ผมได้หัวข้อบันทึกนี้ จากการประชุมพูดคุยกับ“ผู้ทรงความรู้ที่หายาก” ท่านหนึ่ง ของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง เพื่อเตรียมการ “ถอดความรู้”ที่หายากของท่าน เมื่อเช้าวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๑
ความรู้ที่เราต้องการคือความรู้จากการปฏิบัติที่ท่านทำงานมากว่า ๓๐ ปี เป็นการปฏิบัติริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ให้แก่บริษัท
เราถามท่านว่าในเส้นทางการทำงานและเรียนรู้ของท่าน มีทีมงานที่ร่วมทำและเรียนรู้หรือไม่ ท่านบอกว่า ที่จริงมีทีมงาน แต่คนเหล่านั้นไม่ได้ร่วมเรียนรู้มากนัก เพราะคนเหลานั้นต้องการทำงานในลักษณะที่มีรูปแบบวิธีทำงานที่ชัดเจน แต่งานที่ท่านทำเป็นงานที่เริ่มจากมโนทัศน์หรือจินตนาการ ว่าต้องการผลลัพธ์แบบไหน แล้วจึงคลำหาวิธีทำงานให้ได้ผลตามจินตนาการนั้น
ท่านบอกว่า ที่ท่านทำนั้นผิดเสียครึ่งหนึ่ง และโชคดีที่ผู้บริหารของบริษัทอดทนกับท่าน ในส่วนที่เป็นความผิดพลาด
ท่านผู้บริหารระดับสูงกว่าที่นั่งร่วมเสวนาด้วย บอกว่า บางเรื่องความสูญเสียหลายร้อยล้านบาท
เรากำลังพูดกันในเรื่องของบริษัทที่ธุรกิจแต่ละปีมีขนาดแสนล้านบาทนะครับ หลายร้อยล้านบาทจึงถือว่านิดเดียว และเมื่องานประสบความสำเร็จกำไรที่ได้ก็มากกว่าที่สูญเสียอย่างมากมายหลายเท่า
จุดเรียนรู้คือ หัวใจของการจัดการความรู้เริ่มที่เป้าหมายที่แจ่มชัด ความสามารถ “จินตนาการ”เป้าหมายที่แจ่มชัด คือการ “จัดการความรู้”อย่างหนึ่ง
การใช้ KM ในการทำงานสร้างสรรค์ ต้องเน้นจินตนาการ และต้องกล้าจินตนาการ และต้องหมั่นจินตนาการร่วมกัน
วิจารณ์ พานิช
๒๒ ส.ค. ๖๑
ลองผิด ได้บทเรียน ลองถูก ได้ประสบการณ์ เรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาด เพื่อ ทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่มีโครงการงานใด สละสลวยสวยงาม ราบรื่น หาก เล็งผลสำเร็จที่แท้จริง ดังนั้น การนำเสนอ เรื่องราว โครงการงานเพียงด้านสำเร็จด้านเดียว ไร้อุปสรรค จึงไม่ใช่โครงการงานที่เป็นไปได้จริง และที่ว่าสำเร็จนั้น คือ ไม่สำเร็จต่างหากเล่า…