ชื่อจริง ของเครื่องหมาย #


ี#-sign

ชื่อจริง ของเครื่องหมาย #

ผู้ใช้ Facebook และ Twitter ใช้วิธี tag เพื่อน ด้วยเครื่องหมาย @

และ tag หัวข้อบทความด้วยเครื่องหมาย #

เช่น #WordoftheDay ที่จะพบเรื่องของคำที่เอาขึ้นไว้

เครื่องหมาย # ที่ใช้ทั่วไปเรียกว่า "pound sign" "number sign"และ 

        "hashtag" ที่เรียกล่าสุด

เรียก pound sign เพราะมาจากสัญลักษณ์ ที่เป็น

คำย่อของน้ำหนักคือ "lb" หรือ Latin เรียกว่า "libra pondo"

     แปลตามศัพท์ ว่า "pound by weight"

British English ใช้วลี "number sign" แทนคำ "pound sign"

เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้สับสนกับเครื่องหมายเงินปอนด์ของอังกฤษ

บางครั้ง เรียก # ในการพูดว่า "number" เช่น"number two pencil"

ชื่อเป็นทางการ คือ octothorpe เป็นคำที่สร้างขึ้นใหม่

โดยวิศวกร ของ Bell Laboratories ทำนองเดียวกับที่สร้างคำ "telephone" 

         เมื่อต้นทศวรรษ 1960s

        เมื่อดัดแปลงแป้นโทรศัพท์ และ เพิ่มเครื่องหมาย #

        เพื่อส่ง คำสั่งเข้าสู่ระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์

ในเมื่อตอนนั้น ยังไม่มีชื่อให้ # ช่างจึงคิดว่าน่าจะเริ่มด้วย "octo-"

และต่อด้วยคำอื่น เพราะ มันมีรูปเป็น "แปดเหลี่ยมมน"

แต่ไม่ชัดเจนว่าคำที่ต่อน่าจะมาจากชื่อนักกีฬาโอลิมปิค Jim Thorpe 

            ใช่หรือไม่ ยังเป็นที่ถกเถียง

แต่อีกรายงานไม่ระบุที่มา อ้างว่ามาจากคำภาษา Old Norse

ที่หมายถึง "farm" หรือ "field"

ดังนั้น "octothorpe" คือ "eight fields."

มีการใช้ คำ "hash" มาก่อนคำเหล่านั้นแต่ไม่นิยม จนกระทั่งเมื่อไม่นาน 

         น่าจะเป็นเพราะ hash เป็นคำชวนนึกถึงอาหารเย็น

แต่แรกอ้างอิงถึง แถบเครื่องหมายบนอกเสื้อทหาร ในปี 1910

นับแต่ทศวรรษ 1980s ใช้อ้างถึงเครื่องหมาย #

และเมื่อ social media แพร่หลาย hashtagจึงกลายเป็น คำนิยม

นักดนตรี ใช้ # แสดงว่าเป็นsharp เพื่อให้ยกระดับเสียงขึ้นอีกครึ่ง


บรรณาธิการใช้ # เพื่อเว้นช่องว่างระหว่างประโยค


ใน ระหัส คอมพิวเตอร์ ใช้ # แสดงว่า ทุกสิ่งที่ตาม

       เป็นเพียง comment มิใช่คำสั่ง

หมายเลขบันทึก: 655659เขียนเมื่อ 16 ตุลาคม 2018 17:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม 2018 14:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท