หนังสือ When : The Scientific Secrets toPerfect Timing (2018) เขียนโดยDaniel H. Pink เป็นหนังสือติดอันดับNational Best Seller ของสหรัฐอเมริกา แนะนำวิธีใช้เวลาในรอบวันให้เกิดผลดีที่สุด
เริ่มจากการทำความเข้าใจตนเองว่ามีธรรมชาติของความตื่นตัวในรอบวันแบบใดใน ๓ แบบ คือแบบไก่ แบบนกฮูก และแบบคนธรรมดา
คนทั่วไป (ราวๆ ร้อยละ ๗๐ - ๘๐ ) สมองและอารมณ์โปร่งตอนเช้า ตกต่ำตอนบ่าย แล้วฟื้นตอนเย็น และตรงกันข้าม อารมณ์บูดต่ำที่สุดตอนเช้า สูงสุดตอนบ่าย และกลับไปต่ำใหม่ในตอนเย็น
มนุษย์ไก่เข้านอนแต่หัวค่ำ ตื่นเช้า ช่วงเวลาสมองโปร่ง ตกต่ำ และฟื้น เร็วกว่าคนทั่วๆ ไปสองสามชั่วโมง มักเป็นคนอารมณ์มั่นคง มีความสุข และเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว
มนุษย์นกฮูกมีประมาณร้อยละ ๒๐ – ๒๕ (ตัวอย่างที่ยกกันทั่วไปคือยอดนักประดิษฐ์โธมัส แอลวา เอดิสัน) เป็นคนสมองโปร่งตอนสามทุ่ม หมดแรงตอนเที่ยงคืน ฟื้นตอนเช้า มนุษย์ชนิดนี้มีความริเริ่มสร้างสรรค์สูง ติดจะเจ้าอารมณ์ และซึมเศร้าง่าย
เขาแนะนำให้ทำความรู้จักตัวเองว่าเป็นมนุษย์ที่มีจังหวะเวลาในรอบวันแบบไหนใน ๓ แบบ แล้วกำหนดงานที่จะทำให้เหมาะต่อช่วงเวลาที่ตนสมองโปร่ง หมดแรง และฟื้น โดยช่วงสมองโปร่งควรทำงานแบบที่ต้องใช้การคิดวิเคราะห์ และใช้เวลาช่วงฟื้นทำงานสร้างสรรค์ และที่สำคัญหากต้องการคำแนะนำหรือการตัดสินใจจากคนอื่น ให้พยายามเลือกเวลาที่เขาสมองโปร่งอารมณ์ดี ซึ่งสำหรับคนทั่วไปคือเวลาเช้า
สำหรับช่วงเวลาหมดแรงเขาแนะนำให้งีบหลับ ๑๐ -๒๐ นาที อย่าให้นานกว่านั้น เพราะจะทำให้ยิ่งง่วง จะยิ่งดีหากดื่มกาแฟสักแก้วก่อนงีบ โดยเขาอธิบายว่ากว่าคาเฟอีนในกาแฟจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดและออกฤทธิ์ ใช้เวลาราวๆ ๒๐ นาที ตรงกับเวลาตื่นพอดี ตอนตื่นก็จะได้ผลดีสองต่อคือจากการงีบและจากกาแฟ การงีบนี้จะช่วยลดการทำงานผิดพลาดในช่วงหมดแรงลงไปได้มาก
หรืออาจหยุดพักสั้นๆ ไปเดินระยะทางสั้นๆในสวน หรือบริหารร่างกาย
หน่วยงานที่ต้องทำงานด้วยความแม่นยำ หาทางลดความผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด(เช่นโรงพยาบาล) จะหาวิธีบริหารงานให้เอางานยากๆและต้องการความละเอียดลออเป็นพิเศษมาไว้ตอนเช้า เอางานพื้นๆ ไปไว้ตอนบ่าย มีงานวิจัยเรื่องนี้มากมาย ที่บอกว่าความผิดพลาดจากงานตอนบ่ายได้ก่อความเสียหายที่ไม่คาดคิดมากมาย
รู้จักกาละอีกอย่างหนึ่งคือรู้จักใช้พลังของช่วงเริ่มโครงการในการทำ BAR (Before Action Review)เพื่อสร้าง shared vision ของทีมงาน และช่วงกลางโครงการที่มักเป็นช่วงพบความล้าช้าหรืองานไม่ค่อยเดิน ทีมงานต้องหารือกันจนเกิดพลังร่วมหรือแรงบันดาลใจร่วมกัน ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป
และในช่วงใกล้จบโครงการต้องร่วมกันทบทวนเป้าหมาย และระมัดระวังสมาชิกของทีมเกิดความสับสน ทำให้เกิดความระส่ำระสายในทีมงาน
เขาแนะนำให้ใช้ช่วงที่ชีวิตประสบความสำเร็จขั้นตอนหนึ่งแล้ว ให้เขียนจดหมายปิดผนึกถึงตนเองใน ๕ปีข้างหน้า ว่าคาดหวังชีวิตอย่างไร และไม่อ่านอีกเลย จนครบ ๕ ปีจึงนำมาอ่าน จดหมายจะทำหน้าที่เชื่อมต่อปัจจุบันกับอนาคตและเชื่อมต่ออดีตกับปัจจุบัน สร้างชีวิตที่มีรสชาติ มีแรงขับดันให้แก่ตนเอง
สุดท้ายเขาแนะนำการดื่มกาแฟว่าอย่าดื่มทันทีที่ตื่นนอน ให้ดื่มน้ำก่อน ค่อยดื่มกาแฟหลังตื่น ๖๐ - ๙๐ นาที ปล่อยให้ฮอร์โมน cortisol ทำหน้าที่ปลุกสมองให้ตื่น เพราะหากดื่มกาแฟทันที กาแฟจะไปปิดกั้นฤทธิ์ของคอร์ติซอล
วิจารณ์ พานิช
๑๖ ก.ค. ๖๑
ดิฉันจะเขียน จม.ปิดผนึกถึงตนเองเดี๋ยวนี้ค่ะ