นายเปรมประชา ศุภสมุทร ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกพันกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) มีมติเห็นไม่ให้เงินกู้เพิ่มเติมกับนักเรียนนักศึกษารายใหม่ที่จะมาขอกู้เงินในภาคการศึกษาที่ 2 ของปีการศึกษา 2549 นอกเหนือไปจากเด็กนักเรียนนักศึกษาที่ได้ขอกู้อยู่แล้วในภาคการศึกษาแรกที่มี 325,000 ราย จากสถานศึกษารวม 880 แห่ง วงเงินกู้ 4,800 ล้านบาท เนื่องจากรัฐบาลได้มีนโยบายชัดเจนที่ให้นำ กรอ. ไปรวมเข้ากับ กยศ. ให้เหลือเพียงกองทุนเดียวเพื่อให้ประโยชน์สูงสุดกับเด็กนักเรียนนักศึกษา ดังนั้น จึงเห็นควรให้รวมทั้ง 2 กองทุนไว้ด้วยกัน เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากและเป็นแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนต่อไป นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบข้อมูลการกู้เงินของเด็กนักเรียนนักศึกษา ที่ขอกู้เพิ่มเติมในภาคการศึกษาแรกของปีการศึกษา 2549 เนื่องจากสถานศึกษาบางแห่งไม่สามารถจัดส่งข้อมูลให้กับ กรอ. ได้ทันตามที่ กรอ. กำหนดไว้ จึงต้องนำข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดมาพิจารณาเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยมีจำนวนเพิ่มเติมไม่มากและไม่เกินวงเงินงบประมาณเดิมที่ได้รับการอนุมัติไปก่อนหน้านี้
นายเปรมประชากล่าวว่า กยศ. ยังได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลังเพื่อเสนอให้ยกเลิกมติ ครม. เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2547 ที่ระบุให้ยุติการให้เงินกู้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในระดับสายสามัญและสายอาชีพ เนื่องจากยังมีเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 5 และนักเรียน ปวช.ชั้นปีที่ 1 และ 2 อีกจำนวน 150,000 คน ที่ต้องการได้รับเงินกู้จาก กยศ. คิดเป็นวงเงิน 1,400 ล้านบาท แต่ไม่สามารถขอเงินงบประมาณจาก สำนักงบประมาณได้ หลังจากที่รัฐบาลได้ยกเลิกโครงการกองทุนเงินให้เปล่า ประกอบกับมีมติ ครม. ไม่ให้เงินกู้กับเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายทั้งสายสามัญและสายอาชีพทำให้ไม่สามารถของบประมาณได้ จึงทำให้ กยศ.ต้องขอให้กระทรวงการคลังยกเลิกมติ ครม. ก่อนที่จะเสนอขอแปรญัตติเพื่อของบประมาณเพิ่ม
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการรวม กรอ.เข้ากับ กยศ. เพื่อให้เป็นกองทุนเดียวตามนโยบายของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง นั้น เชื่อว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง ก่อนนำเสนอให้ ครม. พิจารณาเห็นชอบต่อไป โดยเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด
ไทยรัฐ 5 ธ.ค. 49
ไม่มีความเห็น