นาทีชีวิต


หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า วันศุกร์ที่ ๑๕ มิ.ย. นี้เป็นวันหยุดของชาว ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องด้วยการเฉลิมฉลองออกจากการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม

มันคือวันหยุดราชการ

แต่ราชการงานโรงพยาบาลสงขลานครินทร์เปิดให้บริการตามปกติ เพราะคนไข้หลายคนถูกนัดล่วงหน้าเอาไว้แล้ว หลายคนรอเวลาผ่าตัดมานานหลายเดือน บางคนมีนัดกับหมอคนสำคัญ ดังนั้น นี่จึงเป็นที่มาของการเปิดบริการ 

อัตรากำลังอาจจะน้อยลงไปบ้าง เพราะเพื่อนๆคนทำงานที่เป็นมุสลิมได้หยุดงาน

และคนไข้ที่ผมได้เป็นหนึ่งในทีมรักษาที่สมบูรณ์แบบ (ผมเรียกมันว่า perfect team) ในวันนี้คือสาวมุสลิม

เธอตั้งท้องในขณะที่เป็นโรคหัวใจชนิดรุนแรง

เรื่องมันมีอยู่ว่า

คนท้องนั้น มีความเปลี่ยนแปลงของร่างกายมากมาย 

มีใครเคยสังเกตไหม คนท้องจะผิวคล้ำขึ้น มีเส้นดำๆขึ้นกลางพุง จั๊กแร้ดำ ข้อพับดำ คอดำ จิ๋มดำ นมใหญ่ขึ้นมากและหัวนมก็คล้ำเข้ม ขาบวม ตูดใหญ่ ดูยังไงก็หาความสวยได้ยาก 

แต่ก็นั่นแหละ สำหรับหมอสูติอย่างผม สตรีตั้งครรภ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเหล่านี้ คือความสวยงามทางธรรมชาติมากๆ เธอสวยตามแบบของเธอ  (จำไว้ เกิดเป็นหญิง ห้ามหยุดสวย ไม่ว่าเวลาไหนก็ตาม)

ระบบหัวใจและหลอดเลือดก็ไม่เว้นนะครับ หัวใจต้องแบกภาระบีบเลือดที่มีปริมาณมากขึ้นอีกเกือบ ๒ ลิตร ย้ำนะครับ ปริมาณเลือดเพิ่มมากขึ้นอีกเกือบ ๒ ลิตร ไม่ใช่เล่นๆ ถ้ายังนึกไม่ออก ก็ลองไปยกดรัมเบลน้ำหนักสักกิโล ยกขึ้นลงสัก ๕ เดือนดูก็ได้ อนุญาตให้พักเวลาเหนื่อยกับเวลานอนหลับนะครับ 

แต่หัวใจไม่ได้รับอนุญาตเช่นนั้น

มาถึงคนที่เป็นโรคหัวใจ

หมอสูติเกือบจะทุกคนในโลกนี้ แทบไม่อยากให้คนที่เป็นโรคหัวใจบางชนิดตั้งท้องเลย เพราะหลังจากตั้งท้องไประยะหนึ่งก็อาจจะถึงจุดหมดแรงของหัวใจจากการปั๊มเลือดที่เพิ่มปริมาณมากขึ้นนี้นี่เอง และมันก็เกิดขึ้นจริงๆมาแล้ว (หลายครั้งในชีวิต มีกี่คนแล้วหนา ที่เสียชีวิตขณะตั้งท้อง เพราะเธอเป็นโรคหัวใจ)

เธอคนนี้มีปัญหาลิ้นหัวใจตีบลิ้นหนึ่ง และรั่วอีกลิ้นหนึ่ง และตั้งครรภ์เป็นครั้งที่ ๒ 

อันที่จริงในการตั้งท้องครั้งแรกนั้น เธอได้รับการดูแลที่ต่างจังหวัด (เอ๊ะ แล้วหาดใหญ่ สงขลาบ้านผมนี่ ถือเป็นต่างจังหวัดด้วยเหมือนกันไหมหนา เขียนไปก็รู้สึกงงงง) เธอผ่านฉลุยและถูกผ่าท้องคลอดโดยไม่ได้คุยกันเรื่องการทำหมัน และเมื่อเวลาผ่านไป เธอจึงตั้งท้องมาในครั้งนี้ไง

ด้วยรอยโรคที่เธอเป็นอยู่นั้น หากมารับการฝากท้องที่เรา มักจะได้รับคำแนะนำอย่างหนึ่งห้อยท้ายการสนทนาเสมอๆ ก็คือ “จะให้หมอทำแท้งให้ไหม” 

เปล่าเลย พวกผมก็ไม่ได้พิสมัยการทำแท้งนักหรอก แต่เรามองเห็นหลุมที่ถูกขุดขึ้นมาเพื่อดักรอคนไข้ของเราอยู่ข้างหน้าแล้วนั่นไง เราจึงต้องถาม แต่เธอคนนี้ถูกส่งเข้ามาหาทีมเราเมื่ออายุครรภ์ล่วงเลยมานานจนทางเลือกนั้นมิสามารถให้ได้

สตรีตั้งครรภ์ตัวผอมกะหร่องก่องแก่ง หน้าตาซูบผอม ท้องเล็กกว่าอายุครรภ์ไปมาก คือคนที่ผมกำลังเล่ามา

เธอดูเหมือนสบายดีนะครับ ไม่มีลักษณะของอาการหัวใจล้มเหลว ดูดีทีเดียวเมื่อเทียบกับรอยโรครุนแรงที่เธอเป็นอยู่ แต่ลูกในท้องกลับแสดงอาการต่างออกไป เพราะมันไม่ยอมโตอย่างที่ควรจะเป็น 

อ.พี่เปิ้ลเข้ามาดูแลตามเคย

คนที่รู้จักอาจารย์ป้าคนนี้คงจะร้อง “อาจารย์เปิ้ลอีกแล้วเหรอ” 

ขำ.....

และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ 

สวรรค์ส่งป้าคนนี้มาเพื่อทำให้คนไข้ที่มีอาการหนักๆ รอดตายอยู่เสมอๆ

คนไข้คนนี้เธอถูกจัดการให้นอนโรงพยาบาลและวางแผนเรื่องการผ่าท้องคลอด พี่เปิ้ลเธอจัดการประสานงานตามความถนัดของเธอทันที 

ทีมหมออายุรกรรมโรคหัวใจ หมอผ่าตัดหัวใจ หมอดมยา และหมอเด็ก กระทั่งเมื่อทุกท่านทุกทีมได้รู้จักคนไข้หมดแล้ว วันผ่าตัดจึงถูกกำหนดขึ้น พร้อมๆกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นด้วยในทันที

ทำไมน่ะเหรอครับ ในเมื่อผมเล่ามาตอนต้น ว่าเธอคนนี้ดูสบายดีนี่นา 

ก็เรามองเห็นอุปสรรคของชีวิตไปอย่างทะลุปรุโปร่งเลยไง

เราคาดการณ์ว่า ทันทีที่เราเอาเด็กออก เอารกออก และมดลูกหดรัดตัวตามปกตินั้น มันจะบีบเอาเลือดปริมาณหนึ่งกลับเข้าหลอดเลือด และปริมาณที่ว่านี้มันก็มากพอที่จะทำให้หัวใจของเธอรับภาระไม่ไหว และอาจจะหยุดทำงานได้ทันที

แล้วไงล่ะ

ก็ตายน่ะสิครับ

ยัง ยังไม่ถึงขนาดนั้น เพราะในมือของทีมพี่เปิ้ล หากหัวใจคนไข้เกิดประท้วงขึ้นมา เราจะผ่าตัดหัวใจเพื่อเปลี่ยนลิ้นหัวใจกันตอนนั้นเลย เอากับเราสิ นั่นจึงเป็นที่มาว่า ทำไมหมอผ่าตัดหัวใจจึงมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมเรา (ทีมเธอ)

ดังนั้น ความเครียดจึงมีสูงมากเมื่อเราจะทำการคลอดเด็ก (เรียกได้ว่า ป้าเปิ้ลแทบจะนอนไม่หลับเลยทีเดียว แต่อันที่จริง ทีมของแกก็อาจจะนอนไม่หลับไปด้วย เพราะอาจจะได้รับโทรศัพท์จากอาจารย์พี่เปิ้ลได้ตลอดเวลา)

แล้วเวลานั้นก็มาถึง

“สวัสดีครับทุกท่าน” ผม หมอซึ่งถูกพี่เปิ้ลเลือกให้มาทำหน้าที่ผ่าท้องคลอดเอาเด็กออกในคราวนี้เริ่มกระบวนการสื่อสารสำคัญก่อนการผ่าตัด เราเรียกกระบวนการแรกนี้ว่า sign in เพื่อเป็นการตรวจสอบความพร้อมของทุกทีม เราจะขานชื่อคนไข้ ยืนยันวิธีการผ่าตัด รายนี้เราและคนไข้ตกลงพร้อมกันและยืนยันกันแล้ว ว่าจะทำหมันให้เธอด้วย เราตรวจสอบพร้อมกันว่ามีความจำเป็นต้องมีเซ็ตผ่าตัดหัวใจที่พร้อมเปิดทันทีที่มีการร้องขอ ยาที่จำเป็นมาพร้อมหมดแล้ว เลือดและสารประกอบบางอย่างถูกเตรียมไว้เรียบร้อย มีอาจารย์หมอผ่าตัดหัวใจมายืนรออยู่ในห้อง ทีมเครื่องปั๊มหัวใจและปอดเทียมก็มายืนรออยู่ หมออายุรกรรมโรคหัวใจ และหมอเด็กกำลังมา

นี่คือกระบวนการ sign in

หมอดมยาสลบขอเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการเตรียมคนไข้ เขาต้องเจาะหลอดเลือดแดงคาสายเอาไว้ แล้วต่อเข้าเครื่องประมวลผลตรวจวัดสัญญาณชีพ เจาะหลอดเลือดที่ต้นคอเพื่อวัดแรงดันเลือด ต่อเข้าเครื่องประมวลผลและเตรียมความพร้อมในการผ่าตัดหัวใจในกรณีจำเป็น

ก่อนเริ่มการดมยาสลบ ผมเดินเข้ามาหาเธอคนนั้น จับมือเธอแล้วบีบเบาๆ “วันนี้วันดีนะเธอ วันรายอ หมอหวังว่าทุกอย่างคงจะดีนะ อย่าลืมตื่นมาเจอลูกล่ะ” เธอยิ้มตอบอย่างอ่อนโยน

“พร้อมมั้ย” ผมถามดังๆเพื่อเตรียมผ่าตัดจริงๆแล้ว กระบวนการนี้ เราเรียกว่า “time out” นั่นคือการรวมสมาธิ และเริ่มการสื่อสารครั้งสุดท้ายก่อนลงมีดกรีดบนเนื้อผู้ป่วย

“ตกลงยืนยันการผ่าท้องคลอดและทำหมัน ผมเป็นหัวหน้าทีมนะครับ อ.เปิ้ลเป็นเบอร์ ๒ คุณหมอเอิร์ท เป็นเบอร์ ๓ คนอื่นมีใครบ้างช่วยบอกมาดังๆ” แล้วทุกคนก็ขานชื่อและหน้าที่ออกมา เครื่องมือผ่าตัดพร้อมแล้ว สัญลักษณ์การปราศเชื้อปรากฏ ทีมดมยาได้จัดการดมยาสลบแล้ว ยาฆ่าเชื้อถูกฉีดไปแล้ว สัญญาณชีพคนไข้ปกติ อาจารย์พงศ์เสน่ห์และทีมผ่าตัดหัวใจยืนอยู่ตรงนี้ หมอเด็กมาแล้ว พร้อมค่ะ” นี่คือการ time out ของเรา 

“ขอบคุณครับ ผมยังคงมีความกังวลเล็กน้อยเวลาคลอดเด็กนะครับ อาจจะคลอดยากเพราะตัวเล็กและหัวอยู่สูง ช่วยเตรียมคีมไว้ให้ด้วย และเมื่อรกคลอด ผมจะส่งสัญญาณให้ทราบพร้อมๆกันนะครับ” ผมสื่อสารเป็นครั้งสุดท้าย กราบอาราธนาหลวงปู่ทวดให้มาอยู่ในห้องผ่าตัดแห่งนี้ แล้วก็ลงมือกรีด

มันดูราบรื่น

ผมเข้าช่องท้อง พบพังผืดและมีกระเพาะปัสสาวะมาติดอยู่ที่มดลูกด้านหน้าค่อนข้างสูง ผมแยกและดันมันลง 

“ผมจะกรีดมดลูกนะครับ” ผมสื่อสารดังๆให้ทุกคนรับทราบ

“พี่ มันมีรกมาขวางนิดหนึ่งนะครับ ผมทะลวงผ่านมันเลยแล้วกัน เสียเลือดหน่อยนะครับ” ผมบอกพี่เปิ้ลดังๆ เพื่อให้คนอื่นในทีมได้ยินพร้อมๆกัน

“ขอคีม” ผมร้องเรียกหาเครื่องมือ ซึ่งมันก็ได้ในทันที เพราะถูกเตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ผมสอดคีมเข้าไปในมดลูก หนีบที่หัวเจ้าหนูน้อยนั่นอย่างเบาๆแล้วดึงมันออกมาจากมดลูก

“เด็กคลอดนะครับ” เรารีบตัดการตัดสายสะดือ เจ้าตัวน้อยตัวเล็กมาก ด้วยโรคของแม่ทำให้มันผอมแกร็น ตัวเหี่ยว เธอเป็นเด็กผู้หญิง 

“ขอต้อนรับสู่โลกใบนี้นะลูก” ผมพึมพัมในใจ

“เสียเลือดสักหน่อยนะครับ ผมผ่านรกเข้าไป” ผมบอกหมอเด็กในทันทีให้เขารับทราบ เนื่องจากเด็กอาจจะมีอาการซีดได้หลังจากนี้

“ผมจะคลอดรกแล้วนะครับ” ผมแจ้งออกไป เพราะความเป็นความตายของแม่จะอยู่ตรงนี้แหละครับ

“อาจารย์ ความดันตก” อาจารย์น้องมิ้วแจ้งมาจากหัวเตียง 

“ครับ พี่จะค่อยๆคลึงมดลูกนะครับ จะค่อยๆคลอดรกช้าๆ” ผมบอก หางตาพบว่า ทางหัวเตียงกำลังเริ่มชุลมุน ยาฉีดเพิ่มความดันเชือดถูกฉีดเข้าไป

“รกคลอดนะครับ ส่งไหมมาเลย ผมจะเย็บมดลูกอย่างรวดเร็ว”

“อาจารย์คะ หัวใจคนไข้เต้นเร็วจัง” เสียงส่งมาจากหัวเตียง ถึงตอนนี้ทุกคนเริ่มมีความเครียด หัวใจคนไข้เต้นเร็วราว ๑๕๐ ครั้งต่อนาที อาจารย์พงศ์เสน่ห์ยืนคุมเชิงอยู่ด้วยความสงบ

ยาลดการเต้นของหัวใจถูกฉีดเข้าไป

“ยังไม่ลงเลยอาจารย์ หัวใจเต้นแบบนี้นานๆคงไม่ดีแน่” หัวเตียงก็เริ่มเครียด

“cardioversion” นั่นคืออีกหนึ่งไม้ตาย การช๊อตหัวใจด้วยไฟฟ้า

“ทุกคนพร้อม ถอย หนึ่ง สอง สาม” ตัวคนไข้กระตุกจากการช๊อตไฟฟ้าครั้งที่หนึ่ง หัวใจลดอัตราการเต้นลงมาที่ ๑๑๐ ผมเย็บมดลูกเสร็จ และเริ่มทำหมัน

