คุณประจวบ ชำนิประศาสน์ กรรมการมูลนิธิเอเอฟเอส ประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด และกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม
เอเอฟเอสประเทศไทย เป็นองค์กรที่ยึดมั่นในการสร้างสรรค์สันติสุขของโลก ได้รับการยอมรับจากสมาชิกทั่วโลก ในด้านคุณภาพ เป็นอันดับ 1 แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ ของอาสาสมัครทุกท่าน ( Host School / Host Family / Co coordinator / advisor ) ที่เสียสละเวลาให้ความร่วมมือ สนับสนุน จนเกิดความสำเร็จ ปัจจุบันดำเนินงานเป็นปีที่ 56 ร่วมกับประเทศสมาชิกกว่า 52 ประเทศ จากจำนวนประเทศสมาชิกทั้งหมด 90 ประเทศ
*** เอเอฟเอสประเทศไทยตระหนักดีถึงความสำคัญของอาสาสมัครทุกท่าน ***
คุณจิรวัฒนา จรูญภัทรพงษ์ ผู้อำนวยการใหญ่ มูลนิธิเอเอฟเอสประเทศไทย บรรยายหัวข้อ แนวนโยบาย การรับอุปถัมภ์บุคลากร
ประเทศไทยได้รับการกล่าวขานในเรื่อง ความงามด้านภูมิทัศน์ และจิตใจที่งดงาม ซึ่งอาสาสมัครเอเอฟเอสก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ชาวต่างชาติได้เห็น ได้สัมผัส ได้เรียนรู้ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยให้ความอนุเคราะห์ทั้งกำลังทรัพย์ และกำลังใจ เอเอฟเอสประเทศไทยให้ความสนใจ และเห็นความสำคัญของการรับอุปถัมภ์ ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัวอุปถัมภ์ โรงเรียนอุปถัมภ์/สถานที่ฝึกงาน และอาสาสมัคร จึงมีความตั้งใจที่จะรับฟังข้อเสนอแนะจาก อาสาสมัครเอเอฟเอสเพื่อจะนำไปปรับปรุง และพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้น
คุณสุรวัฒน์ ชมภูพงษ์ กรรมการมูลนิธิ นำดอกแก้วกัลยามาช่วยจำหน่ายเพื่อช่วยเหลือคนพิการ
คุณศิริลักษณ์ บูรพาวิจิตร ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการประชุมเชิงปฏิบัติการ และทำความเข้าใจเรื่องการดูแลผู้เข้าร่วมโครงการฯ
ปกติจะมีการเชิญครอบครัวอุปถัมภ์ มาประชุมเพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจ เกี่ยวกับการดูแลผู้เข้าร่วมโครงการฯ ก่อนการเดินทางมาพำนักอยู่ด้วยประมาณ 3-4 สัปดาห์ จากนั้นก็ไม่ได้มีการเชิญมาประชุมฯ แบบพบเห็นหน้าตากัน จนกระทั่งจบโครงการฯ หากมีปัญหา หรือข้อสงสัยใดๆ อาจมีการติดต่อสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายอุปถัมภ์ ซึ่งครูที่ปรึกษา หรือผู้ประสานงานจะเข้าไปดูแลและ ติดตามผลโดยตรง
สาเหตุของการเกิดปัญหา
1. ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มีพฤติกรรมต่างไปจากApplication Form
2. ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มีความคาดหวังสูง เป้าหมายของชีวิตไม่ชัดเจน
3. ความแตกต่างของวัฒนธรรม ขาดความรู้-ความเข้าใจในการแก้ปัญหา มีความอดทนน้อย ไม่ยอมปรับตนเอง
หลักการแก้ปัญหา
1. ประสาน-ติดต่อ ติดตาม แก้ไขพฤติกรรม จากรายงาน Monthly Contact
2. ฝึกคิดบวก เสริมแรงบวก เสริมกำลังใจ หมั่นไปเยี่ยมเยียน และทำกิจกรรมร่วมกัน
3. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ให้ความรู้-ความเข้าใจ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น รับฟังแนวทางการแก้ไข
ข้อดีของการรับอุปถัมภ์ ( จากครอบครัวอุปถัมภ์ )
1. ได้เรียนรู้ภาษาใหม่
2. ได้สมาชิกครอบครัวเพิ่มขึ้น
3. ได้เรียนรู้ความต่างของวัฒนธรรมและเผยแพร่วัฒนธรรมไทย
4. ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้มุมมองและเข้าใจโลกมากขึ้น
การบรรยายพิเศษหัวข้อ AFS Spirit โดยคุณมนตร์วงศ์ ภัทรวิทย์
ความแตกต่างไม่ก่อให้เกิดความแตกแยก เพื่อสร้างสันติภาพในโลก
ข้อมูลสำคัญ
สำนักงานเอเอฟเอสทั่วโลก 60 แห่ง
เจ้าหน้าที่เอเอฟเอสทั่วโลก 1200 คน
อาสาสมัครเอเอฟเอส ทั่วโลก 50,000 คน
ประเทศสมาชิกเอเอฟเอสทั่วโลก 90 ประเทศ
ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มาประเทศไทย 200 คน/ ปี ( ผู้เข้าร่วมโครงการชาวไทยไปต่างประเทศ 800 คน/ ปี)
ผู้เข้าร่วมโครงการ (นักเรียนแลกเปลี่ยน / Community Service / TA –teacher assistance ) ทั่วโลก 12000 คน/ ปี
แผนงาน AFS โลก มีการจัดทำ วิสัยทัศน์ ทุก 10 ปี วิสัยทัศน์ปัจจุบัน อยู่ในระหว่างปี 2010-2020
หลักการ
นำ Outcome มาเป็นตัวตั้ง 3 Key Focus
1. AFS Effect - Global Citizens
คนกลุ่มนี้จะเป็นผู้เผยแพร่ให้เห็นความต่าง ที่ไม่สร้างความแตกแยก สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
2. Globalize Schools & Institutes
ประเทศที่มีวินัย เขาจะปลูกฝัง บ่มเพาะตั้งแต่ต้นทาง คือ สถาบันครอบครัว และสถาบันการศึกษา
3. Expand Access to Intercultural Education
ขยายโอกาสไปให้กับกลุ่มเด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยให้ทุนไปศึกษาเรียนรู้
*** ครอบครัวอุปถัมภ์ เป็นผู้นำให้เกิด Experiential Learning เปิดบ้านให้ชาวต่างชาติซึ่งมีความต่างวัฒนธรรม ไปอยู่ด้วยกัน โดยไม่คิดเงิน ให้เขามาเรียนรู้ สร้างความประทับใจให้กับพวกเขา เป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ชีวิตThe life long Learning ***
สมาชิกเอเอฟเอสที่ส่งจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการฯ เป็นจำนวนมาก 3 อันดับ
อันดับ 1 .USA
2. ITALY
3. Thailand
ทั้ง 3 ประเทศมีการบริหารจัดการด้วยรูปแบบคล้ายคลึงกัน คือ School Based
การประชุม Orientation Materials
มีการลงมติว่าจะมีการใช้ AFS World Café เป็นช่องทางการสื่อสาร ซึ่งสามารถจะแชร์ โพสต์ ประกาศ ประชาสัมพันธ์ หรือขอความช่วยเหลือได้ทุกเรื่อง ซึ่งทาง Facebook ได้แบ่งพื้นที่ให้ใช้ได้ฟรีเรียกชื่อว่า AFS Workplace ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ
งานเลี้ยงสังสรรค์และขอบคุณครอบครัวอุปถัมภ์และผู้ประสานงาน AFS Family Party 2018
การแสดงของกลุ่มผู้ประสานงาน และครอบครัวอุปถัมภ์
การประกวด King & Queen of AFS Family 2018
นพ.เจริญ ปฏิภาณเทวา กรรมการมูลนิธิ ฯ ผู้ดูแลงานฝ่ายครอบครัวอุปถัมภ์ ให้เกียรติมอบสายสะพายและของรางวัลแก่ผู้เข้าประกวด
การมอบรางวัลครอบครัวอุปถัมภ์ที่รับมายาวนานและแก้ปัญหาได้มากที่สุด
การจัดกิจกรรมเสริมและเสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมช่วงปิดภาคเรียนให้กับผู้เข้าร่วมโครงการฯ
ผู้เข้าร่วมประชุมฯ ให้ความสนใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมอย่างดียิ่ง
มีการแบ่งกลุ่มไปตามภาค รวมเป็น 4 กลุ่ม เพื่อระดมสมอง และช่วยกันสรรหากิจกรรมที่สามารถจัดขึ้นให้กับผู้เข้าร่วมโครงการฯ ที่สนใจจะเข้าร่วมในช่วงปิดภาคเรียน เช่น การเรียนนวดแผนไทย การเรียนรู้และฝึกสมาธิ การเรียนมวยไทย การไปทัศนศึกษาและเรียนรู้วิถีไทย ฯลฯ
ตัวแทนของแต่ละภาคนำเสนอกิจกรรมเด่น ภาคละ 2 กิจกรรมบนเวทีใหญ่ เพื่อให้เห็นแบบอย่างของการจัดกิจกรรมเสริมฯที่น่าสนใจ
ผลจากการประเมิน ทั้งการสัมภาษณ์และการติดสติ๊กเกอร์ รวมทั้งการทำแบบประเมินผล ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจในการเข้าร่วมประชุมในทุกๆด้านๆ สูงถึงร้อยละ 80
นับว่าการจัดประชุมครั้งนี้ ประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง ขอขอบพระคุณอาสาสมัครเอเอฟเอสประเทศไทย ผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน ทีมวิทยากร และผู้มีส่วนสนับสนุนทั้งทางตรงและโดยอ้อม มา ณ โอกาสนี้นะคะ
*** น่าภาคภูมิใจ ที่คุณเป็นหนึ่งในบุคคลที่กำลังบันทึกประวัติศาสตร์ในการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่ช่วยกันสร้างสันติสุข ให้เกิดแก่มวลมนุษยชาติ ***
*** ขอขอบคุณผู้เข้ามาเยี่ยมชมทุกท่านนะคะ ***
ขอบคุณนะคะ สรุปเฉพาะสาระสำคัญเองค่ะ
สุดยอดเลยคะพี่พร
สุดยอดเลยคะพี่พร
** ขอบใจนะจ๊ะ น้อง Pom หนูก็เป็นส่วนสำคัญ ในบันทึกประวัติศาสตร์จ้า **