พบมณีล้ำค่าที่เขาค้อทะเลภู
วันที่ ๕ พย. ๔๘
ผมเปิดหนังสืออ่านประจำห้องพักที่เขาค้อทะเลภูออกอ่านด้วยความเคยชิน
คือเห็นหนังสือเป็นต้องอ่าน เล่มที่เตะตาผมชื่อ
“อิสรภาพเกิดขึ้นเมื่อคุณไม่รู้” สุวรรณา
หลั่งน้ำสังข์ แปลจาก Freedom from the Known
โดยกฤษณามูรติ จัดพิมพ์โดยมูลนิธิอันวีษกณา
หรือ The Quest Foundation, Thailand (๙/๒๖๖ หมู่
๗ ถ. พุทธบูชา แขวงบางมด เขตจอมทอง
กทม. ๑๐๑๕๐ โทร ๐ – ๒๘๖๙ – ๓๙๔๔ – ๔๕
www.anveekashana.org
www.kinfonet.org/Community/centres/Stream_Garden,
สวนสายน้ำและสำนักงานหาดใหญ่ : ตู้ ปณ. ๕
ไปรษณีย์ทุ่งลุง อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา
๙๐๒๓๐ โทร ๐๑ ๖๒๔ ๘๐๒๗, ๐๑ ๓๒๘ ๗๑๓๒ แฟกซ์ ๐
๗๔๒๕ ๗๘๕๕) แค่เพียงอ่านคำนำ
ผมก็รู้ว่าผมพบมณีล้ำค่าเข้าแล้ว
ต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งของคำนำ
“ชีวิตเราช่างตื้นเขินและว่างเปล่า
เราเป็นคนมือสอง” คำพูดดังกล่าวของกฤษณมูรติ
ได้สะท้อนถึงก้นบึ้งแห่งชีวิตของคนสมัยใหม่
ได้อย่างกระชับและท้าทายในเวลาเดียวกัน
เขาได้ชี้ว่า ผู้คนทุกวันนี้พอใจที่จะรับเอาความคิด ความเห็น
และสูตรสำเร็จจากภายนอกมาอย่างเซื่องๆ
แทนที่จะพยายามแสวงหาด้วยตนเอง เรายอมให้สิ่งต่างๆ
มามีอำนาจเหนือเราในทางจิตใจ และสติปัญญา
เพราะสิ่งนั้นจะช่วยให้เรามีความมั่นคงในชีวิต
เป็นเพราะเรากลัวที่จะสูญเสียความมั่นคงและความสะดวกสบาย
กลัวที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยว
เราจึงยอมให้ขนบธรรมเนียมประเพณีและผู้ปกครองมากำหนดครอบงำชีวิตเรา
ผลคือ เราไม่มีอะไรที่เป็นของเราเอง
“ไม่มีอะไรใหม่ในตัวเรา
ไม่มีอะไรที่เราได้ค้นพบเพื่อตัวเราเอง
ไม่มีสิ่งต้นแบบ ดั้งเดิม และกระจ่างแจ้ง”
แต่นั่นไม่ร้ายเท่ากับการที่เราตกเป็นทาสที่ไร้โซ่ตรวน
เราจะเป็นเสรีได้อย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อรู้จักแสวงหาด้วยตนเอง
เพราะการแสวงหาด้วยตนเองเท่านั้นที่จะทำให้เราเป็นอิสระจากพันธนาการทั้งมวล
กฤษณมูรติย้ำว่าการแสวงหาตนเองนั้น
เราต้องหมั่นสังเกตความเป็นไปในตนเอง
สังเกตดูความสุข ความทุกข์
ความภาคภูมิใจในความสำเร็จ
ความหม่นหมองเมื่อล้มเหลว
ตระหนักถึงความกลัว
ความวิตกยามประสบสิ่งไม่พึงปรารถนา
ทั้งนี้เพราะ
“การเป็นอิสระต้องการการตื่นตัวเต็มที่
ตื่นตัวต่อสิ่งที่เป็นไปในตัวคุณโดยปราศจากการเข้าไปจัดการแก้ไข
หรือสั่งมันว่าควรจะเป็นหรือไม่ควรจะเป็นเช่นใด”
กฤษณมูรติเป็นเสมือนศาสดาที่ปฏิเสธความเป็นศาสดา
เป็นเสมือนแห่งความเป็นอิสระเปิดกว้าง
“สิ่งที่ผมสนใจเพียงประการเดียวคือ
ปลดปล่อยมนุษย์ให้เป็นอิสระปราศจากเงื่อนไขใดๆ
อย่างสิ้นเชิง”
ท่านมีชีวิตอยู่ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๓๘ – ๒๕๒๙
เป็นปราชญ์และนักคิดอิสระผู้เป็นที่เคารพนับถือที่สุดคนหนึ่งของโลก
ในฐานะครูทางจิตวิญญาณ เมื่อยังเป็นเด็กหนุ่ม
สมาคมเทวญาณวิทยา
ได้ประกาศยกย่องเขาขึ้นเป็นศาสดาองค์ใหม่ของโลก
แต่ในปี พ.ศ. ๒๔๗๒
เขาได้ประกาศสลัดทิ้งบทบาทศาสดา
รวมทั้งสานุศิษย์ผู้ติดตามจำนวนมหาศาล
สลายสมาคมอัครสาวกอันใหญ่โตซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อประกาศศาสนาใหม่
หนังสือของกฤษณมูรติที่มูลนิธิอันวีกษณาจัดแปลและพิมพ์เผยแพร่ มีถึง
๒๑ เล่ม เช่น “พลังแห่งจิตเงียบ”
“ความรู้คือพันธนาการ”
“ศาสนาแบ่งแยกมนุษย์”
“เหนืออิทธิพลครอบงำ” เป็นต้น
วิจารณ์ พานิช
๖ พย.
๔๘
เขาค้อทะเลภู