“มันเต้นเป็น ๑๕๐ อีกแล้ว” หัวเตียงส่งสัญญาณ

“เคลียร์ หนึ่ง สอง สาม ช๊อต” ตัวคนไข้กระตุกอีกครั้ง ผมทำหมันและรับรู้ถึงการกระเพื่อมของมดลูกตามจังหวะการเต้นของหัวใจและหลอดเลือดแดงใหญ่กลางท้อง มันยังเร็วอยู่

“เร็วอีกแล้ว เคลียร์ หนึ่ง สอง สาม ช๊อต” มันได้ผล หัวใจเริ่มลดจังหวะเต้นลงเหลือ ๑๐๐ ครั้งต่อนาที

ผมทำหมันเสร็จแล้ว ตรวจสอบในช่องท้องอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย

“ผมจะเย็บปิดช่องท้องแล้วนะครับ อีกอึดใจเดียว” ผมแจ้ง

“เครื่องมือ ผ้าก๊อซ ผ้า swab ครบค่ะ” พยาบาลผู้ส่งเครื่องมือผ่าตัดบอกในทีม แล้วผมก็ลงมือเย็บต่อไป

“อาจารย์ ไม่ไหวค่ะ มันขึ้นมาเป็น ๑๕๐ อีกแล้ว จะเอาไงคะ จะผ่าตัดหัวใจเลยไหม หนูกำลังคิดว่าจะไม่ไหวแล้ว” ทางหมอดมยาสลบมองหน้าพวกเราพลางหารือ

“ใจเย็นๆครับ มันยังไม่ถึงเวลานั้น รออีกนิด” อ.พงศ์เสน่ห์ยังคงยืนอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทีของอาจารย์ ผมรู้สึกอุ่นใจ

“เคลียร์ หนึ่ง สอง สาม ช๊อต” นี่ครั้งครั้งที่ ๔ แล้ว ถึงตอนนี้อาจารย์น้องมะลิ หมอดมยาสลบอีกคนหนึ่งก็เดินเข้าสมทบ

“เอาเลือดไปตรวจค่าแก๊ซ และความเข้มเลือดตอนนี้เลย” เธอออกคำสั่ง

“๓๙ ค่ะอาจารย์ มันขึ้นมาจาก ๓๔” เสียงรายงานค่าความเข้มเลือดดังมา

“งั้นก็คนไข้น่าจะขาดน้ำด้วย ใจเย็นๆ เราจะเพิ่มน้ำเข้าไปตอนนี้เลย” อ.น้องมะลิบอกทีมด้วยเสียงที่ดังฟังชัด และเพียงอึดใจ หัวใจของเธอคนนั้นก็ค่อยๆลดความเร็วลงมาจนเหลือ ๗๐ ครั้งต่อนาที ซึ่งทำให้หัวใจผมลดความเร็วลงมาด้วย ถึงตอนนี้ตัวเองรู้สึกชื้นที่ง่ามตูด

“เหงื่อมันไหลลงง่ามตูดเลยว่ะ” ผมพึมพัม

“มะลิครับ พี่เย็บเสร็จแล้ว จบการผ่าตัด” ผมแจ้งให้ทุกคนทราบ เมื่อสถานการณ์เริ่มควบคุมได้

“ขออนุญาต sign out นะครับ” ผมแจ้งทุกคนให้มีสมาธิในขั้นตอนสุดท้าย ผมแจ้งการผ่าตัด ความกังวลที่เหลืออยู่มีอะไรบ้าง อ.พงศ์เสน่ห์ขอให้ stand by ห้องเอาไว้จนถึงบ่ายโมง เผื่อว่าจะเกิดปัญหาจนต้องเข็นมาผ่าตัดหัวใจ (เผื่อไว้ไง) ทีมพยาบาลแจ้งเรื่องเครื่องมือต่างๆ ว่าเก็บเข้าที่จบครบทุกชิ้น ทางหัวเตียงแจ้งว่าสถานการณ์ดีขึ้น จะต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปไอซียูก่อน คุณหมออายุรกรรมหัวใจก็อยู่ตรงนี้ เธอจะอยู่ข้างๆคนไข้ไปตลอดเวลาช่วงนี้จนถึงไอซียู

