บ่ายวันที่ ๑กุมภาพันธ์ ผมเลือกไปฟัง PS1.1 Lessons learned in managing emerging infectious diseases(EID) และชื่นชมผลงานของไทยในการป้องกันการระบาดของโรคMERS ที่นำเสนอโดยนพ. ธนรักษ์ พิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ที่เป็นศิษย์เก่า มอ. สมัยผมเป็นคณบดี
เริ่มจากเรื่องของประเทศปอร์ตุเกศที่เรียนรู้จากการระบาดของไข้เหลืองในสาธารณรัฐอังโกลา(อดีตเมืองขึ้นของปอร์ตุเกศ) นำมาพัฒนาระบบเฝ้าระวังของประเทศ เริ่มจากการพบว่ามียุง Aedes aegypti (พาหะไข้เลือดออก และไข้เหลือง) ในเกาะสองเกาะ ในปี ค.ศ. 2005 แล้วในปี 2012 ก็มีไข้เลือดออก เด็งกี่ ระบาดในเกาะนั้น นำไปสู่การพัฒนาระบบเฝ้าระวังและยุทธศาสตร์การรับมือ
ปี 2016 ไข้เหลืองระบาดในAngola ที่มีการติดต่อเดินทางไปมาหาสู่กับคนในประเทศปอร์ตุเกศ ทำให้ปอร์ตุเกศพัฒนาระบบประเมินความเสี่ยง (riskassessment) โดยมีทีมคณะทำงานจากหลายฝ่ายรวมทั้งจากองค์การอนามัยโลก
คณะทำงานเสนอแนะ ๓อย่าง (๑) ประกาศให้ประชาชนรับรู้ (๒) คนที่จะเดินทางไปอังโกลาฉีดวัคซีนและป้องกันยุงกัด (๓) ยกระดับการเฝ้าระวังและตรวจยุง
ข้อเรียนรู้จากประสบการณ์นี้คือ (๑) โรคจากพาหะนำโรคระบาดได้ตลอดเวลา เพราะไม่มีพรมแดนกักพาหะ และคน (๒) ดำเนินการและตัดสินใจร่วมกันเป็นทีมข้ามภาคส่วนข้ามทีม (๓)ความสามารถในการระดมทรัพยากร ผู้บริหารประเทศต้องเข้ามารับผิดชอบ (๔) มีการประเมินผลแผนดำเนินการ และปรับแผน
ที่จริงข้อเรียนรู้อยู่ในรายละเอียดที่นักจัดการเขาคุยกันรู้เรื่อง และการ ลปรร. นี้ได้ประโยชน์มาก
ผู้นำเสนอคนต่อไปเป็นศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยGeorgetownสหรัฐอเมริกา สรุปข้อเรียนรู้จากประสบการณ์รับมือการระบาดของ SARS, Flu, MERS, Ebola,Zika, Yellow Fever, และ Plague สรุปข้อเรียนรู้ ข้อ ดังนี้ (๑) ให้ความรู้แก่สาธารณชนทั้งในช่วงระบาดและช่วงยังไม่มีการระบาด เช่นสร้างอนุสาวรีย์ที่ระลึกถึงการระบาด (๒) ต้องยกระดับขีดความสามารถในการปฏิบัติต่อผู้ป่วยทางคลินิก
เรื่องต่อไปเป็นการรับมือการระบาดของไวรัสChikungunyaในประเทศอิตาลี ที่เมืองตากอากาศชายทะเลชื่อ Anzio ห่างจากโรม ๕๐ ไมล์ เริ่มวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๐ โดยที่โรคนี้เคยระบาดในอิตาลีมาแล้วในปี๒๕๕๐ ดังนั้นเมื่อมีการระบาดที่เมือง Anzio ทางการจึงเข้าไปจัดการระบบธนาคารเลือดป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสผ่านการบริจาคเลือด รวมทั้งมาตรการเฝ้าระวังอื่นๆ ทำให้โรคไม่ระบาดมากมาย ได้บทเรียน (๑) เน้นป้องกัน (๒) ต้องมีการประสานงานที่ดี ตามแนวทาง OneHealth (๓) ต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล (๔) ต้องมีข้อมูลปัจจุบัน (real-time) จากผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ (๕)เครื่องมือใหม่ด้านกีฏวิทยา
ประเทศที่ ๔ที่นำเสนอคือ ไทย โดยท่านรองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ. ธนรักษ์ พิพัฒน์ที่นำเสนอระบบควบคุมโรคระบาดแห่งชาติ โดยกรมควบคุมโรค ที่สามารถควบคุมโรค MERS ที่มากับผู้ป่วยจากตะวันออกกลางได้๑ รายในปี ๒๕๕๘ และ ๒ รายในปี ๒๕๕๙ ได้ย้ายไปดูแลในระบบแยกผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเฉพาะโรคติดเชื้อคือ รพ. บำราศนราดูร ทำให้ไม่เกิดการแพร่กระจายโรค ทั้งๆ ที่มีผู้สัมผัสผู้ป่วยหลายร้อยคน
ทั้งนี้ระบบเฝ้าระวังโรคMERS ของไทยได้มีมาตรการเฝ้าระวังอย่างจริงจังโดยเฉพาะคนที่เดินทางมาจากตะวันออกกลาง และเกาหลี (มีการระบาดที่เกาหลี)
มีการเขียน infographic ของ session นี้ไว้ ตามที่ผมนำรูปมาให้ชมแล้ว
วิจารณ์ พานิช
๓ ก.พ. ๖๑
ห้อง ๔๙๑๔ โรงแรมเซนทารา เซ็นทรัลเวิร์ล
I wonder how much of this excellent work is dependent on "open BIG data" (airline ticketing, airport immigration checkout, hospital databases,...) and what we are doing to maintain access to information...