รายวิชา ๐๐๓๒๐๐๔ ความเป็นมนุษย์และการเรียนรู้ มีจุดเด่นอย่างหนึ่งคือ ไม่มีการทดสอบกลางภาคเรียน ทำให้อาจารย์ผู้สอนในแต่ละกลุ่มการเรียน สามารถออกแบบลำดับของกิจกรรมการเรียนรู้หรือสลับบทเรียนให้เหมาะกับจังหวะ เวลา โอกาส เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ต้องการ
เห็นอาจารย์หลายท่านนำเอากิจกรรม "ผ่อนพักตระหนักรู้" มาเริ่มตั้งแต่สัปดาห์แรกๆ รู้สึกเห็นด้วย ที่จะ "เปลี่ยน" ทำให้นิสิตรู้สึกว่าวิชานี้ "เปลี่ยน" เปลี่ยนไปจากการเรียนการสอนแบบบรรยายบอกทั่วไป จึงเลือกที่จะใช้กิจกรรมนี้เช่นกัน
ผลลัพธ์การเรียนรู้ที่คาดหวัง
- ประสงค์ให้นิสิต บอกได้ว่า
- มนุษย์ประกอบด้วย ๒ ส่วน ได้แก่ ส่วนที่เป็นรูปธรรม คือ กาย (ร่างกาย) และส่วนที่เป็นนามธรรม คือ จิตใจ และสิ่งที่จิตใจปรุ่งแต่งขึ้น
- จิตใจทำหน้าที่คิดและรู้
- จิตใจจะทำงานร่วมกับสมองในการคิด
- นักประสาทวิทยาพบว่า มนุษย์มีคลื่นสมองแบ่งได้เป็น ๔ แบบ ได้แก่ (ไม่ต้องจำตัวเลข ให้รู้ความคิดรวบยอด)
- คลื่นเบต้า (Beta) ๑๓ -๓๐ เฮิรตซ์ เกิดในขณะเราทำกิจวัตรประจำวัน เคลื่อนไหวเยอะๆ
- คลื่นแอลฟา (Alpha) ๘-๑๒ เฮิรตซ์ เกิดเมื่อเราหลับตาผ่อนคลาย หรือกำลังใจจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นพิเศษ (นี่แหละที่ที่การเรียนรู้เกิดขึ้น)
- คลื่นเทต้า (Theta) ๔-๗ เฮิรตซ์ เมื่ออยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น หรือกำลังนั่งสมาธิอยู่ในระดับลึก
- คลื่นเดลต้า (Delta) ๐-๓ เฮิรตซ์ เมื่อเราหลับสนิท
- การทำงานของสมองแบ่งออกได้เป็น ๒ โหมด หลัก คือ
- โหมดปกป้อง เมื่อสมองทำงานอยู่ในโหมดนี้ การเรียนรู้จะไม่มีประสิทธิภาพ ใช้เพียงความจำระยะสั้น ร่างกายไม่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหลอหรือไม่เจริญเติบโต ลักษณะของคนที่สมองกำลังทำงานในโหมดนี้ ได้แก่ คนที่กำลังกลัว เกลียด โกรธ เครียด แค้น ฟุ้งซ่าน วิตก ฯลฯ สมองในโหมดนี้ คลื่นสมองจะอยู่ในย่าน คลื่นเบต้า
- โหมดเรียนรู้ เมื่อสมองทำงานในโหมดนี้ จะเรียนรู้ได้ดี จดจำได้ดี คล่องแคล่ว ว่องไวในการคิด ลักษณะของคนที่สมองกำลังทำงานในโหมดนี้ จะรู้สึกเบ่า ผ่อนคลาย โล่ง โปร่ง สบาย ไม่ฟุ้งซ่าน ฯลฯ
- วิธีหนึ่งในการทำให้สมองเข้าสู่โหมดเรียนรู้ คือการนอนหลับ เงียบหลับ โดยการวางใจให้สบาย ภายใต้เสียงเพลงบรรเลงในทำนองที่ใจชอบ (ตอนเองชอบ)
- ประสงค์จะให้นิสิตได้รับประสบการณ์ตรงในการเข้าสู่โหมดเรียนรู้ คลื่นสมองแอลฟา
กิจกรรมการเรียนรู้
- เล่าเรื่องธรรมชาติของมนุษย์และสมองของมนุษย์คร่าวๆ ให้พอรู้ว่า กำลังจะทำอะไรเพื่ออะไร (แบบเกริ่นๆ ไม่เน้นให้จริงจัง เพื่อไม่ให้นิสิตเครียดในการจดจำ)
- ร่วมกับนิสิตเลือกเพลงบรรเลงที่ชอบ โดยเปิดโดยตรงจากอินเตอร์เน็ต เพลงที่เราเลือกวันนั้นคือ เพลงนี้
- ปิดไฟฟ้าให้มืดสนิททั่วห้อง แล้วนอนเป็นตัวอย่าง ชวนเชิญให้นิสิตทุกคนนอนพักผ่อน... วันนี้เราจะนอนพัก
- สืบค้นหาบทกวีในอินเตอร์เน็ต แล้วอ่านด้วยเสียงความถี่ต่ำ จังหวะธรรมดา ... ผมอ่านบทแนะนำท่านติส นัท ฮัน และกวีเรื่อง "สายลมแห่งรัก" และ เล่าความรู้ที่ต้องการให้นิสิตทราบให้ฟัง
- ปล่อยให้นิสิตนอนประมาณ ๓๐ นาที
- สะท้อนการเรียนรู้ และบรรยายสรุป องค์ความรู้ที่คาดหวังให้นิสิตทราบ
สะท้อนผลการเรียนรู้
การเรียนรู้ครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมเรียน ๘๘ คน ลาเรียน ๑ คน ต่อไปนี้เป็นข้อสะท้อนก่อนเลิกชั้นเรียน ถึงสิ่งที่เกิดกับตนเองจากกิจกรรม "ผ่อนพักตระหนักรู้"
- รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ผ่อนคลายตามเสียงดนตรี
- รู้สึกสงบ มีสมาธิ
- นึกถึงโลกของตนเองที่สงบสบาย
- รู้สึกปล่อยวาง
- ได้นอน ได้พักผ่อน
- ได้คิดถึงตอนมัธยม
- เหมือนว่าได้อยู่กับตนเอง ได้คิดเรื่องต่างๆ ไปเรื่อยๆ มีสมาธิขึ้น
- ทำให้มีสติ
- รู้สึกมีพลัง
- รู้สึกสดชื่น
- ฯลฯ
นิสิตเกือบทั้งหมดสะท้อนลักษณะนี้ ยกเว้นนิสิต ๔ คน ที่ออกทำนองบ่นนิดหนึ่งถึงสถานที่และอากาศในห้อง ส่วนเรื่ององค์ความรู้ มีนิสิตสะท้อนมาในทำนองว่าได้ฟังเกี่ยวกับอะไรบ้างพอสมควร แต่ไม่มากนัก อย่างไรก็ดีการบรรยายสรุป และการพูดบ่อย ซ้ำ ย้ำ ทวน ก็จะช่วยให้นิสิตจดจำได้
ไม่ได้ถ่ายภาพตอน "ผ่อนพัก" แต่อยากบันทึกไว้ว่า เรา "ตระหนักรู้" ว่ากำลังเรียนรู้ร่วมกันด้วยภาพนี้