..... กฐินสามัคคี อันเป็นบุญประเพณีที่เราท่านชาวพุทธทุกคนต่างรู้จัก เพื่อผ่านพ้นเทศกาลออกพรรษาแล้วไซร้ นับตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำเดือน ๑๑ จวบจนถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ เป็นระยะเวลา ๓๐ วัน คือ ๑ เดือนนี้ เป็นห้วงระยะเวลาของเทศกาลกฐิน แต่ละหมู่บ้านแต่ละคุ้มวัดก็จะมีการจัดประเพณีดังกล่าวกับแทบทุกพื้นที่ เพื่อที่จะเป็นโอกาสในการสร้างบุญใหญ่ และเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้มีอายุยืนยาวถึง ๕,๐๐๐ ปี ตามคำทำนายของพระพุทธเจ้านั้นแล .....
โอกาสนี้ ผู้เขียนเอง แม้จะห่างหายจากการเขียนมานาน แต่วันนี้ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้มาบอกเล่าเรื่องราวที่ผู้เขียนเองได้มีโอกาสในการร่วมสร้างบุญใหญ่ในครั้งนี้ การใช้คำในการเขียนอาจจะมีทั้งภาษาไทยกลาง และภาษาอีสานปะปนกันไปเพื่ออรรถรสในการเล่าของผู้เขียนเอง ผิดพลาดประการใด ต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ เป็นปฐมก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องราวบุญที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ #จากใจแทนธรรม
จุดเริ่มต้นของมหาบุญครั้งนี้อยู่ที่นี่ พรรคมอน้ำชี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวย้อนกลับไปเมื่อสัก ๕ ปีที่แล้ว พ.ศ.๒๕๕๗ พรรคมอน้ำชี โดยการรวมกันของนิสิตจิตอาสา ที่สนใจในการสืบทอดสืบสานศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามของชาวอีสาน ในประเพณีฮีตเดือนที่ ๑๒ คือบุญกฐิน จึงได้พร้อมเพรียงกันตั้งใจร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆขึ้นมา คือ บุญกฐินสามัคคีพรรคมอน้ำชี นับเป็นครั้งแรกในการเริ่มทำบุญกฐินสามัคคีของพรรคมอน้ำชี นับตั้งแต่มีการก่อตั้งพรรคมา
ในครั้งนั้น ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกัน แต่ก็เป็นครั้งแรกในการทำบุญใหญ่ อาจจะทำให้ต้องรีบร้อนในการจัดสรรสิ่งต่างๆที่ต้องเตรียมให้พร้อมเพรียง เพื่อให้ครบองค์กฐินสามัคคี อันเป็นบริวารกฐิน เพื่อให้สมบูรณ์แบบตามจารีตประเพณีที่ดีงามของชาวอีสาน และชาวมหาสารคามนี้ สถานที่ที่ตั้งองค์กฐินสามัคคีในครั้งนั้น คงไม่พ้นตลาดน้อย อันเป็นพื้นที่ศูนย์อาหารรวมคน รวมทุกสิ่งอย่างด้านการกินครบวงจร มีพร้อมที่นั่น เป็นหมุดหมายเพื่อจะก่อให้เกิดการตั้งต้นกฐินสามัคคีขึ้น
นับจากปีการศึกษา ๒๕๕๗ มา พรรคมอน้ำชีก็ไม่ได้มีโอกาสจัดงานบุญกฐินสามัคคีอันเป็นบุญใหญ่นี้ด้วยภาระการทำกิจกรรมอื่น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าทำงานในตำแหน่งองค์การนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในปีการศึกษา ๒๕๕๘ และภาระรวมถึงกิจกรรมด้านสาธารณะประโยชน์อิ่นๆในปีการศึกษา ๒๕๕๙ จวบจนเมื่อครั้ง ปีการศึกษา ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา แม้พรรคมอน้ำชีจะมีโอกาสเข้าทำหน้าที่ในตำแหน่งองค์การนิสิตเอง แต่ด้วยความพร้อมของทีมงานที่พร้อมและมั่นใจเหลือเกินว่าจะสามารถดำเนินการได้ จึงมีการประชุมปรึกษาหารือเพื่อจะจัดให้มีบุญกฐินพรรคมอน้ำชีขึ้นเป็นครั้งที่ ๒ นับตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่มนิสิตมา โดยเราได้กำหนดชื่องานขึ้น เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์บอกบุญว่าโครงการ " ฮีต ๑๒ ฉลองบุญใหญ่ มอน้ำชีร่วมใจ ทอดกฐินสามัคคี " ขึ้น นับได้เป็นครั้งที่ ๒ ของบุญกฐินสามัคคีของกลุ่มนิสิตพรรคมอน้ำชี โดยการนำของมหาตั๋ง นายศักดิ์สิทธิ์ ศรีบุญเรือง ประธานกลุ่มนิสิต ในครั้งนั้น ได้มีโอกาสเดินทางไปหาพื้นที่ที่จะนำองค์กฐินสามัคคีนี้ไปทอดถวาย ซ่งกระผมเองก็มีโอกาสได้ลงพื้นที่ด้วย ทางเราซึ่งเป็นตัวหลักในการดำเนินโครงการในครั้งนั้นได้พุ่งตรงลงไปยัง สำนักสงฆ์วัดใหม่ประชาสามัคคีธรรม บ้านหนองโน ตำบลเขาใหญ่ อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม อันเป็นพื้นที่ที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก และทางวัดเองยังขาดเหลือทุนทรัพย์เพื่อจะนำไปซื้อที่ดินเข้าบริเวณโดยรอบวัดเพื่อจะให้วัดแห่งนี้มีพื้นที่เพียงพอในการที่จะสามารถจัดตั้งเป็นวัดได้ตามที่กฎหมายกำหนด
ที่สำคัญกว่านั้น ทางกระผมและทีมงานหลายๆคนเอง เคยมีโอกาสไปลงพื้นที่วัดดังกล่าวแล้ว ในรายวิชาเรียนของสำนักศึกษาทั้วไป รายวิชาภาวะผู้นำ ในครั้งนั้นได้มีโอกาสลงพื้นที่ทำกิจกรรมจิตอาสา ทั้งการทำพนังดินป้องกันน้ำเซาะตลิ่ง ซึ่งวัดแห่งนี้มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำชี นั่งเอง และได้มีโอกาสไปปลูกต้นพยุงจำนวนมากมายหลายต้นเลยทีเดียว แต่หากไม่ค่อยได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมสักครา ถึงเวลานั้นก็มีโอกาสเดินทางไปเพื่อที่จะ " ปักกฐิน " คือการจองว่าทางเราจะมาเป็นเจ้าภาพบุญกฐินวัดนี้ โดยได้รับความเมตตาจากหลวงปู่เรืองศิลป์ กตปุญโญ เจ้าสำนักสงฆ์วัดใหม่ประชาสามัคคีแห่งนี้ให้การต้อนรับทางคณะเป็นอย่างดี
ภาพ : เมื่อครั้งเดินทางไปกราบหลวงพ่อ และปวารณาปักกฐินสามัคคี
ภาพ : ด้านหลังคือต้นพยุงที่ทางเราได้มีโอกาสเดินทางมาปลูกไม้เมื่อปี ๒๕๕๘
จากการปักกฐินแล้วไซร้ ทางเราก็เดินทางกลับมาเพื่อเตรียมการด้านต่างๆของทางกลุ่มนิสิต
...และได้วันเวลาที่ชัดเจน เพื่อจะเป็นวันที่เราท่านทั้งหลายจะได้ร่วมบุญใหญ่ครั้งนี้ขึ้น โดยนิสิตเองเพื่อสืบทอดพระพุทธศานาของเราทั้งสิ้น วันที่เป็นโอกาสในการร่วมกันทำบุญใหญ่ของพรรคมอน้ำชีเมื่อปีที่แล้ว ตรงกับวันที่ ๑๓-๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๑ โดยมีการตั้งองค์กฐินสามัคคี ณ บริเวณ ตลาดน้อย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อันเป็นจุดรวมพล รวมคน รวมการคมนาคม ถือเป็นสถานที่สำคัญของมหาวิทยาลัยมหาสารคามเลยก็ว่าได้ อีกทั้งในวันที่ตั้งองค์กฐินสามัคคีนี้ เป็นวันควายวันเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ด้วย กลุ่มนิสิตพรรคมอน้ำชีจึงได้จัดให้มีการบำเพ็ญพระราชกุศลเพื่อน้อมถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในครั้งนี้ด้วย ก่อนที่จะมีการนำองค์กฐินสามัคคีไปทอดถวาย ณ วัดใหม่ประชาสามัคคีธรรม บ้านหนองโน ต.เขวาใหญ่ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เพื่อสมทบทุนในการจัดซื้อที่ดินบริเวณรอบวัด โดยโครงการ " ฮีต ๑๒ ฉลองบุญใหญ่ มอน้ำชีร่วมใจ ทอดกฐินสามัคคี " ครั้งนี้ ได้ยอดกฐินสามัคคี รวมทั้งสิ้น เป็นเงิน ๒๓๗,๒๖๙ บาทถ้วน โดยได้รับการอุปถัมป์หลักจาก พันเอกอรรถชัย - อาจารย์อารีรัตน์ รักษาศิลป์ อาจารย์ที่ปรึกษากลุ่มนิสิตพรรคมอน้ำชี เป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์ในครั้งนี้
ก็ถือได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจของน้องพี่กลุ่มนิสิตพรรคมอน้ำชี ที่ได้มีโอกาสร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้เกิดขึ้นในครั้งนี้ สิ่งที่ผู้เขียนเองเห็นและภาคภูมิในมากกว่าจำนวนปัจจัยที่ได้มาว่าสองแสนบาทแล้ว สิ่งที่เห็นแล้วภาคภูมิใจ ดีใจ ปลื้มปริ่มออกมาคือความสมัครสมานสามัคคีของพี่น้องกลุ่มนิสิตพรรคมอน้ำชี ที่ได้ร่วมด้วยช่วยกันในการสร้างมหากุศลอันยิ่งใหญ่นี้ขึ้น และที่สำคัญบุญใหญ่ครั้งนี้ได้เป็นโอกาสอันดีในการรวมน้องพี่ ศิษย์เก่าจำนวนมากมายหลายคนได้มีโอกาสเดินทางกลับเข้ามายังบ้านหลังเก่าหลังนี้ นาม พรรค มอน้ำชี อีกครั้งด้วย
ที่กล่าวข้างต้นเช้นนั้น ก็คงเป็นเพราะ บุญกฐินของพรรคมอน้ำชี เราจัดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว เป็นครั้งที่ ๓ แต่เราใช้ชื่องานนี้เป็นปีที่ ๒ ของบุญกฐินสามัคคีอันนี้ ในปีนี้ มอน้ำชีพยายามสร้างสรรค์กิจกรรมของบุญกฐินสามัคคีขึ้นให้มีรูปแบบและแบบแผนในการดำเนินการมากยิ่งขึ้น เพื่อรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์อัตลักษณ์ของกลุ่มนิสิตพรรคมอน้ำชีไว้ คือจิตอาสาที่มาพร้อมกับการสืบสานงานด้านศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชาวอีสาน หมุดหมายของกฐินสามัคคีปีนี้ คือ วัดป่าสันติราษฎร์บำรุง บ้านหัวนา ตำบลหัวนา อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อสร้างเสนาสนะถาวรวัตถุให้กับทางวัด โดยมีกำหนดการจัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๒๖-๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๑
เช้าวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๑ องค์กฐินสามัคคี ได้ตั้งขึ้นเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่ค่ำคืนของวันที่ ๒๕ ที่ผ่านมา ทำให้เราสามารถเริ่มการรับบริจาค รวมทั้งการประชาสัมพันธ์บุญได้ตั้งแต่เช้าเลยทีเดียว ฝ่ายจัดเตรียมสถานที่ต่างๆก็ดำเนินการไปในทุกๆด้าน ส่วนที่รับบริจาคปัจจัยเพื่อสมทบกฐินสามัคคีเองก็ดำเนินหน้าที่ไป ตามโอกาสและวิธีการของพิธีกรแต่ละคน การรับบริจาคก็ดำเนินการไปตลอดทั้งวัน โดยมีโรงทานจากทางร้านค้าต่างๆ ทั้งพ่อค้าแม่ค้าชาวตลาดน้อย และพี่น้องนิสิตได้มาร่วมทำโรงทาน ทั้งอาหาร ผลไม้ ของหวาน ที่มีตลอดทั้งวัน จึงต้องขออนุโมทนาสาธุในทานกุศลที่ทุกท่านได้ร่วมในครั้งนี้ด้วยครับ ในตอนเย็นเวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์เย็นสมโภชน์องค์กฐินสามัคคี โดยทางกลุ่มนิสิตได้รับความเมตตาจากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พระครูวินัยวรญาณ เจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย ฝ่ายธรรมยุต เป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วยพระครูพิศาลโพธิธรรม เจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย ฝ่ายมหานิกาย พร้อมด้วยคณะสงฆ์วัดป่าศรัทธาธรรมวิทยา ร่วมเจริญพระพุทธมนต์สมโภชน์องค์มหากฐินสามัคคีในครั้งนี้ หลังจากนั้นเป็นการแสดงพระธรมเทศนาสองธรรมมาสน์ เป็นการแสดงธรรมปุจฉา-วิสัชนา (ถาม-ตอบ) ตามแบบอีสานเอิ้นการเทศน์แบบ โจทย์-แก้-แปล-ถาม จากพระคุณเจ้า และปิดท้ายด้วยมหรสพสมโภชน์องค์กฐินสามัคคี คือหมอลำกลอน จนถึงเวลาที่ทางทีมงานต้องเก็บสิ่งของเพื่อเตรียมเดินทางสู่จังหวัดหนองบัวลำภูในวันถัดไป
ค่ำคืนของคืนวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๑ ผู้เขียนเองพร้อมด้วยคณะบางส่วนได้เดินทางล่วงหน้าไปก่อนคณะนิสิตและพี่น้องมอน้ำชีที่จะเดินทางตามไปในวันรุ่งขึ้น โดยมุ่งตรงสู่บ้านหัวนา จังหวัดหนองบัวลำภู กิจกรรมค่ำคืนนั้นสิ้นสุดลงด้วยการเก็บของเคลีย์พื้นที่ให้กลับสู่สภาพเดิม สิ่งที่เกิดข้นคือความสามัคคีของพี่น้องมอน้ำชี ที่ร่วมกาย ร่วมแรงในการจัดเก็บสถานที่ให้เรียบร้อย ซึ่งนานพอสมควร ตั้งแต่งานองค์การนิสิตปีที่ผ่านมาทางเราเองก็เพิ่งได้จัดงานกลางแจ้งแบบนี้ แต่ก็เป็นสิ่งที่ให้เห็นได้ว่า มอน้ำชียังคงเข้มเเข็ง และมีพลังที่จะดำเนินกิจกรรมด้านงานจิตอาสาต่อไปเช่นเคย
เช้าวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๑ ณ บ้านหัวนา ตำบลหัวนา อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ทีมงานที่เดินทางมาถึงก่อนก็ได้มาจัดเตรียมทางองค์กฐินสามัคคีร่วมกับคุรพ่อคุณแม่ ชาวบ้านหัวนา ผู้เขียนเองก็ทำหน้าที่ แห่นไมล์คือเก่า ฮ่าๆๆ ก็คงหนีไม่พ้นครับ สำหรับคนชอบพูดไมล์ ก็ประชาสัมพันธ์งานบุญอยู่นั่น รอน้องพี่จากมหาวิทยาลัยมหาสารคามที่กำลังเดินทางไป
เมื่อขบวนรถที่นำพาน้องพี่ มอน้ำชี และผู้ร่วมเดินทางมาถึงบ้านหัวนาแล้ว ก็เป็นเวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น.ก็ต้องรับประทานอาหารกัน เป็นเมนูแรก ณ ที่นั่นของน้องพี่เราท่านทุกคนที่เดินทางมาถึงบ้านหัวนา โดยได้รับการดูแลอย่างดีจากทางเจ้าของสถานที่ คือชาวบ้านหัวนาทุกๆคน
เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น. ก็เป็นกิจกรรมแรกที่ทุกๆคนได้ร่วมกัน คือ การรับฟังการแสดงพระธรรมเทศนา จากพระครูพระครูวิลาสพุทธิคุณ(หลวงตาสมพงษ์) วัดป่าตถตา ต.คลองมะพลับ อ.ศรีนคร จ.สุโขทัย ในการแสดงพระธรรมเทศนาสมโภชน์กฐินสามัคคีกลุ่มนิสิตมอน้ำชี ในช่วงบ่ายของวันที่ ๒๗ จนถึงเวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น.ทางคณะจึงได้จัดเตรียมในการแห่องค์กฐินสามัคคีรอบหมู่บ้านหัวนา เพื่อให้ชาวบ้านได้รับรู้รับทราบในกุศลเจตนานี้พร้อมกันทุกคน โดยมีกลองยาว อันเป็นสัญลักษณ์ของการแห่ขบวน บรรยากาศในช่วงตั้งแต่บ้านสามโมงกว่าๆจนถึงเวลาประมาณห้าโมงเย็น เป็นไปด้วยความสนุกสนาน ทั้งพี่น้องนิสิตเองและชาวบ้าน ได้มาแห่แหนกฐินสามัคคีร่วมกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ตลอดระยะทางที่เคลื่อนผ่านไป มีความครึกครื้นอยู่ตลอด ก็เหนื่อยล้าไปตามกัน สำหรับคนที่ออกแรงเยอะหน่อย ฮ่าๆๆ
เย็นของวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๑ หลังเสร็จสิ้นการแห่องค์กฐินสามัคคีรอบหมู๋บ้านแล้ว เป็นพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชน์องค์กฐินสามัคคี และกิจกรรมรำวงการกุศล เพื่อสมทบองค์กฐินสามัคคีในครั้งนี้ โดยมีทั้งพี่น้องนิสิตและชาวบ้านให้ความสนใจอย่างมาก ในกิจกรรมตอนกลางคืนของวันนั้น จากนั้นก็พักผ่อนตามอัธยาศัย โดยครั้งนี้เราได้มีการจับพ่อฮักแม่ฮัก เพื่อให้พี่น้องนิสิตได้มีโอกาสเรียนรู้ความเป็นอยู่ของชุมชน คือได้ไแพักอาศัยในบ้านของคุณพ่อคุณแม่ทีอุปการะลูกๆนิสิตเพื่อให้ลูกๆได้พักผ่อนในค่ำคืนนี้ ก่อนที่จะเป็นการทอดถวายกฐินสามัคคีในวันรุ่งขึ้น
วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๑ ณ วัดป่าสันติราษฎ์บำรุง เป็นเช้าที่ทุกท่านจะมาร่วมกันทอดกฐินสามัคคีกัน โดยพร้อมกันหลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ โดม สถานที่ตั้งองค์กฐิน เคลื่อนไปยังวัด โดยมี พันเอกอรรถชัย-อาจารย์อารีรัตน์ รักษาศิลป์ อาจารยืที่ปรึกษากลุ่มนิสิตพรรคมอน้ำชีเดินทางไปร่วมในพิธีทอดถวายกฐินสามัคคีครั้งนี้ด้วย
นำโดยพ่อมัคทายก ผู้เฒ่าผู้แก่บ้านหัวนา นำพาลูกหลานญาติพี่น้องทำพิธีทางศาสนา เพื่อเป็นการน้อมถวายผ้ากฐินสามัคคีพร้อมด้วยริวารกฐินให้กับพระภิกษุสงฆ์รูปใดรูปหน่งที่จำพรรษาครบไตรมาส คือครบ ๓ เดือน ในปีนี้ ซึ่งก็เป็นวิถีปฏิบัติเป็นจารีตฮีตคองของชาวพุทธและชาวอีสานสืบต่อกันมาอย่างยาวนานรุ่นสู่รุ่น
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนา เป็นการเสร็จสิ้นของการทอดถวายผ้ากฐินสามัคคีแล้ว ทางชุมชนบ้านหัวนา โดยพ่อเฒ่าพ่อแก่ คุณตาคุณยาย ได้จัดเตรียมพานบายศรี สำหรับให้สู่ขวัญ เอิ้นขวัญให้กับลูกหลานที่เดินทางมาร่วมทอดกฐินสามัคคีตามความเชื่อและเป็นจารีตฮีตคองของชาวอีสานที่มีมาแต่โบราณกาล เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ และเป็นศิริมงคลให้กับผู้ร่วมพิธีทุกๆคน
กิจกรรมอำลาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นของนิสิตกับชุมชน ที่ทำให้เป็นเขียนเองเห็นแล้วอดยิ้มตามไม่ได้เลยทีเดียว การเดินทางด้วยแรงบุญแรงศรัทธาของพี่น้องมอน้ำชีกว่า ๑๕๐ ชีวิต ที่มุ่งหน้าจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม สู่ บ้านหัวนา จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อร่วมงานบุญใหญ่ที่พรรคมอน้ำชีจัดขึ้น โดนการนำของ นายกันตวัฒน์ สาลามา ประธานกลุ่มนิสิตพรรคมอน้ำชี ประธานโครงการในปีนี้ นายศักดิ์สิทธิ์ ศรีบุญเรือง อตีดประธานกลุ่มนิสิต เจ้าของสถานที่ ที่นำพาพี่น้องผองเพื่อนในการสร้างบุญใหญ่ในครั้งนี้
กฐินสามัคคี พรรคมอน้ำชี โดยการอุปถัมภ์ของ พันเอกอรรถชัย-อาจารย์อารีรัตน์ รักษาศิลป์ ร่วมกันชาวบ้านหัวนา ซ่งปีนี้ได้ยอดสุทธิ เพื่อสร้างกำแลงรอบศาลาการเปรียญ
" แทนใจ แทนธรรม "
เขียนเมื่อ วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๑.๑๓ น.
ไม่มีความเห็น