รับการลงโทษเช่นเดียวกัน”

พ.ร.บ. กำหนดโทษขั้นสูงสุดไว้ 5 ปี

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่แสดงความต้องการทางการเมืองใดๆ เมื่อเขามีอำนาจในปี 2014 แต่เมื่อเดือนที่แล้ว เขาส่งนัยยะว่าเขากำลังสนใจการเมือง ถึงแม้ว่า เขาก็ยังไม่แจ่มชัดว่าจะเป็นอะไรในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ผู้นำได้เดินทางไปเยี่ยมชมชนบท ผู้สนับสนุนเขาได้ช่วยเหลือพรรคที่สนับสนุนทหาร เพื่อดันให้เขาครองตำแหน่งนายกฯ

ทหารประกาศว่าเขาจะปฏิรูปการเมืองและกำจัดคอร์รัปชั่น แต่เขาก็ได้รับการวิจารณ์อย่างหนักถึงเรื่องความเข้มงวด และพื้นที่ของพลเมืองที่หดหาย

Jacoboi ซึ่งเป็นหนึ่งแร็พเพอร์ที่ร้องเพลงนี้ กล่าวกับ AFP ว่า พวกเขาไม่ได้พูดถึงสิ่งที่เป็นปกติ คนไทยไม่เคยอภิปรายสิ่งเหล่านี้

เขากล่าวว่า “พวกคนไทยเป็นสิ่งเหล่านี้ที่เราได้ยินในสังคมออนไลน์ในชิวิตจริง ฉันไม่กลัวเจ้าหน้าที่หรอก เพราะฉันเชื่อว่าเพลงนี้ไม่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน”

แปลและเรียบเรียงจาก

Asian Correspondent Staff. Rapping for democracy: The Thai anti-junta song going viral

https://asiancorrespondent.com/2018/10/rapping-for-democracy-the-thai-anti-junta-song-going-viral/