เรียบร้อยโรงเรียนแขก เวลาในการผ่าตัด ๓๕ นาที แต่ผมเหนื่อยเหมือนวิ่งฮาล์ฟมาราธอนเป็นชั่วโมง (เอิ่ม..ปกติผมวิ่งมินิก็ใช้เวลาไป ๘๐ นาทีแล้วครับ ไอ้ที่บอกว่าชั่วโมงน่ะ โม้ไปอย่างนั้น)

คนไข้คนนี้รอดครับ 

พวกเราเหนื่อยหน่อย แต่เธอจะได้เห็นหน้าลูก และคงกลับไปเลี้ยงลูกได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้

ผมนี่โคตรภูมิใจในทีมเราจริงๆนะครับ

ทีมเราที่มี อ.ป้าเปิ้ล จะทำให้การประสานงานที่ยุ่งเหยิงและยุ่งยากเป็นไปได้อย่างเรียบร้อย เธอผู้มีความสามารถในการประเมินความเสี่ยงในกระบวนการรักษาขั้นตอนต่างๆ จะช่วยเตรียมความพร้อมของทีมได้อย่างไร้ที่ติ

ทีมเรามีหมอดมยาและพยาบาลที่เก่งมาก

ทีมเรายังมีหมออายุรกรรมหัวใจที่ช่วยดูคนไข้ตั้งแต่ก่อนผ่าตัด เริ่มผ่าตัด และต้องดูแลต่อไปหลังจากผ่าตัดจนรอดชีวิตได้แล้ว

ทีมเรายังมีหมอผ่าตัดหัวใจ ที่ทำงานจนลืมครอบครัวตัวเอง (อันนี้ผมว่าไม่ดีแฮะ) และมาเฝ้าคนไข้ให้เราอย่างที่เล่าให้ฟัง และมันก็เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง

ทีมเรายังมีพยาบาลห้องผ่าตัดที่คล่องแคล่ว ขออะไรได้อย่างนั้น ปรับเปลี่ยนชีวิตได้ตามหมอผ่าตัดจนกลืนกัน นี่ถ้าบอกว่าเป็นเสมือนผัวเมียกับหมอผ่าตัด ก็ไม่ผิดจนเกินไปนัก เพียงแต่งานนี้ ผัวสั่งเมียได้ ฮ่าฮ่าฮ่า 

และท้ายที่สุด ทีมผมยังมีหลวงปู่ทวดครับ ท่านนี้แหละ ช่วยผ่าตัดและห้ามเลือดเก่งนักแล

ธนพันธ์ ชูบุญง่ามตูดหายชื้นแล้ว

๑๖ มิย ๖๑

ปล.วันนี้เธอหายใจเองได้แล้ว ถอดท่อช่วยหายใจได้แล้วหนา

หมายเลขบันทึก: 648290เขียนเมื่อ 17 มิถุนายน 2018 09:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2018 09:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

แม้ว่าสถานการณ์จะเครียดสักนิด แต่ชอบอ่านเป็นที่สุด...

ขอบคุณคุณหมอที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยม  มองเห็นภาพความวุ่นวาย (ที่มีระบบ) ของทีมงานในห้องผ่าตัด แล้วต้องขอบคุณคุณหมอแทนคนไข้จริง ๆ  

รักหมดใจเลยค่ะ

ตื่นเต้นไปกับการทำงานเป็นทีมใหญ่ในการทำคลอดนี้ สุดยอดของสุดยอดเลยค่ะ

แม่ลูกและครอบครัวจะทราบไหมคะ กว่าจะรอดชีวิตมาได้มีใครบ้างที่ทำงานประสานกันอย่างไร้ที่ติ เหนือมาตรฐาน ถ้าเป็นดิฉัน ถึงแม้ว่าไม่รอดก็ไม่สามารถด่าหมอได้เลย ทุกท่านทำดีที่สุดแล้ว ขอบคุณคุณหมอทุกท่านและทีมแทนคนไข้และครอบครัวด้วยค่ะ พยายามนึกภาพใบหน้าคุณหมอที่บอกว่าโคตรภูมิใจคงเปล่งออร่าเต็มที่นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท